ความพยายาม

1688 Words
“พี่วัธน์ขา น้องเอยรออยู่นะคะ” เสียงหวานของน้องเอยปลุกชายหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ ให้หันมามองหน้าเธออีกครั้ง เมื่อครู่เธอทำให้เขาได้ปลดปล่อยไปแล้วด้วยปากเล็กๆ ของเธอ และมันถึงเวลาที่เขาควรจะเดินหน้าต่อ แต่แล้วเจ้าน้องชายของเขากลับไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด “ขอโทษนะครับ น้องเอย พอดีพี่นึกได้ว่ามีธุระด่วน” “พี่วัธน์จะมาทิ้งกันไว้อย่างนี้ไม่ได้นะคะ” หญิงสาวออดอ้อนด้วยเสียงหวานพลางเข้ามาเบียดกายนุ่มกับท่อนเอ็นที่หลับใหลไปแล้วอย่างยั่วยวน “ไม่ต้องกังวลนะครับ เดี๋ยวจ่ายพิเศษให้ พี่ต้องไปจริงๆ ครับ” เอาโอนเงินให้กับเด็กสาวตามราคาที่โมเดลลิ่งแจ้งบวกกับค่าเสียเวลาอีกเท่าตัว ก่อนที่จะรีบสวมเสื้อผ้าแล้วกลับออกมาอย่างคนหัวเสีย เมื่อครู่ที่เขาได้ปลดปล่อยมันไม่ใช่เพราะเธอทำให้เขามีความสุข แต่เพราะตอนนั้นเขาเพิ่งอ่านนิยายอีโรติกก่อนที่เธอจะเข้ามาหา กวีวัธน์ไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่นี้มันเพราะอะไร ทำไมเขาถึงมีอารมณ์กับการอ่านหนังสือเท่านั้น ชายหนุ่มรีบโทรศัพท์ไปปรึกษากับอิศเรศโดยไม่สนใจว่าเวลานี้เจ้าตัวจะกำลังพักผ่อนอยู่หรือเปล่า “เรื่องด่วนเหรอวัธน์โทรมาดึกเลยนะ” “ขอเวลาคุยด้วยหน่อยว่างไหม” “ว่างแค่ครึ่งชั่วโมงนะคุยมาเลย” กวีวัธน์เล่าอาการของตัวเองให้กับเพื่อนฟังอย่างไม่มีอะไรต้องอาย ทางด้านอิศเรศฟังแล้วก็ทั้งสงสารและทั้งขำที่เพื่อนของตัวเองกลายเป็นคนมีอารมณ์ตอนอ่านนิยายแต่พอขึ้นเตียงจริงๆ กลับปลุกเจ้าน้องชายไม่ขึ้น “ฉันว่านายน่าจะลองไปเจอนักเขียนคนนี้ดูนะ เผื่อว่าเธอจะช่วยนายได้” “จะให้ฉันเดินไปบอกเขายังไง คุณช่วยผมหน่อยนกเขาผมไม่ขันแต่มันขันตอนอ่านนิยายของคุณ เขาได้หาว่าฉันเป็นบ้าน่ะสิ” “ไม่ต้องทำขนาดนั้นหรอก ก็แค่ไปคุยด้วยตีสนิท จากนั้นก็ลองถามว่าเธอไปเอาเรื่องราวจากไหนถึงเขียนได้ดีขนาดนั้น” “มันน่าอายจะตาย” “ลองก่อนน่า บางทีนักเขียนเขาก็มีข้อมูลดี ๆ เยอะ ไม่ได้บอกให้ไปนอนกับเขาสักหน่อยแค่ไปลองคุยด้วย” “ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เห็นแค่นามปากกากับเพจที่เขาคุยกับแฟนคลับของเขา” “มันจะยากอะไรถามญาดาสิ” อิศเรศหมายถึงลูกพี่ลูกน้องของเขาที่ทำงานเป็นบรรณาธิการอยู่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง “นั้นสิ ลืมนึกไปเลย ขอบใจนะเดี๋ยวจะลองโทรถามยายดาดู” พอวางสายจากเพื่อนไปแล้วเขาก็โทรศัพท์ไปหาญาติผู้น้องทันที “พี่วัธน์คะ มันใช่เวลาไหม ดาจะนอนแล้วโทรมาอะไรตอนนี้” “พี่มีเรื่องจะถาม ขอเวลาแค่ 5 นาที” “เรื่องอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญนะน่าดู” “สำคัญสิ มากด้วยถ้าดาช่วยพี่ สิ้นปีนี้เตรียมแพ็กกระเป๋าไปทัวร์ยุโรปได้เลย