บท2.หนีตาย

786 Words
ตึก ตึก เสียงวิ่งของหญิงสาวที่เร่งรีบเหมือนหนีอะไรบางอย่าง "แย่ละสิ! ทางตัน" ฉันมองไปรอบๆ เป็นกำแพงตึกเช่ารายล้อมสูง ณ. ซอยเปลี่ยวยามดึกที่ไร้ผู้คนสันจรไปมา หญิงสาววัยสิบเจ็ดปีวิ่งฝ่าความมืดมิดโดยไม่สวมใส่รองเท้าในสภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เธอหยุดอยู่ที่หลังกำแพงเพราะไม่มีทางให้ไปต่อ "เฮ้ยยย!! อย่าหนีซะให้ยาก ยังไงเธอก็ไม่รอดหรอกนะสาวน้อย" ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่สามคนสวมชุดสูทเรียบหรูยืนประจันหน้า เขาพูดข่มขู่ก่อนจะหยิบปืนกระบอกสีดำด้านในมือขึ้นมาแล้วจ่อเล็งตรงหน้าของเธอ "ต้องการอะไรจากฉันคะ" "ชีวิตของเธอ" ปัง!! กรี๊ดดด เสียงปืนหนึ่งนัดดังขึ้นตามมาด้วยเสียงกรีดร้อง กระสุนที่พุ่งออกมาเฉียดศีรษะของเธอไปแค่นิดเดียวเท่านั้น "รังเเกผู้หญิงไม่มีทางสู้ พวกหน้าตัวเมีย" เสียงผู้ชายที่กอดพร้อมผลักเธอหลบลูกกระสุนเอ่ยขึ้น เขากระโดดมาจากหน้าต่างห้องตัวเองที่อยู่เหนือหัว เพราะบังเอิญเห็นเหตุการณ์เข้า "ฉันได้รับคำสั่งให้ฆ่าเด็กคนนี้ แต่ถ้าแกอยากตายอีกคนก็จัดให้" ปืนจ่อเล็งมาอีกครั้ง ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังติดกันหลายนัด เธอได้เเต่ยกมือขึ้นขนาบข้างเพื่อปิดหูแล้วหลับตาภาวนา เมื่อทุกอย่างสงบลงจึงค่อยๆ ลืมตา พบว่าตัวเองยังคงมีลมหายใจอยู่ "รีบไป ดูจากเสื้อผ้าที่ใส่ แม่งของหนักแน่!" เพื่อนของชายผู้ช่วยเหลือตะโกนลงมาจากระเบียงตึกเช่า เขาได้ยิงพวกชายฉกรรจ์จนล้มลงแน่นิ่งตายจมกองเลือด "ยืนอยู่ทำไมไปสิ! " แขนเล็กถูกคว้าแล้ววิ่งข้ามศพออกไป สาวน้อยไม่มีพ่อแม่หรือญาติมิตรที่ไหน เธอจำเป็นต้องอยู่กับเขาเพื่อความปลอดภัย หลายปีต่อมา "ไม่ใช่เพราะมันหรอกเหรอ เธอถึงได้ถูกตามฆ่าแต่ยังสวดมนต์ภาวนาให้มันปลอดภัยทั้งที่พวกมันเป็นมาเฟีย!!" เหตุการณ์โต้เถียงนี้เกิดขึ้นเป็นประจำแทบทุกวัน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น 'เมวดี' สาวน้อยวัยสิบเจ็ดปีได้เติบโตขึ้นมาเป็นสาวเต็มวัย ปัจจุบันเธออายุยี่สิบห้า และจากชายผู้ที่ช่วยเหลือเธอในวันนั้นก็ได้กลายมาเป็นสามี ถึงแม้ไม่ได้แต่งงานแต่ทั้งคู่มีพยานรักร่วมกันสองคนซึ่งเป็นแฝดหญิงที่หน้าตาจิ้มลิ้มแสนน่ารัก "ฉันขอโทษ แต่ฉันรักพี่เข้มไม่ได้ ฮึกกก ในใจฉันเฝ้าคิดถึงเขา" ด้วยก้นบึ้งหัวใจใครบ้างจะลืมรักเเรกได้ลง เขาเป็นทายาทมาเฟียที่ใครๆ ต่างรู้จักดี เราสองคนบังเอิญพบเจอกัน เขาส่งจดหมายให้ฉันทุกวันจนเราแอบนัดเพื่อนพูดคุยกันบ่อยๆ เขาอายุมากกว่าฉันหลายปี กำลังจะได้สืบทอดตำแหน่งมาเฟีย ความรักของเราถูกกีดกัน จดหมายฉบับสุดท้ายเป็นคำเตือนจากเขาให้ระวังตัว ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ถูกลอบฆ่าแล้วพี่เข้มมาช่วยไว้ ฉันก็ไม่เคยได้พบหรือติดต่อกับเขาอีกเลย จนกระทั่งเปิดทีวีได้รับข่าวว่าเขาได้ขึ้นเป็นมาเฟียผู้โด่งดังคุมแถบเอเซีย "แล้วจะให้พี่อยู่กับคนที่ไม่ได้รักพี่ไปตลอดชีวิตเหรอ เมวดี" เข้มเอ่ยทั้งน้ำตาคลอ "ฉันดูแลตัวเองได้ถ้าหากพี่อยากจะไปและหวังว่าพี่จะเจอคนที่พี่รัก ซึ่งเขาก็รักพี่ ฉันขอโทษจริงๆ " อุแว๊ อุแว๊ เสียงเด็กแฝดที่อายุเพียงหกเดือนร้องงอแงพร้อมกัน เข้มกอดลูกสาวที่เป็นแฝดพี่แล้วจูบประทับกลางหน้าผาก ก่อนจะยื่นส่งคืนให้เมวดี ทั้งคู่ตัดสินใจเลิกราโดยเเบ่งลูกสาวไปเลี้ยงดูฝ่ายละคน แฝดพี่ได้อยู่กับผู้เป็นแม่ ส่วนแฝดน้องได้อยู่กับผู้เป็นพ่อ "พี่เข้ม ลูกของพี่ชื่อจินดานะ" ฉันโบกมือลาเเล้วบอกกล่าวทั้งน้ำตา พี่เข้มก็ร้องไห้ออกมาแต่ยังฝืนยิ้มให้ก่อนที่เขาจะหอบลูกสาวอีกคนของฉันไปทั้งที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร บนรถโดยสาร "ไปอยู่กับพ่อนะ จินดา" เข้มตั้งชื่อลูกสาวแฝดน้องให้เหมือนกับแฝดพี่เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่าเขามีลูกสาวที่น่ารักสองคน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงรถสองเเถวมุ่งหน้าไปยังทางใต้ เข้มตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองซึ่งไม่มีใครรู้จัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD