บทที่ 12 เปลี่ยนแปลงตัวเอง

2826 Words
"ปากมันน่าโดนจูบฉิบหายเลย" "อ่อยอ๊ะ ไอ้เอ้นแอ๊ว" (ปล่อยนะ ไม่เล่นแล้ว) คนตัวเล็กพยายามดึงแขนแกร่งออกจากแก้มนิ่ม แต่เขากลับทำสีหน้ามันเขี้ยวให้เธอ ก่อนจะถูไถจมูกโด่งๆ เข้ากับจมูกของเธอเบาๆ แล้วผละออก "หึ! คิดจะปากดีใส่ใครดูก่อน เดี๋ยวเจ็บหนักนะเธอ :)" พึ่บ! เขายอมผละมือออกจากแก้มของเธอ ก่อนจะส่งสายตาคาดโทษเอาไว้เล็กน้อย "ขอโทษไง แค่แหย่เล่นเอง" สายขิมยื่นปากให้เขาอย่างงอนๆ เมื่อกี้แค่แกล้งเขาเฉยๆ แต่เจย์อาร์กลับอารมณ์ขึ้นเสียได้ :( "เมื่อกี้ฉันก็แกล้งเธอเล่นเหมือนกันนั่นแหละ เห็นแล้วมันเขี้ยวฉิบหายเลย" เขาพึมพำเสียงแผ่วจนเธอแทบจะจับใจความไม่ได้ แต่สีหน้าหล่อเหมือนจะดูดีขึ้นที่ได้เอาคืนเธอ อีกทั้งมือหนายังเอื้อมมาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ใต้โต๊ะในขณะที่ฟังอาจารย์อภิปรายหัวข้อรายงาน ทั้งที่เธอสามารถสลัดมันออกไปได้ แต่ก็ปล่อยให้เขากอบกุมมือเธออยู่อย่างนั้นด้วยหัวใจที่สั่นระรัว แต่ใจที่สั่นนั้นก็ต้องหยุดไปเมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับสายตาของไข่มุกที่มองมายังเธอด้วยความอิจฉา เธอจึงค่อยๆ ดึงมือออกจากการกอบกุมของเขาอย่างเนียนๆ แต่เจย์อาร์กลับส่งสายตาเชิงคำถามมาให้เธอเสียอย่างนั้น “กิ๊กนายมองอยู่ ฉันไม่อยากมีปัญหา” เธอเอ่ยบอกเขาเสียงแผ่ว “กิ๊กอะไร ฉันไม่มีกิ๊กสักหน่อย อย่าใส่ความดิ” “ก็นั่นไงมองนายตาเป็นมัน ฉันไม่อยากโดนตบเพราะนายหรอกนะ” เธอบอกพร้อมกับส่งสายตาให้เขารู้ว่ามีคนมองอยู่จริงๆ เขาเองก็มองตามสายตาเธอจนปะทะเข้ากับใบหน้าสวยของไข่มุกที่มองมา แต่อีกฝ่ายกลับก้มหน้าหลบสายตาดุๆ ของเจย์อาร์ทันที “ไข่มุกนั่นน่ะเหรอ ยัยนั่นไม่เคยเป็นกิ๊กฉันโว้ย ไม่เคยอยากได้ผู้หญิงแบบนั้นด้วย ไม่เคยชอบ เธออย่าโยนฉันให้ใครดิ” เขาบอกพร้อมกับขมวดคิ้วส่งมาให้คนตัวเล็ก เขาไม่พอใจที่เธอกล่าวหาว่าเขาเป็นกิ๊กของไข่มุกอะไรนั่น “แต่เธอชอบนาย” “แล้วไง ฉันไม่ได้ชอบด้วยสักหน่อยจบนะ ไม่เคยไปยุ่งกับยัยนั่นแค่คุยตามมารยาทเหอะ” เขาทำสีหน้าเซ็งๆ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเอาแต่ใส่ความเขาไม่เลิก ทั่งที่เขาแทบจะไม่มองใครด้วยซ้ำ สีหน้าหงุดหงิดของเขามันกลับทำสายขิมอมยิ้มอย่างพอใจนี่สิ เธอพอใจที่อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าเขาจะไม่เข้าไปยุ่งกับไข่มุกอับแสงอะไรนั่น เธอไม่รู้จะเชื่อใจเขาได้หรือเปล่า แต่สีหน้าเขาก็บอกทุกอย่างว่าไม่ได้คิดอะไรกับไข่มุกจริงๆ “รู้แบบนี้แล้วก็เอามือมาดิ อยากจับ” ไม่รอให้เธอเอ่ยทำพูดใดๆ เขาก็เอื้อมมือเข้ามาคว้าข้อมือของเธอเข้าไปกอบกุมไว้อย่างเคย ชอบมาทำให้ใจเต้น แล้วก็บอกเธอว่าแค่หยอกมันน่าโดนตีจริงๆ @บ้านโฮสต์หยก เย็นของวันหนึ่งสายขิมไม่มีเรียนคลาสบ่าย คนตัวเล็กจึงมีเวลาเอื่อยเฉื่อยกับการดูหนังใน Netflix ของโถงในห้องรับแขก แต่แล้วเสียงเดินของใครบางคนที่ดังขึ้นทำคนตัวเล็กต้องละสายตาจากจอทีวีมองกลับไปดูทางด้านหลัง สายตาก็ปะทะเข้ากับสายป่านที่เพิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน เมื่อเห็นเธอเข้ายัยนั่นก็ยกยิ้มมุมปากทันทีก่อนจะทำเดินเข้ามาหาเธอที่นั่งอยู่บนโซฟา "นี่ขิม ได้ข่าวว่าไข่มุกเชิญเธอไปงานวันเกิดด้วยนี่ ใช่ไหม :) " หล่อนเอ่ยพลางส่งยิ้มมาให้ สายขิมจะไม่ถามว่าทำไมถึงรู้ว่าเธอโดนเชิญ เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกันไง "อืม แต่ฉันคงไม่ไปหรอก" คนตัวเล็กบอกพลางละสายตาจากหล่อนกลับไปมองจอทีวีอย่างเดียว ใครจะไปก็เชิญ เธอไม่เอาด้วยหรอกไม่ได้สนิทขนาดนั้น "อ้าวเหรอ ทำไมล่ะ เพื่อนอุตส่าห์ชวนทั้งที" สายป่านเหยียดยิ้ม เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของเธอ และคงเป็นอย่างนั้น... ไข่มุกคงไม่ได้อยากเชิญเธอตั้งแต่แรกแล้ว แต่ทำโชว์พาวเวอร์เพื่อข่มเธอเท่านั้นแหละ "ไข่มุกไม่ใช่เพื่อนฉันสักหน่อย อีกอย่างงานนั้นฉันก็ไม่ได้รู้จักใคร" คนตัวเล็กเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหยิบผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากิน "ฉันไงเพื่อนเธอ" สายป่านพูดพร้อมกับเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า บดบังหน้าจอทีวีที่เธอดูอยู่ จนคนตัวเล็กต้องเงยหน้าไปสบตากับหล่อน นี่สายป่านบอกว่าเธอคือ เพื่อน? อ่า...ยัยนี่ละอายปากไหมตอนพูดน่ะ "..." ใช่แน่เหรอ นึกว่าคบแค่อยากใช้งานเฉยๆ เสียอีก หรือคบเธอเพื่อให้คนอื่นบอกความแตกต่างของเธอกับสายป่านว่ามันต่างกันแค่ไหน "ที่ไม่ไปคือกลัวเหรอ" รอยยิ้มมุมปากมาพร้อมกับคิ้วเรียวสวยของสายป่านที่เลิกขึ้นอย่างมีคำถาม กึก! "ทำไมต้องกลัว" คนตัวเล็กชะงักไปกับคำพูดของหล่อน "ก็กลัวคนจะมองเธอแปลกๆ ไง" อีกฝ่ายเอ่ยพร้อมกับยกยิ้ม "แล้วทำไมต้องมองว่าฉันแปลกด้วย" เธอมีอะไรแปลกงั้นเหรอ? ไม่ได้มีหูงอกบนหัวสักหน่อยจะอายเพื่ออะไร? "ก็เธอไม่ได้มีอะไรเด่นสู้คนอื่นไง กลัวเขาจะมองว่าเป็นจุดด้อยของงานใช่ไหมเลยไม่ไปน่ะ" น้ำเสียงเหยียดๆ กับใบหน้าที่เชิดขึ้นของสายป่านทำเธอได้แต่ขมวดคิ้วเพราะไม่คิดว่าจะโดนพูดจาแบบนี้ใส่ ที่เธอไม่ไปเพราะมันไม่ใช่เรื่องจำเป็น อีกทั้งยังไม่สนิทกับเจ้าของงานด้วย ดูก็รู้ว่าแค่ยื่นการ์ดให้เพื่อข่มเธอเฉยๆ เธอเปิดซองดูยังไม่เห็นมีการ์ดเชิญอย่างที่ปากว่าให้เธอเลยเหอะ! แต่บอกว่าเธอเป็นจุดด้อยแบบนี้เกินไปหรือเปล่าคนพวกนี้ "ป่าน ทำไมต้องว่าเราขนาดนั้น" ไหนบอกเพื่อนกัน.. เพื่อนที่ไหนเขาทำกันแบบนี้ "ฉันไม่ได้ 'ว่า' แค่พูดความจริงให้เธอรู้ไงขิม" "ฉันไม่ไป" จะไปได้ไงการ์ดเชิญไม่มี แต่ต่อให้เธอไปจริงๆ ดูก็รู้ว่าอยากพาเธอไปแขวนให้พวกเพื่อนในกลุ่มเขาพูดจาเหยียดใส่ เธอรู้นิสัยของคนพวกนี้ดี ชอบเป็นจุดเด่นโดยการเอาจุดด้อยของคนอื่นไปเมกฟัน "ไม่ไปก็ดี ถ้าเกิดไปแล้วเป็นจุดด้อยของงาน เดี๋ยวจะพางานของเขากร่อยหมด" "..." "ฉันจะบอกอะไรให้นะ งานวันเกิดของไข่มุกใช่ว่าใครจะไปได้ง่ายๆ เพราะมันคือการรวมตัวของเหล่าตัวท็อปยังไงล่ะ ถ้าเธอไปคงเป็นได้แค่ตัวตลกในงานเท่านั้นแหละ" "..." "ไม่ไปก็ดีที่สุดแล้ว หึ!" คำพูดของสายป่านทำคนตัวเล็กได้แต่กัดฟันเพราะความโกรธ น้อยใจ คับแค้นใจ จนต้องกำข้อมือของตัวเองเอาไว้จนขึ้นข้อขาว เป็นเพราะเธอไม่สู้ใครเหรอ คนอื่นถึงได้รังแกกันได้ง่ายๆ ขนาดนี้ เป็นเพราะเธอดูไม่โดดเด่น เลยคิดว่าจะพูดจาเหยียดหยามยังไงก็ได้งั้นเหรอ ถึงปากจะไม่เอ่ยพูดอะไร แต่ภายในใจของเธอมันโคตรเปราะบางเลย คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดหนัก ก่อนจะเงยหน้าสบตากับสายป่านนิ่ง "ปากดีจังเลยนะพวกเธอน่ะ" คนตัวเล็กเอ่ยบอกสายป่านด้วยน้ำเสียงกดต่ำ กดเสียงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะมาดูถูกได้ง่ายๆ ขนาดนั้น "เธอว่าไงนะ" หล่อนชะงักไป คงไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนั้นออกมา "ฉันบอกว่าปากเธอนี่มันดีจริงๆ ก็ว่าอยู่ทำไมถึงคบกันได้" เธอหมายถึงคบกับไข่มุกน่ะ คนพวกนี้นิสัยเหมือนกันมาก "แกจะพูดอะไร" "ดูถูกคนอื่นเพื่อลบปมด้อยของตัวเองงั้นเหรอ" สายขิมยืนขึ้นก่อนจะกอดอก จ้องหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า ในแบบที่อีกฝ่ายชอบใช้มันกับเธอ "แก!! ฉันไม่เคยมีปมด้อย!" สีหน้าสายป่านดูโกรธขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันอย่างไม่ยินยอมในสิ่งที่เธอพูด "ไม่ใช่ว่าคบฉันเป็นเพื่อนเพื่อให้คนอื่นชมเธอว่าสวยงั้นเหรอ ทั้งที่เธอไปยืนใกล้ไข่มุกก็ดับได้เหมือนกันนั่นแหละ" "อีขิม!" อีกฝ่ายชี้หน้าเธอ แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ อาจเป็นเพราะในตอนนี้เธอกำหมัดอยู่ก็เป็นได้ "สวยแต่รูป จูบไปก็เหม็นปากเปล่าๆ ฉันคิดว่าถ้าฉันนึกอยากแต่งตัวขึ้นมาคงสวยกว่าเธอแล้วกัน" เธอเองก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนไม่สวยอะไร แค่ขี้เกียจแต่งตัว แต่งหน้าก็เท่านั้น "แก!!" สายป่านกำลังจะเอ่ยด่าเธออีกครั้ง แต่คนตัวเล็กกลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน "ป่าน ปากแกก็อย่าห้าวให้มันมาก เพราะคนห้าวส่วนใหญ่กินข้าวผ่านธูป เธอไม่เคยได้ยินเหรอ" "กรี๊ดดดดดดดดดด" ที่เธอยอมสายป่าน ไม่ได้จะยอมให้ยัยนี่พูดจาดูถูกได้ตลอดหรอกนะ มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่เธอจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่อีกครั้ง... ถึงเวลาที่ต้องตัดคน Toxic ออกจากชีวิตของเธอ ไม่ควรเอาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้อีก ลาขาด เดี๋ยวจะกรวดน้ำทำบุญไปให้ก็แล้วกัน ถือว่าหมดเวรหมดกรรมกันแค่นี้ ในช่วงสองสามวันมานี้คนตัวเล็กเอาแต่หมกตัวอยู่กับอาจารย์ YouTube เปิดคลิปสอนแต่งหน้าฉบับเร่งด่วนวนไปวนมาลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง เธอแทบจะไม่โผล่หัวออกไปไหนเพราะมัวแต่ตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัวทุกแนว แฟชั่นอะไรที่ฮิตช่วงนี้ เธอแทบจะขนเงินเก็บในบัญชีมาเปย์ตัวเองจากการช็อปออนไลน์รัวๆ โดยมีเงินสนับสนุนการซื้อเครื่องสำอางจากแม่ ที่แทบจะส่งเงินให้เมื่อเธอบอกว่าอยากแต่งหน้า พูดแล้วก็ขำเหมือนกัน แม่เธอก็คือผู้ที่อยากให้เธอแต่งตัวสวยๆ เหมือนคนอื่นเขาบ้าง หรือลองแต่งหน้าแต่งตาเพื่อให้ดูมีสีสัน แม่บอกเธอเสมอว่า เธอเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่ก็ต้องแต่งตัวบ้างอะไรบ้าง อ้อ...อีกอย่างที่สำคัญ เธอย้ายบ้านโฮสต์ใหม่แล้วนะ เพราะทนอยู่กับคนที่มีทัศนคติที่แย่อย่างสายป่านไม่ไหว ที่เธอไม่ยอมออกจากบ้านโฮสต์หยกเพราะเกรงใจมัมหยกที่โคตรจะใจดี แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยอมย้ายออกมาจนได้ แต่มัมหยกเองก็ไม่ได้ว่าอะไร และคงเห็นใจเธอนั่นแหละ เพราะถ้าเธออยู่ต่อคงรับความ Toxic ของสายป่านไม่อยู่ ได้ประสาทแดกแน่ๆ ในตอนนี้เธอย้ายมาอยู่บ้านโฮสต์ 'บัว' แม่บัวใจดีกับเธอมาก อีกอย่างภายในบ้านโฮสต์ของแม่บัวก็มีแต่ผู้หญิงที่เธอเพิ่งจะรู้ว่าเรียนสถาปนิกทั้งคู่แต่อยู่คนละมหา’ลัยกับเธอ ชื่อพี่สร กับพี่กระปุกที่อยู่ห้องติดกัน พี่ๆ ใจดีมาก ช่วยแนะนำเกี่ยวกับการแต่งตัวเยอะเลย ส่วนอีกสองห้องที่เหลือเธอยังไม่เจอใครออกมาทัก แต่เดี๋ยวคงเจอแหละ "น้องขิมรู้ปะ ว่าน้าบัวเขามีลูกชายด้วยนะ" เสียงของพี่กระปุกดังขึ้นเมื่อพวกเธอเข้ามานั่งกินเค้กกันภายในห้องของพวกพี่ๆ ที่ตามพื้นมีแต่พวกเศษซากของโมเดลบ้านวางเกลื่อน "หือ? ลูกชายเหรอพี่สร" คนตัวเล็กขมวดคิ้วเพิ่งจะรู้จากปากพี่ๆ ว่าแม่บัวมีลูกชายนี่แหละ เพราะตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาได้สี่วันรวมวันนี้ก็ไม่เห็นผู้ชายในบ้านนี้แม้แต่คนเดียว "ใช่ๆ พี่เคยเห็น โคตรหล่อเลย ออร่าความหล่อมันเด้งโดดมาก ถ้ามหา’ลัยพี่มีคนหล่อแบบนี้คงชุ่มชื่นหัวใจน่าดู กระปุกกับพี่นี่ตะลึงไปเลยตอนเจอครั้งแรก เขายิ้มหล่อมาก เกือบจะตายเลย" พี่สรเอ่ยพลางทำตาเป็นประกายยกใหญ่ พี่ๆ พูดเสียจนเธออยากเห็นเลยเนี่ย "แต่ก็นั่นแหละ น้าบัวเขาหวงลูกชายมาก" พี่สรเอ่ยเสริม "หวงมากเลยเหรอพี่" ก็ไม่เคยเห็นแม่บัวเอ่ยถึงลูกชายมาก่อน ก็นึกว่าไม่มีลูก "อืม หวงมากขนาดไหนก็ลองอ่านกฎของบ้านดู มีข้อหนึ่งที่เขียนว่า 'ห้ามมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันภายในบ้าน' อะคิดดู" กฎข้อนี้เธอเคยอ่านผ่านตาแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดว่าแม่บัวจะตั้งไว้เพื่อลูกชาย "แล้วลูกชายเขาอยู่บ้านนี้หรือเปล่าคะพี่" คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเจอใครที่เป็นผู้ชายในบ้านนี้เลย "ไม่ๆ ลูกชายน้าบัวกลับนานๆ ครั้ง เหมือนน้าบัวจะให้ไปอยู่คอนโด เพื่อตัดปัญหาน่ะ" "อืม" เธอพยักหน้ารับ คงหวงจริงๆ นั่นแหละให้ไปอยู่คอนโดขนาดนั้น สายขิมเลิกสนใจลูกชายบ้านนี้โดยการกินเค้กกับพี่ๆ ต่อ จนกระทั่งพี่กระปุกเอ่ยถามเธอขึ้นมาอีกครั้ง "แล้วนี่ที่พี่ซื้อชุดนักศึกษาให้น้องขิมลองใส่ดูแล้วยัง" "อ่า ขิมลองใส่ดูแล้วค่ะ" เธอตัดสินใจที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการเลือกใส่เสื้อผ้าแนวใหม่ๆ น่ะ ก็เลยฝากพวกพี่ๆ ซื้อชุดให้เพราะเธอคงเลือกเองไม่เป็น "แล้วพอดีไหม" "พอดีค่ะ แต่ช่วงอกมันดูแน่นไปหน่อย" เธอลองใส่แล้วมันพอดีกับตัวเธอมาก จนเห็นรูปร่างได้ชัดเจน โดยเฉพาะช่วงอกที่รัดแน่นเป็นพิเศษ "หือ? พี่ว่าไม่แน่นนะ มันอาจจะพอดี แต่เราใส่แต่เสื้อโอเวอร์ไซซ์มันเลยดูพอดีตัวจนเราไม่มั่นใจใช่ปะ" "จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ" มันก็จะเขินๆ หน่อย เพราะเธอไม่เคยใส่ชุดรัดรูป แต่ลองมองตัวเองในกระจกตอนนั้น ก็พอใจในรูปร่างของตัวเองพอสมควร "แล้วกระโปรงทรงเอ ที่พี่เลือกให้ก็พอดีตัวใช่ไหม" จะว่าพอดีก็พอดีอยู่ แต่มันสั้นโชว์ขาอ่อนเลยขึ้นมาเกือบ 2 คืบแน่ะ แต่คนตัวเล็กทำเพียงพยักหน้าให้พี่ๆ เท่านั้น เสื้อโอเวอร์ไซซ์กับกระโปรงพลีตบานๆ คงต้องเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า แล้วใส่ชุดใหม่ที่พวกพี่ๆ ซื้อให้แล้วแหละ สายขิมอยู่คุยกับพวกพี่ๆ จนเกือบสี่ทุ่ม ก่อนจะขอตัวกลับห้องของตัวเอง ห้องของเธออยู่ถัดไปจากห้องของพวกๆ แค่หนึ่งห้อง แต่ประตูห้องเธอดันติดกับบันไดทางขึ้น แกร๊ก! เสียงเปิดและปิดประตูบ้านดังขึ้นเบาๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอสนใจมากนัก อาจเป็นคนอื่นๆ ในบ้านที่เพิ่งจะเข้ามา แต่ในตอนที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้องของตัวเอง หางตาเธอกลับมองเห็นร่างสูงของใครบางคนที่กำลังไขประตูห้องของตัวเองที่อยู่ชั้นล่าง ติดกับทางขึ้นบันไดเหมือนกับเธอ แต่มันก็ค่อนข้างมืดสลัวจนเธอไม่สามารถเห็นเขาได้ชัดเจนนัก และเหมือนกับเขาเองก็ไม่ทันได้สังเกตเธอเช่นเดียวกัน ทำไมรูปร่างเขามันช่างดูคุ้นขนาดนี้ ทำให้นึกถึงใครบางคนเลย สายขิมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะผลักประตูห้องตัวเองเข้าไป บางทีเธออาจจะคิดไปเองจนหลอนว่าเขาคนนั้นคือเจย์อาร์ก็ได้ แต่ดึกขนาดนี้แล้วเจย์อาร์ทำอะไรอยู่นะ ไวเท่าความคิดแต่มือเธอมันเร็วกว่า ดันทักไปถามเขาเฉยเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ ติ๊ง! 'เจย์ทำอะไรอยู่' รอเพียงไม่นานก็ขึ้นคำว่า Read และตามด้วยข้อความของเขาที่ตอบกลับมาทันที 'ทักมาหาแบบนี้ คิดถึงฉันหรือไง :P'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD