นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ทำด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหลังตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบๆ สามเอเคอร์ คือสถานที่ที่แดเนียล แบรดลีย์ เจ้าของร่างสูงวัยสามสิบเอ็ดปี กำลังบังคับรถสปอร์ตคันหรูแบบเปิดประทุนเข้าไปยังหน้ามุขของตัวอาคารหลังใหญ่ ชายหนุ่มมีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม จมูกโด่งคมสันรับกับริมฝีปากหยักสวย ดวงตาของเขาเป็นสีดำสนิท เส้นผมตัดสั้นระต้นคอมีสีน้ำตาล เลือดในกายครึ่งหนึ่งเป็นสายเลือดของชาวอเมริกัน ส่วนอีกครึ่งเป็นของชาวไทยจากฝั่งมารดา ทันทีที่รถจอดสนิท ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากรถ พ่อบ้านในชุดฟอร์มคล้ายชุดของบริกรในห้องอาหารก็ขยับเท้ามาถึงทันที จัดการเปิดประตูรถให้โดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องออกปากสั่ง
“ขอบใจมาก”
แดเนียลบอกกับอลัน ร่างสูงกำลังจะก้าวลงจากรถสปอร์ตคันหรู แต่ต้องชะงักอยู่ตรงนั้น เมื่ออลันเอ่ยบางสิ่งออกมา
“เอ่อ คุณแดเนียลครับ”
“ว่าไง”
“มีผู้หญิงมาขอพบคุณแดเนียลครับ แล้วก็มีเด็กอายุประมาณขวบกว่าๆ มาด้วยครับ”
ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่ได้แปลกใจเลยสักนิดที่ได้ยินแบบนั้น ซ้ำยังถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเย็นชา ไม่มีอาการตื่นตกใจที่อลันรายงานมาแบบนั้น
“คนที่เท่าไรแล้วนะ”
“สักครู่นะครับ” อลันแสดงสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเปิดปากให้คำตอบแก่เจ้านายหนุ่ม “น่าจะเป็นคนที่สิบเก้า ไม่ก็คนที่ยี่สิบแล้วครับ”
“งั้นเหรอ”
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนเกือบชิด พลางพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายอีกระลอก ก่อนจะออกปากสั่งพ่อบ้านวัยกลางคนอย่างอลัน
“ปิดประตูรถซะ”
“คุณแดเนียลจะไปไหนครับ”
“ยังไม่รู้ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าบ้าน ฝากนายจัดการด้วยก็แล้วกัน ทำยังไงก็ได้ให้ผู้หญิงคนนั้นกลับไปซะ”
ว่าจบแดเนียลก็ขับรถออกไปทันที อลันแสดงสีหน้าลำบากใจ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธคำสั่งของเจ้านายได้ และเป็นอีกครั้งที่เขาต้องไปทำหน้าที่ขับไล่ผู้หญิงคนแล้วคนเล่าโดยวิธีละมุนละม่อม
‘คุณแดเนียลบินไปต่างประเทศครับ ไม่ทราบว่าจะกลับเมื่อไร ไว้คุณผู้หญิงค่อยมาใหม่นะครับ’
นั่นคือสิ่งที่อลันใช้กล่าวอ้าง ถึงแม้ว่าจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้แค่เฉพาะหน้า แต่เขานึกวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ ไว้เจ้านายหนุ่มมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนเมื่อไรนั่นละ ปัญหานี้คงจะจบได้ง่ายขึ้น แต่เขาคิดว่าเรื่องที่อยู่ในหัวคงไม่มีทางเป็นไปได้ หนุ่มเจ้าสำราญอย่างเจ้านายเขาน่ะหรือ จะแต่งงานมีภรรยาเป็นตัวตน
ไม่มีทาง
‘เลิกฝันลมๆ แล้งๆ เถอะไอ้อลัน’
อลันย้ำกับตัวเองอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวอาคารสีขาวหลังใหญ่ แล้วทำหน้าที่ได้รับมอบหมายถึงแม้จะไม่อยากทำนัก และหวังว่ามันจะสำเร็จเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
“ไปไหนดีวะ”
แดเนียลครุ่นคิดอย่างหนักขณะที่เขาขับรถสปอร์ตคันหรูไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย ใจจริงเขาก็อยากจัดการผู้หญิงพวกนั้นให้เด็ดขาด แต่เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นเด็กที่พวกเธอพามาด้วย ต้องไปนั่งตากแดดตากลมอยู่หน้าคฤหาสน์ เพราะสงสารเด็ก เขาเลยให้อลันจัดการด้วยวิธีละมุนละม่อม หากพวกเธอไม่พาเด็กมาด้วย เขาคงสั่งให้คนโยนออกนอกคฤหาสน์แบรดลีย์อย่างไม่ลังเล แต่ก็นั่นละ ในความเป็นจริงเขาทำแบบนั้นได้เสียเมื่อไรกัน
ผู้หญิงที่พาเด็กมาแอบอ้างว่าเป็นลูกของเขา บางคนเขาจำหน้าเธอไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยยุ่งเกี่ยวกับพวกเธอ ดีกว่านั้นหน่อยก็คือจำหน้าได้ แต่ก็จำชื่อใครไม่ได้สักคน อันที่จริงเขาไม่เคยคบหาผู้หญิงคนไหนจริงจัง มันอาจจะดูเหมือนเขาใจร้าย แต่เปล่าเลย เพราะก่อนที่เขาจะนอนกับใคร นั่นเพราะความยินยอมพร้อมใจ และของขวัญชิ้นใหญ่ที่พวกเธอชอบเป็นการแลกเปลี่ยน ไม่มีการบังคับฝืนใจ ทว่าพอพวกเธอรู้ว่าเขาเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลแบรดลีย์ มีทรัพย์สมบัติมหาศาล และที่สำคัญเขายังเป็นเจ้าของบริษัทซอฟแวร์ที่ใหญ่ที่สุดในนครนิวยอร์กอย่างดีเอ็น คอร์ป เป็นผู้ครอบครองคฤหาสน์แบรดลีย์แต่เพียงผู้เดียว เพราะพี่ชายของเขาเลือกที่จะดูแลฟาร์มม้าและสวนแอปเปิลที่เป็นสมบัติตกทอดมาจากมารดา ซึ่งฟาร์มและสวนแอปเปิลดังกล่าวอยู่ในรัฐวอชิงตัน ผู้หญิงพวกนั้นก็ยิ่งต้องการครอบครองเขา โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมาต่างพากันแวะเวียนมาที่คฤหาสน์ของเขาเป็นว่าเล่น
แต่ให้ตายเถอะ เด็กแต่ละคนที่พวกเธอพามาแอบอ้างไม่ได้เหมือนเขาเลยสักนิด ทั้งสีตา สีผม ร้ายสุดสีผิวที่แตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง
แล้วจะให้เขายอมรับได้อย่างไรว่าเขาเป็นพ่อของเด็กพวกนั้น ในเมื่อเขาป้องกันอย่างดีทุกครั้ง
แดเนียลสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ดูเหมือนว่านครนิวยอร์กจะมีแต่เรื่องวุ่นวายสำหรับเขาเกินไปเสียแล้ว เขาควรจะหลบไปพักผ่อนที่ไหนสักระยะแล้วกระมัง
พอคิดได้แบบนั้น แดเนียลก็ตัดสินใจหักพวงมาลัยเลี้ยวรถมุ่งหน้าไปทางสนามบินอย่างกะทันหัน ทำเอาคนที่ขับรถตามหลังเหยียบเบรกจนตัวโก่งพลางก่นด่าไล่หลัง ทว่าชายหนุ่มไม่ใส่ใจ เหยียบคันเร่งด้วยความเร็วสูงสุด ทว่าไม่เกินที่กฎหมายกำหนด เขามีสัมภาระอยู่ในกระเป๋าเป้ใบโตพร้อมอยู่ในรถ เพราะเขาต้องเดินทางบ่อย ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องกังวล รู้แต่เพียงว่าต้องการไปให้ถึงสนามบินโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายจากนครนิวยอร์ก มหานครที่ไม่เคยหลับใหลเสียที
แดเนียลก้าวเข้าสู่บริเวณสนามบินพร้อมกระเป๋าสะพายใบใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาสวมแว่นกันแดดสีดำแบรนด์ดังพร้อมหมวกแก็บสีเดียวกัน ร่างสูงทิ้งตัวลงตรงม้านั่งสำหรับผู้โดยสาร มาถึงตรงนี้ชายหนุ่มยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปพักผ่อนที่ไหนดี แต่จู่ๆ เขาก็คิดถึงสถานที่ที่หนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือเมืองแบบชนบท หากได้พักผ่อนในสถานที่อากาศดีๆ อาจจะช่วยให้เขาผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย และรัฐเท็กซักก็คือตัวเลือกที่ดีสำหรับเขา ก่อนที่ร่างสูงจะตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์สีเข้ม หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทร.ออก เพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ครับคุณแดเนียล”
“จัดการเรื่องงานให้ฉันด้วย เรื่องไหนเห็นว่าสมควรนายก็ตัดสินใจแทนได้เลย แต่ถ้าเรื่องไหนนายจัดการไม่ได้ ก็ไสหัวออกไปจากบริษัทฉันซะทิม”
ทิมคือเลขาฯ หนุ่มวัยสามสิบห้าปีของแดเนียล และทิมก็ช่วยแดเนียลจัดการในเรื่องต่างๆ นอกเหนือจากเรื่องงานในบริษัท หน้าที่ของทิมก็คือจัดการทุกๆ เรื่อง แล้วแต่เจ้านายหนุ่มจะออกปากสั่ง และไม่จำกัดช่วงเวลา เอาเป็นว่าหากเจ้านายต้องการเรียกใช้เมื่อไร เลขาฯ หนุ่มอย่างทิมก็พร้อมปฏิบัติการได้ทันที