เพราะคำพูดของเพียงพรทำให้ภีมภพไม่ค่อยมาทานอาหารที่บ้านทุกวันอย่างเคย
“น้าพรคะ ทำไมน้าภพถึงไม่มากินข้าวด้วยกันเหมือนก่อนล่ะคะ”
“น้าภพงานเยอะ กินข้าวไม่เป็นเวลาจ้ะ”
“หนูนึกว่าน้าภพไปกินที่อื่น” สีหน้าของหญิงสาวดูผิดหวังที่ไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้วทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้
“จะไปกินที่อื่นได้ยังไงน้าวาสทำกับข้าวอร่อยอย่างนี้” เสียงของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังคิดน้อยใจยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“น้าภพ” ญารินดารีบตักข้าวใส่จานให้เขาทันที
“ขอบใจนะกอหญ้า”
ชายหนุ่มนั่งทานอย่างเงียบๆ อันที่จริงเขาไม่ได้งานยุ่งแต่พยายามออกห่างเธอ แต่ทำได้เพียงไม่กี่วันก็ทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ได้
“กินเยอะ ๆ นะคะ ของโปรดน้าภพทั้งนั้นเลย”
“น้าวาสครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามากินข้าวเท่าไหร่เพราะชาวบ้านเริ่มใช้รถเกี่ยวกันมากขึ้นแล้ว ผมคงต้องไปดูเลยอยากขอให้น้าวาสช่วยทำข้าวกล่องให้ได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะคุณภพ น้าก็ว่าจะถามอยู่ พวกคนงานออกกันแต่เช้า กว่าจะกลับก็ดึก แล้วตอนเย็นทานกันที่ไหนคะ”
“กินกับชาวบ้านครับ แต่กินบ่อยๆ ก็เกรงใจ เลยคิดว่าให้น้าวาสทำให้ดีกว่า กลางวันกับเย็นนะครับ เดี๋ยวบอกอีกทีว่าวันละเท่าไหร่ น้าจะได้เตรียมของถูก”
“ได้เลยค่ะคุณภพ”
“ให้หนูช่วยนะคะแม่”
“ได้สิลูก ช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ”
“กอหญ้าเอารถน้าไปใช่เลยนะ ช่วงนี้น้าไปกับคนงาน”
“ขอบคุณค่ะน้าภพ”
บรรยากาศเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง เพียงพรมองแล้วไม่สบายใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ห้ามเพราะอย่างน้อยก็ยังอยู่ในสายตาของเธอ
หลังจากเก็บล้างเสร็จแล้วภีมภพกับวาสนาก็เข้าไปคุยกันในห้องทำงาน บริเวณห้องรับแขกจึงมีเพียงญารินดาและเพียงพรสองคนเท่นั้น
“น้าพร ไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมวันนี้ดูไม่สดใสเลย”
“เปล่าจ้ะกอหญ้า”
“เมื่อยไหมคะ หนูนวดให้เอาไหม”
“ดีเลย กอหญ้าเคยนวดมาก่อนไหม”
“ค่ะ หนูเคยนวดให้แม่ค่ะ”
“แล้วคนอื่นล่ะคะ”
“น้าพรเป็นคนที่สองค่ะ หนูเคยจะนวดให้น้าภพตอนขับรถไปส่ง แต่น้าภพบอกว่าไม่เมื่อย”
เพียงพรถอนหายใจ อย่างน้อยน้องชายตัวดีก็ไม่ได้ฉวยโอกาสเวลาที่อยู่กันตามลำพัง
“แล้วเวลาน้าภพไปหา ได้ไปเที่ยวไหนกันบ้าง”
“ก็ไปซื้อของใช้ พาไปกินข้าวแค่นั้นค่ะ”
“น้าภพเคยค้างที่ห้องไหม”
“ไม่ค่ะ น้าภพว่ามันไม่เหมาะสม ดึกแค่ไหนก็กลับสุพรรณ”
“ถ้าน้าภพขอค้างกอหญ้าจะทำยังไง”
“หนูก็ไปนอนห้องต้นหลิวค่ะ”
ได้ยินแบบนั้นคนเป็นทั้งพี่และน้าก็สบายใจขึ้นมาก
“กอหญ้ามีหนุ่มๆ มาจีบไหมบ้างไหม”
“มีค่ะ หล่อด้วยนะคะน้าพร เรียนวิศวะค่ะ ชอบมานั่งด้วยตอนหนูไปห้องสมุดแล้วก็ชวนไปกินข้าว”
“กอหญ้าชอบเขาหรือเปล่าแล้วได้ไปกินข้าวกับเขาไหม”
“ไม่ค่ะ หนูไม่ชอบ หนูอยากเรียนให้จบแล้วค่อยมีแฟน”
“น้าเห็นด้วยนะ ตอนนี้เรามีหน้าที่เรียนก็เรียนไปก่อน พอจบแล้วค่อยมีแฟนหรือจะไม่มีแฟนเหมือนน้าก็ได้นะ”
เพียงพรเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่ง มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาจีบมากมาย แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมคบหาใครสักคน เพราะชอบอยู่คนเดียวแบบนี้มากกว่า มันเหงาบ้างแต่มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ
“ค่ะน้าพร หนูจะอยู่กับแม่ น้าพรและน้าภพแบบนี้” คำว่าแบบนี้ของเธอนั้นมีความหวังเล็กๆ แอบอยู่ในนั้น หวังว่าภีมภพก็จะอยู่กับเธอแบบนี้โดยไม่มีคนอื่นอย่างน้อยก็จนกว่าเธอจะเรียนจบ
ญารินดากระตือรือร้นที่จะเป็นคนเอาข้าวไปส่งคนงานตามจุดที่นัดไว้ เพราะเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้เจอกับภีมภพ เพราะตลอดทั้งวันเขาไม่เคยอยู่ที่ร้านและไม่ไปทานอาหารที่บ้านใหญ่อย่างเคย
“น้าภพเหนื่อยไหม หนูเอาข้าวไปส่งครบหมดแล้วนะคะ”
“แล้วทำไมยังไม่กลับอีก”
“ก็อยากคุยกับน้าภพ ช่วงนี้เราไม่ได้คุยกันเลยนะคะ”
ภีมภพเองก็อยากคุยกับเธอ แต่ด้วยภาระงานที่มากขึ้นและก็ไม่อยากใกล้ชิดกับเธอมากอย่างเคยเขากลัวตัวเองจะทำให้ธารินดารู้ความในใจ
“ช่วงนี้งานน้ายุ่ง เลยไม่ได้ไปกินข้าวที่บ้าน”
“ค่ะ หนูนึกว่าน้าภพหลบหน้าหนูเสียอีก”
“น้าจะหลบหน้าเราทำไม”
“ไม่รู้สิคะ หนูนึกเหตุผลไม่ออก”
“ก็เพราะมันไม่มีเรื่องอะไรที่น้าต้องหลบหน้าไงครับ”
“จริงนะคะ”
“จริงสิ กอหญ้า น้าวาสบอกว่าวันอังคารหนูจะกลับมหาลัยเหรอ”
“ค่ะ”
“ยังไม่เปิดเทอมเลยจะกลับไปทำไม”
“กลับไปทำความสะอาดหอค่ะ แล้วก็ไปเตรียมงานรับน้อง”
“นั้นสิ กอหญ้าจะเป็นพี่ปี 2 แล้ว”
“น้าภพไปส่งหนูได้ไหมคะ อันที่จริงแม่บอกว่าจากนี้จะให้นั่งรถไปเองเพราะอยู่ปี 2 แล้ว แต่หนูอยากไปกับน้าภพมากกว่า”
เรื่องนั่งรถไปเองเธอไม่มีปัญหา แต่ที่ขอให้ชายหนุ่มไปส่งเพราะชอบบรรยากาศเวลาไปกับเขา ภีมภพมักเล่าเรื่องสนุกและชวนเธอคุยจนเพลิน มันไม่น่าเบื่อเลยสักนิด พอรู้ตัวอีกทีก็ถึงหอพักแล้ว
“อยากให้ไปส่งไหมล่ะ”
“อยากสิ ไปกับน้าภพไม่เบื่อเลยสักนิด หนูชอบนั่งรถไปกับน้าภพ”
ภีมภพฟังแล้วก็ใจเต้นแรงอยากเปลี่ยนประโยคที่เธอบอกว่าชอบนั่งรถไปกับน้าภพให้เหลือแค่ชอบน้าภพ
“งั้นน้าจะไปส่ง”
“เรื่องนี้ไม่บอกแม่ได้ไหม”
“ต้องบอกสิกอหญ้า” เขาไม่อยากทำอะไรลับหลังผู้ใหญ่
“หนูกลัวแม่ดุ” เพราะถ้าแม่รู้ว่าเธอมาขอให้เขาไปส่ง หญิงสาวคงต้องโดนแม่ดุแน่ๆ
“น้ามีวิธีพูด กอหญ้าเชื่อใจน้าไหมล่ะครับ”
“ค่ะ หนูเชื่อใจน้าภพที่สุด” หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจ อย่างน้อยภีมภพกับเธอก็จะได้นั่งรถไปด้วยกัน
เวลาในแต่ละวันสำหรับบางคนคงเหมือนมันผ่านไปเร็ว แต่สำหรับญารินดาแล้วทุกวันมันผ่านไปช้าเสียเหลือเกิน ตอนนี้เธอเพิ่งจะจบ ปี 3 เหลือเวลาอีก 1 ปีที่เธอจะต้องเก็บความรู้สึกที่มีแต่น้าชายต่างสายเลือดไว้อย่างลึกที่สุด
ภีมภพยังคงเสมอต้นเสมอปลาย มารับและมาส่งหญิงสาว เขาไม่เคยปล่อยให้เธอต้องนั่งรถกลับคนเดียวเลยสักครั้ง แม้งานจะเหนื่อยแค่ไหนชายหนุ่มก็ไม่เคยผิดนัดที่ให้ไว้
“น้าภพคะ อีกปีเดียวกอหญ้าจะเรียนจบแล้วน้าภพทนอีกนิดนะคะ ถ้ากอหญ้าเรียนจบก็ไม่ต้องเหนื่อยมารับ มาส่งแล้ว” สรรพนามของเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่ขึ้นปี 3 ภีมภพชอบที่เธอแทนตัวเองด้วยชื่อกับเขาส่วนคนอื่นที่บ้านก็ยังคงเหมือนเดิม
“น้าเคยบอกกอหญ้าว่าเหนื่อยเหรอครับ”
“กอหญ้าเดาเอาค่ะ เห็นน้าภพเงียบๆ ก็เลยคิดว่าเหนื่อย”
“น้าไม่เหนื่อย แต่มีเรื่องต้องคิด”
“เรื่องใหญ่เหรอคะ บอกกอหญ้าได้ไหม”
“ไม่ใหญ่อะไร แต่มันตัดสินใจยาก” เพราะปลายสัปดาห์นี้ภีมภพต้องไปงานแต่งานเพื่อนซึ่งงานนี้คงได้เจอเพื่อนเก่าหลายคน จากที่คุยกันในไลน์กลุ่มก็รู้ว่าปวีรดารักแรกของเขาก็จะมาร่วมงานด้วย อันที่จริงเขากับเธอก็จบกันไปนานแล้ว แต่ปวีรดาทักส่วนตัวมาว่าอยากเจอเขา อยากคุยกับเขาตามลำพัง
“ให้กอหญ้าช่วยตัดสินใจไหมคะ”