~ปรินซ์~
จากวันที่ควีนขึ้นไปหาผมที่ห้องนอน เหมือนเธอจะทำตามที่พูดไว้จริงๆ เพราะหลังจากวันนั้นควีนก็ไม่เคยมายุ่งวุ่นวายกับผมอีกเลย ทั้งในมหาวิทยาลัย คอนโด หรือว่าที่บ้าน ผมรู้สึกดีมากที่ไม่มีคนมาคอยกวนใจ แต่ทำไมอีกใจลึกๆ ผมรู้สึกเหงาๆ ยังไงก็ไม่รู้ เหมือนชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่าง
“ไอ้ปรินซ์ ทำไมช่วงนี้ว่าที่คู่หมั้นคนสวยของมึงไม่มาหาแล้ววะ?” เสียงของไอ้วายุถามผม
“ไม่มาก็ดีแล้วปะ? มึงจะพูดถึงยัยตัวร้ายทำไมเดี๋ยวก็โผล่มาหรอก”
“กูก็แค่สงสัยเพราะอาทิตย์นี้กูยังไม่เห็นน้องเค้าเลย” วายุเอ่ยออกมา
“ตั้งแต่นี้ต่อไปยัยตัวร้ายจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับกูอีกแล้ว”
“มึงไปทำอีท่าไหนวะ? บอกกูหน่อยสิ กูอยากรู้อ่ะ” คราวนี้เป็นเสียงของออกัสเอ่ยถาม
“พวกมึงอย่ารู้เลย..”
“พอน้องเค้าไม่มาก็เงียบไปเหมือนกันนะ..ไม่ได้ยินเสียงมึงกับน้องเค้าทะเลาะกันแล้วรู้สึกแปลกๆ” วายุเอ่ยออกมา
“ใช่! มันเงียบเหงายังไงก็ไม่รู้” ออกัสสนับสนุนอีกเสียง
“แต่กูว่าดีเสียอีก..แบบนี้แหละเงียบหูดี” ผมตอบพวกมันกลับไป แต่ใจลึกๆ ผมก็คิดเหมือนพวกมันนะ แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วแหละ เพราะผมเองก็เบื่อเวลาที่ต้องเจอกันยัยตัวร้าย เบื่อที่ต้องทะเลาะกัน
“เออ กูว่าคืนนี้เราไปผับกันดีกว่า” เสียงของออกัสเอ่ยชวน
“ไปดิ” วายุตอบออกมา
“เออ ไปก็ไป” ผมตอบตกลงเพราะผมก็รู้สึกเบื่อๆ เซ็งๆ เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
~ควีน~
“ควีน แกตัดใจจากพี่ปรินซ์ได้แล้วจริงๆ เหรอ?” เสียงของเอพริวถามฉัน
“ได้ไม่ได้ก็ต้องได้แหละแก..เค้าพูดขนาดนั้นแล้ว”
“ดีแล้วแหละ..แกจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจอีก เสียดายเวลาที่ผ่านมา แกน่าจะตัดใจได้ตั้งนานแล้วนะ” แอนนาเอ่ยออกมาอีกคน
“ใช่แก ฉันไม่น่าไปเสียเวลาให้กับคนที่เค้าไม่เคยเห็นค่าฉันเลยเนอะ ยังไงก็ต้องขอบใจพวกแกมากนะที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด” เอพริวกับแอนนาเป็นเพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่เรียนอยู่ม.ต้น จนถึงเรียนมหาวิทยาลัย พวกเราก็ยังเรียนคณะเดียวกัน เอพริวกับแอนนาเป็นเพื่อนรักของฉันจริงๆ
หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็นานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ฉันไม่ได้ไปหาพี่ปรินซ์อีกเลย ฉันพึ่งค้นพบว่าการที่ฉันไม่ได้เห็นหน้าพี่ปรินซ์ ฉันก็ไม่ตายนะ ยังหายใจได้ ยังมีชีวิตอยู่ แถมยังไม่ต้องเอาตัวเองไปจมอยู่กับความเสียใจ ความผิดหวัง หรือความน้อยใจจากผู้ชายที่ไม่ได้รักฉันเหมือนที่ฉันรักเขา
ต่อไปนี้ฉันก็จะสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีพี่ปรินซ์อยู่ในชีวิตของฉันอีกต่อไป
“แก ฉันว่าพวกเราไปเที่ยวผับกันป่าว?” เอพริวถามออกมา
“ไปๆ” แอนนาตอบ
“โอเค งั้นคืนนี้เจอกันที่ผับxxx” ฉันบอกออกไป
ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง
~ปรินซ์~
“เฮ้ย! ไอ้ปรินซ์ นั่นมันว่าที่คู่หมั้นมึงนิ โคตรสวยเลยว่ะ” เสียงของวายุเอ่ยออกมา ผมหันไปมองตามที่ไอ้วายุบอก
เธอมากับเพื่อนของเธออีกสองคน แต่คนที่โดดเด่นที่สุดก็น่าจะเป็น ควีน เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีดำ กระโปรงแหวกขึ้นมาสูงจนเกือบจะเห็นขอบแพนตี้ ผมดัดเป็นลอนสีน้ำตาลเข้มถูกปล่อยยาวจนถึงกลางหลัง ตอนนี้เธอกับเพื่อนของเธอกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนาน
“เหอะ!” ผมเค่นเสียงออกมาจากลำคอ
“มึงไม่ไปทักทายน้องเค้าหน่อยเหรอ?” ไอ้ออกัสถามผม
“ทักทำเพื่อ?” ผมถามกลับไปพร้อมกับยกแก้วเหล้าสีอำพันขึ้นมากระดกลงคอ พร้อมกับใช้หางตามองไปที่สาวๆ กลุ่มนั้น
ดูเธอแต่งตัว..กะจะมาอ่อยผู้ชายหรือยังไงกัน
สงสัยคงอยากจะมีผัวมากเลยสินะ..พอพลาดจากผมก็เลยต้องไปหาที่อื่น
“ก็ในฐานะคนเคยคุ้นกันไง” ออกัสตอบออกมา
“คุ้นเหี้ยอะไร ผู้หญิงแบบนี้กูไม่คุ้นด้วยหรอก” จากนั้นผมก็ดื่มเหล้าต่อโดยไม่สนใจเธออีกเลย
“กูไปห้องน้ำแป๊บนะ” ผมบอกกับเพื่อนก่อนที่จะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ทางด้านหลังของผับ
หลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำ รู้มั้ยว่าผมเจอใคร? ผมกับควีนเกือบจะเดินชนกัน
“ขอโทษครับ”
“ขอโทษค่ะ”
พอเราสองคนเงยหน้าขึ้นมา ผมและเธอทำหน้าตกใจด้วยกันทั้งคู่ ไม่นานนักเธอก็เดินหลบไปอีกทาง
“เดี๋ยวสิ..จะรีบไปไหน ไม่คิดจะทักทายกันบ้างเหรอ” ผมดึงแขนเธอเอาไว้แล้วถามออกไป เธอพยายามสะบัดแขนออกจากมือของผม
หึ! แตะต้องไม่ได้เลยหรือไง? ทำเป็นรังเกียจผมงั้นเหรอ?
“ปล่อยควีนนะ”
“ทำไม? เดี๋ยวนี้แตะต้องไม่ได้เลยหรือไง”
“นี่พี่เป็นบ้าหรือยังไง เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าต่อไปถ้าเราเจอกันเราก็จะทำเป็นไม่รู้จักกันไง พี่เกลียด ควีนมากไม่ใช่เหรอ? แล้วพี่จะมายุ่งกับควีนทำไม?”
“ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอก..ถ้าเธอไม่ใช่ลูกของน้าพิมพ์ แล้วนี่แม่ของเธอรู้รึป่าวว่าลูกสาวมาเที่ยวที่แบบนี้ แล้วก็แต่งตัวมาอ่อยผู้ชายแบบนี้อ่ะ”
“ควีนจะทำอะไรมันก็เรื่องของควีน พี่ปรินซ์ไม่ต้องมายุ่ง”
“อยากมีผัวมากนักหรือไงห๊ะ? พลาดจากฉันถึงกับต้องมาหาเหยื่อคนใหม่เลยเหรอ?”
“ควีนอยากจะมีผัวหรือไม่มีแล้วพี่ปรินซ์จะมายุ่งทำไม? มันไม่ใช่เรื่องของพี่ปรินซ์ ปล่อยได้แล้วควีนเจ็บ”
“คิดว่าอยากจะจับนักหรือไง” พูดจบผมก็ปล่อยมือจากแขนของเธอ แล้วเธอก็รีบเดินหนีผมไปทันที
~ควีน~
“ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะแก?” เสียงของเอพริวถามออกมาเมื่อฉันเดินมาถึงโต๊ะ
“รู้มั้ยว่าฉันไปเจอใครมา?”
“ใครวะ?” แอนนาถาม
“ฉันไปเจอพี่ปรินซ์มาน่ะสิ”
“จริงเหรอแก..แล้วยังไงต่อ?” เอพริวถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ฉันอุตส่าห์ไม่สนใจ แต่พี่ปรินซ์นะสิ แม่ง! กวนประสาท” จะว่าไปฉันก็ทำได้แล้วนะ เวลาที่ฉันเห็นพี่ปรินซ์ ความรู้สึกดีใจมันหายไป หัวใจของฉันมันไม่เต้นแรงแล้ว แสดงว่าฉันตัดใจจากพี่ปรินซ์ได้แล้วใช่มั้ย? ถ้าใช่..ชีวิตของฉันจะได้มีความสุขสักที ไม่ต้องคอยไปวิ่งตามคนที่เค้าไม่รัก
“ช่างเถอะแกอย่าไปใส่ใจ มาสนุกกันต่อดีกว่า” สิ้นเสียงของแอนนา พวกเราก็ดื่มแล้วก็เต้นกันอย่างสนุกสนาน ฉันไม่สนใจที่จะมองหาด้วยซ้ำว่าพี่ปรินซ์นั่งอยู่ตรงไหน
จนถึงเวลาตีสอง ผับปิดพวกเราก็ขับรถกลับคอนโดของใครของมัน พวกเราไม่ได้ดื่มกันมาก จึงไม่ได้เมา ทุกคนยังมีสติดีอยู่
หลังจากที่พวกเรากลับถึงคอนโด ต่างก็ส่งข้อความเข้ามาในกลุ่ม จากนั้นฉันก็สลบไสลเพราะใช้พลังในการแดนซ์สุดเหวี่ยงเยอะไปหน่อย