แถมพ็อกเก็ตมันนี่อีกให้อีกด้วย” เมื่อได้ยินข้อเสนอคนปลายสายก็ตาโตทันที แต่พอได้ยินว่าชายหนุ่มต้องการอะไรเธอก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ “พี่วัธน์ ดาไม่รู้ว่าพี่อยากจะเอาข้อมูลนักเขียนไปทำไม” “ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกน่า พี่ก็แค่อยากรู้จัก พี่อ่านงานของเขาแล้วมันสนุกดี ป้าอุ่นก็เป็นแฟนคลับของเขา พี่ก็เลยอยากรู้จักเผื่อจะได้พาป้าอุ่นไปเจอตัวจริง” “ให้ป้าอุ่นมาหาดาก็ได้ เดี๋ยวดาแนะนำให้รู้จักเองนะคะ” “พูดแบบนี้แสดงว่าดาจะไม่ช่วยพี่” “เหตุผลของพี่มันดูไม่ค่อยเมคเซ้นส์เท่าไหร่” “พี่รู้ว่ามันไม่เมคเซ้นส์แต่เชื่อเถอะพี่อยากเจอเธอจริง ๆ อยากรู้จัก” “จะจีบเธอเหรอคะ ดาบอกก่อนเลยรุ่นน้องคนนี้นิสัยดีและสวยมากถ้าพี่วัธน์คิดจะควงเล่นๆ อย่าหวังเลยว่าดาจะช่วย” “พี่ไม่คิดอะไรแบบนั้นเลย ดาก็รู้ว่าพี่เพิ่งผิดหวังเรื่องความรักมานะ พี่ไม่อยากกลับไปเป็นแบบเดิมอีกแล้ว” “หมายถึงจะอยู่เป็นโสดแบบนี้ตลอดเหรอคะ” “เป็นโสดก็ดีไม่ใช่เหรอ” “ดีตรงไหนคะ” “ถ้าไม่ดีแล้วดาจะโสดมาจนถึงตอนนี้เหรอ” คนพูดหัวเราะร่วนเพราะเขาไม่เคยเห็นญาดามีแฟนเลยสักคน “พูดแบบนี้ไม่อยากจะช่วยแล้ว” “โอ๋ๆ คนเก่ง พี่ขอโทษ บอกมาเถอะนะว่าเธอเป็นใคร” “ดาบอกพี่ก็ได้แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่ทำอันตรายเธอจะไม่คุกคามเธอ” “สัญญาเลยว่าแต่เธอสนิทกับดามากไหม” “ค่ะ พราวเป็นเพื่อนรุ่นน้องของดา” เมื่อได้คำตอบแล้วกวีวัธน์ก็รู้สึกว่าเรื่องมันง่ายกว่าที่คิด ถ้าเธอเป็นเพื่อนของญาดาเขากับเธอก็คงจะคุยกันได้ไม่ยาก “นัดให้พี่หน่อยได้ไหม” “ช่วงนี้ดาไม่ว่างเลยค่ะ แล้วพราวก็กำลังยุ่งเรื่องต้นฉบับอยู่ด้วย” “งั้นพี่จะเจอเธอได้ตอนไหน” “คงอีกสักพัก แต่ถ้าพี่รอไม่ไหวก็ติดตามเพจเธอไปก่อน” “พี่ติดตามอยู่แต่ก็ไม่เห็นมีรูปหรือข้อมูลส่วนตัวเลย” “ลองเข้าไปหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวสิ เดี๋ยวดาส่งลิงก์ให้” “ขอบใจมาก” พอวางสายจากญาดาแล้วเขาก็ส่งคำขอเป็นเพื่อนไป รอไม่นานฝ่ายนั้นก็กดรับเป็นเพื่อนคงเพราะเห็นว่ามีเพื่อนร่วมกันคือญาดาและรูปไปรไฟล์ที่เขาใช้ก็เป็นรูปหนังสือนิยายเล่มแรกของเธอ ซึ่งวันนั้นเขาถ่ายของป้าอุ่นเก็บไว้ กวีวัธน์ลังเลว่าจะทักทายเธอแล้วนัดเจอกับเธอเลยดีไหม แต่แล้วก็คิดว่ามันคงเร็วเกินไป เขาอยากทำความรู้จักกับเธออีกสักหน่อย เขายอมรับตามตรงเลยว่านักเขียนที่ใช้นามปากกว่าว่าพริบพราวนั้นดูมีเสน่ห์และน่าค้นหา เขามองรูปถ่ายของเธออย่างไม่รู้เบื่อ มองใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโต ริมฝีปากอิ่ม และอดคิดไม่ได้ว่ามันจะรู้สึกดีแค่ไหนถ้าได้อยู่ใกล้ๆ สัมผัสปากอิ่มนั้น เพียงแค่คิดเลือดในการก็สูบฉีด อะไรที่เคยหลับใหลก็เหมือนมีแรงกระตุ้น กวีวัธน์ชักไม่แน่ใจแล้วว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไรกันแน่ เมื่อหัวค่ำมีหญิงสาวหุ่นเย้ายวนอยู่ตรงหน้าแต่กลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอเห็นรูปคุณนักเขียนเขากลับรู้สึกถึงเรื่องอย่างว่าจนต้องพาตัวเองไปจัดการในห้องน้ำอีกครั้ง เรื่องนี้กวีวัธน์คงไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเพราะมันน่าอายเกินกว่าที่จะให้ใครรู้ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนคนโรคจิตไปทีละนิด และคืนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคืนที่ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่นอนหลับไปพร้อมกับนิยายของนักเขียนที่ชื่อพริบพราว ชีวิตประจำวันของกวีวัธน์ไม่มีอะไรมาก ตื่นเช้าไปทำงาน ตกเย็นก็กลับบ้าน บางครั้งก็นัดสังสรรค์เพื่อนบ้างแล้วแต่ว่าใครจะว่างมานั่งดื่มกับเขาด้วย ถ้าเป็นแต่ก่อนพอเลิกงานเขาก็จะออกไปทานข้าว ดูหนังฟังเพลงกับพรลภัสชีวิตช่วงนั้นมีความสุขจนไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะต้องเลิกกันไปแบบนี้ เรื่องแฟนสาวนอกใจเขาเองก็พอรู้อยู่บ้างแต่คิดว่าคงเป็นแค่ข่าวลือ เพราะเธอเป็นคนมีเสน่ห์และมีเพื่อนมาก จึงไม่ได้ระแวงเลยว่าหนึ่งในเพื่อนที่เธอไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคู่นอนของเธอในวันที่เขาบอกว่าติดงานและไปหาเธอไม่ได้ เพราะความรักที่ผิดหวังทำให้กวีวัธน์ไม่คิดจะคบกับใครอีกแล้ว อยากทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่มากกว่า ชายหนุ่มเป็นรองประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทของครอบครัว ซึ่งมีทั้งคอนโดมิเนียมหรู โครงการหมู่บ้านจัดสรรรวมไปถึงไปถึงที่ดินเปล่าอีกจำนวนมากที่บริษัทของเขาถือครองอยู่ “บอสอ่านนิยายด้วยเหรอคะ” ณิชามนเลขาสาวที่ทำงานกับเขามาสี่ปีถามด้วยความสงสัย เพราะปกติภาพที่ปรากฏบนหน้าจอไอแพดของเจ้านายจะเป็นกราฟหุ้นหรือไม่ก็ข่าวในแวดวงธุรกิจเท่านั้น “ไม่เชิงครับ ช่วงนี้ผมเครียด ป้าอุ่นก็เลยแนะนำให้อ่านอะไรที่เบาสมอง” ชายหนุ่มแอบขอโทษป้าอุ่นอยู่ในใจที่เอาชื่อมาอ้าง “อ้อ นินึกว่าบอสชอบอ่านงานของคุณพริบพราว” “คุณก็อ่านงานของเธอเหรอครับ” “ก็ต้องอ่านสิคะ ถ้าไม่อ่านเดี๋ยวเจ้าตัวก็จะงอนเอา” “หือ” บอสหนุ่มเลิกคิ้วอย่างสงสัย “เธอเป็นเพื่อนนิค่ะ” “อ้อ เหรอครับ” “ค่ะ ถ้าป้าอุ่นของบอสอยากได้ลายเซ็นก็บอกนะคะ ฝากหนังสือมาให้ก็ได้ค่ะ” “เดี๋ยวผมจะบอกป้าอุ่นให้นะครับ แกคงดีใจ” “แล้วบอสล่ะคะ ไม่อยากรู้จักเพื่อนของนิบ้างเหรอคะ” เพราะเห็นว่าบอสเพิ่งโสดและเพื่อนตัวเองก็โสด ณิชามนเลยแอบจับคู่ให้เสียเลย กวีวัธน์ไม่ได้ตอบเลขาสาวเพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าตัวเองกำลังสนใจนักเขียนคนนี้อยู่ ถ้าใกล้ตัวมากเกินไปก็กลัวความลับของตัวเองจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD