ตอนที่ 2

950 Words
Audi TT RS Coupe สีขาวแล่นมาบนถนนเพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลางทาง ท่อนแขนกำยำวางพาดบนพวงมาลัย ข้อมือที่สวมใส่นาฬิการาคาแพงเคาะเบาๆ ระหว่างรอสัญญานไฟบริเวณสี่แยกที่การจราจรคับคั่ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พีรดนย์กดรับจากพวงมาลัยเมื่อเห็นว่าเป็นหนึ่งในแก๊งเพื่อนที่นัดกันในคืนนี้ “ว่าไง” “ไม่ทราบว่าคุณชายดลเสด็จมาถึงไหนแล้วครับ” “จะถึงแล้วครับคุณต้นกล้า เชิญคุณต้นกล้าแดกเบียร์เย็นๆ กับไอ้พวกนั้นรอไปก่อนเลยครับ อีกไม่เกินสิบนาทีครับ” พีรดนย์กดวางสายจากเพื่อนสนิทที่โทรมาตาม ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปเมื่อสัญญานเปลี่ยนเป็นไฟเขียว รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาภายในลานจอดรถของ Six Sense สถานบันเทิงสุดหรูที่มีศิระเพื่อนสนิทของเขาเป็นเจ้าของและเขากับเพื่อนๆ ก็มีงานอดิเรกคือการเล่นดนตรีประจำที่นี่ทุกศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์แม้จะแค่สองทุ่มแต่ก็มีรถจอดเกือบเต็มลานจอดรถขนาดใหญ่ เพราะผับของศิระเป็นผับยอดนิยมของเหล่าคนดังและเศรษฐีกระเป๋าหนัก รถที่จอดเรียงรายล้วนเป็นรถยนต์ราคาแพงตามฐานะของเจ้าของ พีรดนย์เดินผ่านหน้าประตูบรรดาการ์ดต่างก้มหัวให้อย่างพร้อมเพียง ร่างสูงใหญ่กว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรในชุดลำลองสบายๆ เสื้อยืดคอกลมสีดำและกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ แต่กลับดูดีจนหลายคนต้องเหลียวมอง แม้จะสวมหมวกแก็ปสีเดียวกับเสื้อปิดบังใบหน้าไว้ ก็ไม่อาจบดบังความดูดีของชายหนุ่มได้เลยแม้แต่น้อย สาวๆ หลายโต๊ะมองมาอย่างสนใจ บางคนใจกล้าก็ส่งยิ้มเชิญชวนให้อย่างเปิดเผย พีรดนย์ยิ้มมุมปากและก้มหัวให้นิดๆ ตามมารยาทก่อนจะเดินไปยังห้องรับรองที่เพื่อนๆ รออยู่ “ไง เสด็จมาได้สักทีนะไอ้คุณชาย” ต้นกล้าทักทายเป็นคนแรกในขณะที่คนอื่นๆ ทำเพียงพยักหน้า “สรุปวันนี้พวกมึงจะขึ้นเล่นกี่โมง” ศิระในชุดออลแบล็กที่นั่งจิบวิสกี้อยู่เงียบๆ ถามขึ้น “เวลาเดิมเที่ยงคืน” พีรดนย์ตอบและหยิบแก้วเครื่องดื่มที่น้องๆ สาวสวยชงให้ขึ้นมาดื่ม “อย่าแดกจนเมาซะก่อนล่ะไอ้นักร้องสุดหล่อ สาวๆ เขารอกรี๊ดมึงกันทั้งนั้น ตัวประกอบอย่างพวกกูร้องแทนไม่ได้นะโว้ย” ก้องเกียรติที่มีตำแหน่งเป็นมือกลองเตือน “ไอ้คุณก้องครับ มึงพูดเหมือนไม่รู้จักเพื่อนตัวเอง ไอ้ดลนี่มันคอคอนกรีตเสริมเหล็ก เหล้าทำอะไรมันไม่ได้หรอกครับ” “เออ กูก็เตือนไว้ก่อน กูไม่อยากให้น้องๆ หนูๆ ข้างนอกนั่นต้องผิดหวัง ถ้าพี่ดลเมาแอ๋ไม่ได้ขึ้นไปร้องเพลงเพราะๆ ให้ฟัง” “มันจะไปยากอะไรวะ ถ้าไอ้ดลเมาขึ้นร้องเพลงไม่ไหว มึงก็ให้ไอ้ป๋าโซ่เจ้าของผับสุดหล่อที่นั่งหัวโด่อยู่นี่ร้องแทนสิวะ” ต้นกล้าหันไปทางศิระที่นั่งจิบเครื่องดื่มเงียบๆ ตามสไตล์ “ไอ้โซ่เนี่ยนะ” ก้องเกียรติย้อนถามเสียงสูง “ทำไม กูมันทำไมไอ้ก้อง” ศิระที่นั่งฟังเงียบๆ มานานถามขึ้นบ้าง “ก็ไม่ทำไมหรอก ตั้งแต่คบกันมากูยังไม่เคยได้ยินมึงร้องเพลงสักที” “มึงคิดถูกแล้ว ให้ไอ้ดลมันร้องน่ะดีแล้ว กูไม่ถนัดร้องเพลงหรอก ถนัดทำให้สาวๆ ร้องมากกว่า” คำพูดของศิระเรียกเสียงเฮลั่นจากเพื่อนๆ ในขณะที่เจ้าตัวยักคิ้วกวนๆ หนึ่งที “โอ้โห ไอ้โซ่ มึงมาทีเล่นเอาพวกกูหมอง ถามจริงวันนี้อารมณ์ดีอะไร ถึงมีวาจาร้ายกาจยักคิ้วหลิ่วตากับพวกกูได้ ปกติแทบจะง้างปากให้มึงพูด” “ก็ไม่มีอะไร แค่พูดเรื่องจริง” ศิระยักไหล่อย่างไม่ทุกข์ร้อนและจิบเครื่องดื่มในแก้วตัวเองอย่างสบายอารมณ์ “เออ กูยอมแพ้ ก็จริงของมึง พวกหล่อขั้นเทพแบบมึงกับไอ้ดลนี่สาวๆ พร้อมจะยอมสิโรราบแทบเท้าอยู่แล้ว กูจะเอาอะไรไปเถียง ฮ็อตตั้งแต่สมัยเรียนจนตอนนี้ไม่มีดร็อป” “มึงก็ไม่เบาหรอกไอ้ต้น พวกเรามันศีลเสมอกันอยู่แล้ว ไม่งั้นจะคบกันได้ไง” พีรดนย์ตอบโต้เพื่อนเพราะพวกเขาสี่คนรู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล เรียนด้วยกันจนกระทั่งจบมัธยมปลายถึงได้แยกย้ายกันไปศึกษาต่างประเทศตามที่ตัวเองถนัด เมื่อเรียนจบก็กลับมาช่วยกิจการของครอบครัว แต่ก็ไม่ทิ้งความชอบในเรื่องดนตรี เมื่อเพื่อนรักอย่างศิระเปิดกิจการสถานบันเทิงก็ชักชวนพวกเขามาเล่นดนตรีที่นี่ ซึ่งพวกเขาก็ตกลงโดยไม่ต้องคิดมาก โดยใช้เวลาว่างจากงานประจำของครอบครัวมาเล่นดนตรีที่ Six Sense อาทิตย์ละสามวันเป็นการผ่อนคลาย จากที่ตั้งใจจะทำเล่นๆ เพื่อสานต่อความชอบสมัยวัยรุ่น กลับกลายเป็นว่าเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า จนถึงขนาดมีแฟนคลับตั้งแฟนเพจให้เลยทีเดียว ‘My Prince’ คือชื่อวงที่ลูกค้าเป็นคนตั้งให้ โดยให้เหตุผลว่าตั้งตามสมาชิกในวง ที่มีหน้าตาหล่อเหลาราวเจ้าชาย แต่มักจะโดนศิระแขวะอยู่บ่อยๆ ว่าฟังชื่อวงทีไรแล้วรู้สึกขนลุก เพราะช่างต่างจากตัวตนจริงๆ ของพวกเขาเหลือเกิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD