ความจริงที่เจ็บปวด

1554 Words
“พี่ขอพูดตรงๆ นะพราว” “ได้ค่ะพี่ดา” “ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบทั้งพล็อต เนื้อหา ปมต่างๆ รวมไปถึงการบรรยาย พราวทำได้ดี” “แต่...” เพราะคุ้นเคยกันมาหลายปี พราวหรือพราวรวีจึงรู้ว่าต่อจากนี้สิ่งที่ญาดาหรือพี่ดาเพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งตอนนี้ควบตำแหน่งบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งนี้ต้องมีอะไรพูดต่อจากนั้นแน่ๆ “เฮ้อ! เอาตรงๆ นะพราว ถ้าคนอ่านเพิ่งมาติดตามอ่านผลงานของพราวตอนนี้ก็คงชอบ เพราะมันสนุกและน่าตื่นเต้น แต่ถ้าคนที่ตามผลงานมาตั้งแต่หลายปีก่อน พวกเขาก็คงจะเริ่มเบื่อกันบ้าง” “เบื่อเหรอคะ” “อือ เพราะพี่สนิทกับพราวก็เลยพูดตรงๆ แบบนี้ โดยเพราะช่วงอีโรติก พี่ว่ามันไม่ค่อยถึงอารมณ์เท่าไหร่ คนอ่านเริ่มจับทางได้แล้ว” “พราวต้องทำยังไงคะ ต้องแก้ใหม่ทั้งหมดเลยไหมคะพี่ดา” “ไม่ขนาดนั้นหรอกนะพราว แค่ปรับตรงอารมณ์ของตัวละครช่วงอีโรติกก็พอ ใส่อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มเข้าไปอีกนิด” “งานยากเลยนะคะพี่ดา เฮ้อ..” พราวรวีถอนหายใจ “พี่ว่าหาแฟนสักคนสิพราว ประสบการณ์ตรงอาจช่วยได้คุณชวินทร์เขาก็สนใจพราวอยู่เหมือนกันนะ” “พราวยังไม่อยากหาสำนักพิมพ์ใหม่ตอนนี้ค่ะพี่ดา” พราวรวีรู้ว่าคุณชวินทร์ลูกชายของคูณวศินเจ้าของสำนักพิมพ์นั้นสนใจตัวเองอยู่ แต่ที่เธอต้องรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้น อีกทั้งเท่าที่รู้มาคุณชวินทร์ก็ควงผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้า ถ้าขืนเธอเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคนคงได้วุ่นวายกันน่าดู “หรือถ้ายังไม่มีคนที่ถูกใจจะให้พี่ช่วยติดต่อให้ก็ได้นะ พี่มีคนรู้จักเยอะเลย โสดๆ ทั้งนั้น” “อย่าเลยค่ะพี่ดา พราวอยู่แบบนี้สบายดีอยู่แล้ว” “งั้นก็ตามใจจ้ะ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกพี่ได้ ส่วนเรื่องงานพราวแก้ไขเนื้อหาเสร็จแล้วค่อยเอามาให้พี่ดูอีกทีนะ” “กำหนดเมื่อไหร่คะพี่” “พี่ให้เวลาหนึ่งเดือน ถ้าช้ากว่านั้นจะไม่ทันออกงานสัปดาห์หนังสือ” “เร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ สงสัยงานนี้พราวแย่แน่เลยค่ะ” “อย่าเพิ่งท้อสิ พี่ว่าพราวทำได้อยู่แล้ว ปรับปรุงแค่ช่วงอีโรติกเท่านั้น ส่วนอื่นมันดีอยู่แล้ว” “จะพยายามนะคะ” “พี่เชื่อใจนะ มีอีกอย่างที่จะบอกพราว แต่เรื่องนี้ห้ามบอกใครนะ” ญาดายื่นใบหน้ามา ส่วนพราวรวีก็ยื่นหน้าของตัวเองออกไปอย่างตั้งใจฟัง “ได้ยินคุณวศินบอกว่าถ้างานพราวออกมาทัน เขาจะพิมพ์หนังสือเรื่องก่อนหน้าของพราวอีกครั้ง จะได้ดึงยอดขายในงานหนังสือ น่าจะสักสามหรือสี่เล่มนี่แหละ” “จริงเหรอคะพี่ดา” เธอดีใจจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ “จริงสิ พี่ถึงอยากให้พราวทำเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด” “ขอบคุณนะคะที่แอบบอก งั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ” “สู้ๆ นะน้องรัก” “ค่ะพี่ดา” หญิงสาวหันมายิ้มให้กับรุ่นพี่ก่อนที่จะรีบเปิดประตูออกไป ใบหน้าสวยรูปไข่กับแพขนตางอนงามยิ้มอย่างมีความสุข เพราะถ้าหนังสือได้วางขายในงานสัปดาห์หนังสือนั่นก็หมายความว่าเธอจะได้เงินเพิ่มอีกมาก แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อนึกได้ว่างานที่ต้องแก้ไขนั้นมันยากแค่ไหน พราวรวีเป็นนักเขียนแนวอีโรติกเธอมีผลงานตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แห่งนี้มาสิบกว่าเล่ม เริ่มตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาปี 2 พอเรียนจบก็หันมาเอาดีทางด้านแต่งนิยายอย่างจริงจัง นอกจากงานเขียนนิยายแล้วพราวรวียังรับแปลนิยายทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ไม่ใช่แค่งานเขียนแต่พราวรวียังมีร้านขายเครื่องเขียนของตัวเองหนึ่งร้านโดยใช้พื้นที่ชั้นล่างสุดของหอพักขนาด 4 คูหาซึ่งตอนนี้ด้านบนมีผู้เช่าอยู่เต็มทุกห้อง เดิมทีด้านล่างหอพักเป็นร้านเกมที่บิดาและมารดาเป็นคนดูแล แต่พอท่านทั้งสองเสียชีวิตลงพราวรวีก็เลยขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดแล้วเปิดเป็นร้านเครื่องเขียน เพราะเธอไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์อีกทั้งเครื่องก็เริ่มตกรุ่น หญิงสาวจึงขายทุกอย่างแล้วนำเงินมาลงทุนเปิดร้านเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อปเนื่องจากเป็นคนชอบเข้าร้านแนวนี้อยู่เป็นประจำ หลังจากออกจากสำนักพิมพ์แล้วก็แวะที่ร้านเพราะเป็นทางผ่านก่อนกลับบ้านของเธอ “พี่พราวคะ หวานฝากร้านแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ หวานจะไปเข้าห้องน้ำ” “จ้ะ ไปเถอะ” น้ำหวานเป็นเด็กที่พราวรวีจ้างมาเฝ้าร้านให้ส่วนตัวเธอเองจะเข้ามาที่นี่เป็นบางครั้ง เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานที่บ้านของตัวเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านมากนัก “อ้าว คุณพราว มาพอดีเลยวันนี้น้าได้ส้มมาหลายกิโลเลย ว่าจะเอาไปให้ที่บ้าน รอน้าเดี๋ยวนะคะเดี๋ยวไปเอามาให้” “ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ พราวยังไม่รีบกลับ แล้วน้าทำความสะอาดหอเสร็จแล้วเหรอคะ” “ยังเหลือชั้นบนอีกชั้นค่ะ พอดีเด็กๆ กำลังอ่านหนังสือกันอยู่น้าเลยไม่อยากรบกวน นี่ก็ว่าจะมาช่วยน้ำหวานเฝ้าร้าน” น้าแก้วตาบอกกับหญิงสาวผู้เป็นนายจ้าง เธอทำงานที่หอพักแห่งนี้มาได้หลายปีแล้ว หน้าที่ก็คือดูแลความสะอาดทั่วไป หญิงวัยกลางคนพักอยู่ชั้นล่างสุดของหอพักซึ่งพราวรวีไม่ได้คิดค่าเช่าเพราะถือว่าเป็นการเฝ้าหอพักให้เธอไปในตัว “น้าแก้วไปพักก่อนก็ได้นะคะ ก่อนกลับพราวจะแวะไปเอาส้มเองค่ะ” “คุณพราวไม่มีธุระไปที่ไหนใช่ไหมคะ” “ไม่มีค่ะ” พอแก้วตาออกไปไม่นานน้ำหวานก็กลับมาที่ร้าน เด็กสาวถือส้มมาสองถุงขนาดย่อม “น้าแก้วกลัวพี่พราวลืมแวะไปเอาส้มค่ะ เลยฝากน้ำหวานเอามาให้” “ขอบใจจ้ะ พี่กลับก่อนนะ วันพุธคงไม่เข้ามาแล้ว” “ค่ะพี่พราว” พอออกจากร้านของตัวเองมาได้นิดหน่อยพราวรวีก็แวะที่ร้านอาหารเจ้าประจำที่อยู่หน้าปากซอยเข้าหมู่บ้าน “พี่เจนนี่คะ ของพราวได้ยังคะ” เพราะโทรมาสั่งตั้งแต่อยู่ที่ร้านเครื่องเขียนพอมาถึงก็เลยรีบทวงเนื่องจากใกล้เวลาพักเที่ยงลูกค้าของพี่เจนนี่จะเยอะเป็นพิเศษ “เรียบร้อยแล้วค่ะ แกงเขียวหวานไก่กับผัดผักรวมพี่แถมกุนเชียงทอดให้ด้วยนะคะ” “ขอบคุณค่ะ พี่เจนนี่ใจดีตลอดเลย” “พี่มีข้อแม้นะคะ” “อะไรคะ” “เรื่องต่อไปพี่ขอแบบจัดหนักได้ไหม พอพระเอกหล่อรวยๆ” “มันแน่อยู่แล้วค่ะ พระเอกของพราวต้องหล่อรวย ขืนเอาแบบธรรมดาที่เจอทั่วๆ ก็ไม่ฟินสิคะ” “น้องพราวคะ ขอเพิ่มอีกนิดไหมคะ “ได้เลยค่ะ สำหรับพี่เจนนี่พราวจัดให้ ว่าแต่ขออะไรคะ” “ขอแบบเอวดุๆ ได้ไหมคะ เหมือนเรื่องแรกๆ ที่น้องพราวแต่งมันแซ่บถึงใจมากเลยค่ะ ไม่เอาแบบที่ตัดเข้าโคมไฟแล้วนะคะ” “ได้เลยค่ะ พราวจัดให้ตามคำขอเลยค่ะ” “พี่หยอดกระปุกไว้เยอะเลยหนังสือน้องพราวออกเมื่อไหร่พี่จะรีบไปซื้อเลยนะคะ แต่บอกก่อนนะคะถ้าไม่แซ่บ เอวไม่ดุพี่โกรธจริงๆ ด้วย” “พี่เจนนี้รอเลยนะคะ ครั้งนี้พราวจัดให้แบบถึงใจเลยค่ะ” “มันต้องอย่างนั้นสิคะ” พราวรวีถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยกว่าของวัน หญิงสาวเอาผลงานตีพิมพ์เรื่องแรกของตัวเองมาอ่านอีกรอบ ยอมรับว่าตอนนั้นตัวเองเขียนฉากอีโรติกออกมาได้อย่างดี แม้จะไม่มีประสบการณ์ แต่อาศัยว่าตัวเองอ่านมาเยอะและดูมาเยอะ แต่มาเล่มหลังๆ ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจก็หายไป ไม่รู้เพราะตัวเองไม่เคยมีความรักหรือเพราะไม่เคยได้ทำแบบนั้นในชีวิตจริงกันแน่ฉากวาบหวิวพวกนั้นเลยดูไร้อารมณ์ตามไปด้วย บางทีพราวรวีก็รู้สึกผิดต่อนักอ่าน เพราะเรื่องที่เธอแต่งขึ้นส่วนใหญ่ก็อาศัยถามเพื่อนบ้าง ดูหนังโป๊บ้าง แม้จะดูเป็นสาวเปรี้ยวมั่นใจในตัวเอง แต่ในชีวิตจริงเธอก็มีแฟนกับเขาแค่คนเดียวแต่ก็ไม่เคยมีอะไรกับแฟนมาก่อน เพราะตอนนั้นยังเรียนไม่จบ และนั้นก็เป็นเหตุผลให้แฟนหนุ่มของเธอบอกเลิก เธอร้องไห้เสียใจกับรักแรกอยู่สองวัน จากนั้นก็ลืมทุกอย่างจนถึงตอนนี้ก็นานหลายปีแล้วที่หัวใจของเธอมันแห้งเหี่ยวและไม่เคยมีใครได้เข้ามาเยี่ยมเยือนเลยแม้แต่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD