เด็กขี้เมา

1539 Words
สามชั่วโมงผ่านไป.. ผู้คนในร้านยังคงครึกครื้นดังเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือส่วนมากมักเมากันแล้วไม่เว้นแม้กระทั่งสี่สาวนิติศาสตร์ที่ตอนนี้เริ่มคุยไม่รู้เรื่องแล้ว “นี่! แกรู้ไหมว่าแฟนเก่าฉันแต่ละคนโคตรของโคตรเหี้ยเลย!” น้ำเสียงอ้อแอ้ของอังเปาเริ่มดังขึ้นตามอารมณ์ฉุนเฉียวของเธอที่เก็บสะสมไว้นาน “แม่งนอกใจฉันหมดเลยเว้ย ฉันรักให้ตายแค่ไหนพวกมันก็ไม่เคยรักฉันจริงๆ เลย พอเจอกลิ่นใหม่ที่หอมกว่าแม่งก็ทิ้งกันไปหมด” คนตัดพ้อกระดกดื่มเบียร์ไปอีกหนึ่งแก้วก่อนจะวางแก้วกระแทกโต๊ะ “ไอ้เขื่อนกูว่ากลับเถอะ ไม่น่าไหวแล้วว่ะ” โยธามองสภาพสี่สาวก็เริ่มกุมขยับ คนหนึ่งก็ตัดพ้อร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด อีกคนก็หลับปุ๋ยในอ้อมกอดเขาไปแล้ว ส่วนลูกตาลตอนนี้ก็หายไปไหนก็ไม่รู้ทั้งขนมผิงยังนั่งเมาแอ๋ตาเยิ้มจ้องแต่จะกินเนื้อของนะโมที่ดันคิดว่าเป็นขนมโมจิอีก “งั้นกูไปหาลูกตาลก่อน ส่วนมึงเฝ้าสามสาวไปนะ” เขื่อนเอ่ยจบก็รีบลุกไปยังห้องน้ำหญิง มาถึงก็เจอลูกตาลนั่งตาปรือเหมือนคนไร้สติอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องน้ำ “ลูกตาล” หนุ่มรุ่นพี่รีบเดินเข้าไปสะกิดแขนเรียกสติรุ่นน้องของตัวเอง “อ้าวพี่เขื่อน แน่ะมาห้องน้ำหญิงส่องสาวเหรอพี่” “กูมาตามมึงครับน้อง ไปเร็วเขาจะกลับกันแล้ว” “ปายหนาย! ไม่ไป!” เขื่อนพยายามจะดึงแขนลูกตาลให้ลุกขึ้นแต่ทว่าสาวห้าวคนนี้กลับดื้อสะบัดมือเขื่อนเสียงั้น “เอาไงดีวะ แบกไปเลยดีไหมวะเนี่ย” เขื่อนลังเลอยู่นานว่าจะทำอย่างไร เพราะแม้ลูกตาลจะเป็นสาวแมนแสนห้าวแต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังเป็นผู้หญิง เขาเองก็ไม่อยากล่วงเกินเธอตอนเมานัก ครืดดดด ระหว่างอยู่ในช่วงกำลังตัดสินใจโทรศัพท์ในมือลูกตาลก็สั่นพร้อมปรากฏแสงวูบวาบขึ้นบนหน้าจอ สายเรียกเข้าจาก...ไอ้ควาย เขื่อนมองที่หน้าจอโทรศัพท์รุ่นน้องซึ่งยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรลูกตาลก็เงยหน้ามองเขาก่อนจะเอานิ้วชี้ทาบลงบนริมฝีปากเป็นสัญญาณให้เขาเงียบ หลังจากนั้นก็กดรับสายแต่ด้วยความเมามือเธอจึงพลาดไปกดเปิดลำโพงจนเขื่อนได้ยินเสียงจากปลายสายด้วย “ฮานโหลว!” (มึงเมาเหรอตาล) ปลายสายกระแทกเสียงดุซึ่งเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ฟังดูไม่สบอารมณ์นัก “อารายย ม่ายมาว อึก!” (มึงอยู่ไหน) “อยู่...อยู่ไหนน้าไม่รู้อ่า อยู่หน้าห้องน้ำ” เขื่อนสะกิดลูกตาลขยับปากเอ่ยถามว่าปลายสายเป็นใครโดยไม่ออกเสียง “อะไรนะหนูไม่ได้ยิน” (มึงคุยกับใครลูกตาล) “ปลาย สาย เป็น ใคร” เขื่อนกระซิบเสียงเบาพร้อมขยับปากงับทีละคำให้ลูกตาลเข้าใจ “อ๋อ ไอ้ควายนี่นะเหรอ...เพื่อนสนิทหนูเอง” ประโยคท้ายเบาเสียงลงก่อนจะหลุบตามองต่ำ ซึ่งทันใดนั้นเองมือที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็อ่อนแรงลงจนเกือบทำโทรศัพท์หล่น โชคดีที่เขื่อนคว้าไว้ได้ทัน เมื่อเห็นวาลูกตาลเริ่มทิ้งตัวไม่ไหวแล้วเขื่อนก็รีบแทรกตัวไปนั่งข้างๆ ให้คนน้องพิงไหล่ตัวเองก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกับปลายสาย “ฮัลโหลครับ” (มึงเป็นใคร แล้วอยู่กับลูกตาลได้ไง) “แล้วมึงเป็นใครสนิทกับลูกตาลมากไหม” (กูเป็นเพื่อนสนิทตาล) “มึงไว้ใจได้ไหม” (ได้มากกว่ามึงแน่นอน ตาลอยู่ไหนกูจะไปรับ) เขื่อนตัดสินใจส่งที่อยู่ของร้านให้คนปลายสายซึ่งเซนส์บางอย่างบอกเขาว่าไอ้ควายคนนี้ไว้ใจได้ หลังจากวางสายแล้วเขื่อนก็อุ้มร่างลูกตาลที่หมดสติไปแล้วกลับไปยังโต๊ะที่ตอนนี้โชคดีมีเดย์มาเพิ่มอีกคน “ไอ้เดย์เพื่อนรัก ในที่สุดมึงก็มา” เขื่อนวางร่างลูกตาลให้นั่งพิงร่างอังเปาซึ่งตอนนี้นั่งฟุบหลับกับโต๊ะไปแล้ว “เอาไงต่ออ่ะ” เดย์เอ่ยถามหลังจากมองสภาพสาวๆ แล้วแทบอยากจะกุมขยับอีกคน “กูดูแลนะโมเอง ส่วนเดย์มึงเคยไปบ้านน้องขนมผิงดังนั้นหน้าที่ส่งน้องเป็นของมึง และอีกสองคน...มึงในฐานะรุ่นพี่คณะก็ดูแลไปนะเขื่อน” โยธาแจกแจง “เดี๋ยวดิ! ไหงกูได้สองคนวะ” “ก็มึงเป็นพี่คณะไง” “เหอะๆ แต่ไม่เป็นไรกูหาคนมารับลูกตาลได้ละ” “ใครวะ ไว้ใจได้เหรอ” “ไม่รู้ว่ะ แต่เมื่อกี้เขาโทรหาลูกตาลกูเลยสั่งให้มารับ” “ไอ้บื้อแล้วถ้าแม่งเป็นคนไม่ดีขึ้นมาทำไงหื้ม” เดย์เอ็ดเพื่อนสนิทของตัวเอง “ก็นี่ไง พวกมึงก็ช่วยกูดูตอนมันมาไง เจอกันครั้งแรกดีหรือไม่ดีมันดูออกเว้ย อีกอย่างให้กูดูแลสองคนไม่ไหวนะแม่งหลับแพ็คคู่ด้วย” คุยไปคุยมาทั้งสามหนุ่มก็นั่งที่โต๊ะรอชายหนุ่มอีกคน ซึ่งประมาณสิบนาทีเขาก็มาถึง “ลูกตาลล่ะ” มาถึงโต๊ะคนใจร้อนก็รีบถามหาเพื่อนสนิท “เดี๋ยว! มึงชื่ออะไรอยู่ปีไหนเรียนคณะอะไร” ก่อนเข้าถึงตัวลูกตาลชายหนุ่มผู้มาเยือนใหม่ก็ถูกเขื่อนดักทางไว้พลันเอ่ยเสียงเข้มคุยกับเขา “เพิร์ธ ปีสอง คณะสถาปัตย์” เอ่ยจบก็ปัดมือรุ่นพี่ที่ขวางตัวเองไว้ก่อนจะเดินเข้าไปพยุงร่างลูกตาลขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดแล้วเดินจากไป “แม่งมาเร็วไปเร็วสัส” เขื่อนพึมพำมองตามหลังเพิร์ธและลูกตาลที่ออกจากร้านไปก่อน “ป่ะกลับ ส่วนมึงดูแลอังเปาดีๆ นะเว้ยขืนมึงทำอะไรน้อง นะโมเอากูตายแน่” โยธาย้ำเขื่อนด้วยน้ำเสียงแข็งแม้จะไว้ใจเพื่อนแต่ก็อดไม่ได้ที่จะย้ำมันอีกครั้ง “เออกูไม่พิศวาสอังเปาหรอก อย่าลืมว่ากูชอบน้องมึงอยู่” “ไอ้เขื่อน!” คนหวงน้องทำท่าแยกเขี้ยวใส่เพื่อน แม้โยธาจะรู้ดีว่าเขื่อนชอบสายน้ำน้องสาวตัวเองแต่เขาก็ยังไม่อยากได้เพื่อนคนนี้มาเป็นน้องเขยนัก ในสายตาเขาสายน้ำยังเด็กและน่าทะนุถนอมเกินกว่าจะปล่อยให้ไปอยู่ในมือเพื่อนคนนี้ “เฮ้อแอบชอบน้องสาวเพื่อนนี่ลำบากจริงวุ้ย หวงฉิบหาย” “เลิกบ่นแล้วรีบพาอังเปากลับได้ละ ส่วนเดย์กูไว้ใจมึงนะแต่ถ้ามึงไม่ยอมห้ามใจตัวเองทำอะไรน้องคงรู้นะว่าผลที่จะได้รับคืออะไร” “เออกูไม่ทำอะไรน้องหรอก ถึงอยากทำกูก็ไม่ทำไม่ต้องห่วง” จบประโยคเดย์ก็พยุงร่างขนมผิงขึ้นก่อนจะอุ้มหญิงสาวในท่าเจ้าหญิงไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ไม่ไกล “เมาแบบนี้ได้ไงหื้ม ไม่น่ารักเลยนะคะขนมผิง” คาดเข็มขัดให้คนน้องเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะบ่นเธอ เพราะถึงอย่างไรเสียเธอก็เป็นเด็กผู้หญิงทั้งยังมีหน้าตาน่ารักมากด้วย หากไม่ดูแลตัวเองเช่นนี้อาจเกิดอันตรายง่ายๆ ได้เลย “ผิงไม่น่ารักเหรอ...” ปากเล็กขยับพึมพำทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท “ทำไมพี่อาทิตย์ไม่สนใจผิงเลย ไม่ให้ผิงกินขนมผิงก็ไม่กิน ไม่ให้ผิงพูดมากผิงก็ไม่พูด แล้วทำไมถึงยัง...” เสียงพึมพำดังแผ่วพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมา “เขาไม่คู่ควรกับผิงเลยสักนิด” เดย์ทาบมือใหญ่ลูบหัวคนน้องเบาๆ ก่อนจะช่วยเกลี่ยคราบน้ำตาออกจากใบหน้า หมับ! ร่างสูงชะงักนิ่งเมื่อจู่ๆ ขนมผิงก็ยกมือขึ้นมาจับมือเขาไว้ ไม่นานดวงตากลมคู่สวยก็ลืมตาขึ้นช้าๆ “ลูกตาลเหรอ...คืนนี้ฉันขอนอนด้วยนะ กลับบ้านสภาพนี้แม่ฉันต้องด่าเละแน่” พรึ่บ! เอ่ยจบประโยคคนเมาก็หลับไปอีกครั้ง จังหวะนั้นเองหัวใจของเดย์ก็เต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะเพราะเมื่อครู่นี้ขณะที่ขนมผิงลืมตาใบหน้าของเขาและเธอห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งเขายังได้กลิ่นหอมยั่วยวนจากตัวเธออีก เดย์หยัดตัวกลับมานั่งหลังตรงที่เบาะนั่งคนขับก่อนจะหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เบาะหลังคลุมร่างขนมผิงไว้ ซึ่งวันนี้เธอใส่เป็นชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูสั้นเหนือเข่าที่มีเสื้อคลุมตัวเล็กสีเดียวกันคลุมไหล่ไว้ แต่ทว่าหลังจากขึ้นรถเธอกลับบ่นร้อนและถอดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียนช่วงหัวไหล่ “รอหนูได้สติคืนมาพี่ต้องดุหนูสักหน่อยแล้วนะขนมผิง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD