หนึ่งเดือนผ่านไป
หลังจากที่โม่เน่ไปงานเปิดสนามแข่งรถของ คอปเตอร์ ในวันนั้น เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย แล้วงานที่เขาเสนอมา พี่อินดี้ก็จัดการให้เรียบร้อยแล้ว เพราะลูกน้องคุณคอปเตอร์เป็นคนมา จัดการเรื่องต่อ และวันนี้ฉันก็ว่าง เลยจะชวน วันวันไปหาไรกินสักหน่อย นานๆจะมีเวลาว่างสักที ตั้งแต่ฉันทำงานเดินสายเป็นทุกอย่าง ชีวิตอิสระของฉันก็ไม่มีอีกเลย
“ วันวัน ฉันอยากกินหมูกระทะอะ ไปกินหมูกระทะร้านหน้าปากซอยกัน “
ฉันเดินเข้ามาที่ห้องพักของวันวันก็พูดออกไป เราอยู่หอเดียวกันก็จริง แต่คนละชั้น แล้วเวลาก็ไม่ตรงกัน วันวันเรียน ส่วนฉันทำงาน
“ ไปสิ ฉันก็อยากตี้หมูทะเหมือนกัน “
วันวันพูด แล้วเราทั้งสองคนก็พากันเดินมาที่หน้าปากซอย เพื่อมากินหมูกระทะ เราสองคนนั้งกินหมูกระทะกันจนอิ่ม ก็พากันเดินกลับหอพัก แต่ฉันก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคน คนนึงที่ท่าทางเหมือน ป้าของฉัน พอฉันกับวันวัน เดินไปจนถึงก็พบกับผู้หญิงคนนั่น และเขาก็คือป้าของฉันจริงๆ
“ ป้าวรา มาหาเน่มีอะไรค่ะ “
ที่ถามออกไปเพราะป้าไม่เคยมาหาฉัน ถึงแม้ป้าจะรู้ที่อยู่ของฉันก็ตาม ครั้งล่าสุดที่เจอป้าก็คือ เขามาบอกเรื่องหนี้สินที่ฉันต้องแบกรับ แล้วครั้งนี้เขาจะมาทำไม
“ เน่ ป้ามีเรื่องอยากจะขอร้อง “ ป้าวราพูดกับฉัน
“ วันวัน แกขึ้นไปก่อนฉันขอคุยกับป้าก่อน “ โมเน่หันไปพูดกับเพื่อนของเธอ
“ เค แกมีอะไรก็โทรหาฉันนะ “
วันวันตอบออกมา เธอพอจะรู้เรื่องของโมเน่อยู่บ้างแต่เธอก็ไม่เข้าไปยุ่ง ถ้าเพื่อนไม่ขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าวันไหนที่โมเน่ขอความช่วยเหลือจากเธอ เธอก็ยินดีจะช่วยเพื่อนทุกอย่าง
“ อืม “
โมเน่พยักหน้าตอบเพื่อนกลับไป และหันมาหาป้าที่ยืนอยู่ เธอจึงพาป้าของเธอไปนั้งที่โต๊ะไม้หินอ่อนหน้าหอพัก
“ ป้ามีอะไรจะคุยกับเน่ค่ะ “ โมเน่ถามออกไป
“ ป้ามีเรื่องจะขอร้องเรา คือป้า เป็นหนี้แล้วต้องส่งดอกวันนี้ ถ้าป้าไม่มีพวกมันต้องทำร้ายป้าแน่ๆ เน่เห็นมั้ยผู้ชายพวกนั้น “
ป้าเธอบอกออกไป และหันไปมองยังมุมหนึ่งที่รถจอด มีชายชกรรณ์ประมาน 3 คนยืนอยู่ ท่าทางน่ากลัวมากๆ
“ แต่เน่ “
ยังไม่ทันที่โมเน่จะพูด ป้าของเธอก็พูดขึ้นมาก่อน พร้อมกับร้องห่มร้องไห้ออกมา
“ นะเน่ ป้าขอร้อง ให้ป้าไหว้ก็ได้ ป้ายอมทุกอย่าง “ คนเป็นป้าทำท่าจะไหว้ แต่ถูกโมเน่จับมือไว้สะก่อน
“ อย่าค่ะ แล้วป้าต้องใช้เงินเท่าไหร่ “ เธอถามออกไป
“ สองแสน “ ป้าวราบอกกับเธอ
“ ห๊ะ “
โมเน่ถึงกับตกใจ เงินจำนวนนี้มันมากเลยนะ เธอต้องส่งดอกเดือนละเป็นแสน ถ้าให้ป้าไปเธอจะหาที่ไหนมาทัน
“ นะเน่ ถือสะว่า ตอนเราเด็กๆบ้าเคยช่วยเหลือครอบครัวเรา “
ป้าวราคงพูดถึงตอนที่พ่อแม่ฉันยังไม่มีอะไร ก็มีป้านี้แหละที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เมื่อป้าพูดถึงเรื่องนี้ แสดงว่าเธอก็คงต้องให้สินะ
“ ค่ะ เดี๋ยวเน่โอนให้ป้านะ “
โมเน่จึงตอบตกลงและใช้โทรศัพท์ของตัวเองกดโอนเงินจำนวนนั้นให้ป้าของตัวเอง หลังจากที่ป้าของเธอได้เงินไปแล้ว เขาก็กลับไป โมเน่เลยเดินขึ้นมาที่ห้องพักของตัวเอง
“ เอาไงดีละ โมเน่ที่นี้จะไปหาเงินจำนวนนั้นจากที่ไหน “ เธอพูดพรึมพรำกับตนเอง
เช้าวันต่อมา
วันนี้โมเน่มีงานที่สนามของคอปเตอร์ เพราะเธอเป็นพริตตี้ของสนามและหน้าที่ของเธอก็คือ การมายืนโชว์ตัวสวยๆกับรถสปอร์ตที่เป็นรถแข่ง และเเน่นอนว่า รถที่เธอยืนอยู่นั่น คือรถของคอปเตอร์เจ้าของสนาม เพราะว่า ชายหนุ่มนั่นได้ล็อกมงนี้ให้เธอไว้แล้ว
ระหว่างที่เธอยืนอยู่คอปเตอร์ก็เดินเข้ามา วันนี้นอกจากที่เธอจะทำหน้าที่โชว์รถแล้ว เธอยังต้องเป็นตุ๊กตาหน้ารถของเขาด้วย
“ พร้อมมั้ย “
คอปเตอร์ถามเธอเพราะใกล้เวลาลงสนามแข่งแล้ว วันนี้เขามีแข่งกับคู่พวกพี่ๆของเขา
“ ค่ะ “
ถึงตัวจะพร้อมแต่ใจฉันไม่พร้อมเลย โมเน่คิดในใจ แต่ทำไงได้มันคืองานนิ และก็มีเงินพิเศษเพิ่มอีกตั้ง สองหมื่น
“ ไปครับ “
แล้วทั้งสองก็เข้ามานั้งในรถแข่งคู่กันราคาหลายสิบล้านของชายหนุ่ม
“ กลัวมั้ย “
เมื่อเห็นสีหน้าของคนที่นั้งข้างๆ เขาเลยถามออกไป เพราะตอนนี้ใบหน้าของหญิงสาวเหมือนคนเป็นกังวล
“ นิดหน่อยค่ะ “ โมเน่ตอบออกไป
“ ไม่ต้องกลัว เชื่อใจผม “
คอปเตอร์จับมือหญิงสาวเอาไว้ และพูดให้กำลังใจเธอ เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปล่อยรถของสนาม คอปเตอร์เหยียบคันเร่งพุ่งทยานสู่สนาม ภายในสนามมีรถขับตีคู่เเละแข่งกันมาทั้งหมด สี่คัน และตอนนี้คันของคอปเตอร์และของใครไม่รู้ คันสีน้ำเงินกำลังตีคู่กันมา โมเน่มองถนนและเหลือบมองคนข้างๆ ในใจเธอเชื่อใจเขา แต่ความกลัวที่มีก็มากอยู่ เธอเผลอมองเขาเพียงไม่นาน และในที่สุด รถของคอปเตอร์ก็เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก
“ ชนะแล้ว “
คอปเตอร์หันมาพูดกับคนข้างๆที่ตอนนี้เธอใบหน้าซีดอยู่ เพราะรอบสุดท้าย เขานั่นใช้ความเร็วมาก เธอน่าจะกลัวมากแบบนี้ต้องหาอะไรปลอบใจสักหน่อย
“ โมเน่มองคนข้างๆแล้วส่งยิ้มจางๆให้ “ ตาบ้าหนิไม่กลัวตายเลยรึไง ฉันหัวใจจะวาย
“ ไปครับ “
แล้วเราทั้งสองก็ลงมาจากรถ คุณคอปเตอร์ถ่ายรูปและรับรางวัล ส่วนฉันก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ผ่านไปไม่นาน งานนี้ก็จบลง แต่คุณคอปเตอร์บอกว่า ให้ฉันเข้าไปหาเขาที่ห้องทำงานก่อน เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จฉันก็เดินไปที่ห้องทำงานของเขา ที่พอรู้ เพราะคุณคอปเตอร์บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ เข้ามาครับ “
คอปเตอร์บอกกับคนด้านนอก เพราะเขาคิดว่าน่าจะ เป็นคนที่เขาให้เข้ามาหาเป็นแน่
“ คุณโมเน่ มีงานต่อมั้ย “ เมื่อเธอเดินเข้ามาผมก็ถามออกไปทันที
“ ไม่มีค่ะ คุณคอปเตอร์มีอะไรรึป่าวคะ “
เพราะว่างานเสร็จแล้ว แล้วเขาให้ฉันเข้ามาพบ คงมีเรื่องอะไรอยากคุยกับฉันมั้ง
“ ผมอยากชวนไปทานข้าว “ คอปเตอร์บอกความประสงค์ของตัวเองออกไป
“ อ่อค่ะ “ เธอตอบกลับมา
“ ไปทานข้าวกันนะครับ “ เขาถามย้ำอีกครั้ง
“ จะดีเหรอคะ “
คนจะมองฉันว่า ยังไงถ้าไปทานข้าวกับเขาสองคน ถึงจะเลิกงานแล้ว แต่ในสนามก็ยังมีพี่ๆคนอื่นอยู่ และคนอยู่อีกมาก
“ ดีครับ ไปเถอะ ผมเลี้ยงปลอบขวัญที่ทำให้คุณกลัว “
ว่าจบแล้วคอปเตอร์ก็ลุกจากโต๊ะทำงาน เดินตรงมาที่หญิงสาว และถือวิสาสะจับมือเล็กเดินออกมาจากห้องทำงาน และลงมาที่รถสปอร์ตคันหรูสีเทาของตนเองจอดอยู่
“ อยากทานอะไรครับ “ เมื่อเข้ามานั้งบนรถ เขาก็ถามเธอทันที
“ อะไรก็ได้ค่ะ ฉันทานได้หมด “ โมเต่ตอบออกไป
“ ครับ แต่จะเสียมารยาทมั้ยถ้าผมจะถามอายุ เพราะดูแล้วคุณโมเน่น่าจะอาบุน้อยกว่าผม “
เพราะตอนที่ให้คนไปจัดการจ้างงานเธอมาทำงาน เขาไม่ได้ดูประวัติของเธอเลยสักนิด เลยไม่รู้อายุของเธอ รู้เพียงชื่อเล่นเท่านั้น
“ ค่ะ เน่อายุจะ 19 แล้ว “
โมเน่ตอบออกไปและลอบมองใบหน้าของชายหนุ่มข้างๆ เขาดูมีเสน่ห์มากเวลาขับรถ
“ ห๊ะ แล้วคุณไม่เรียนเหรอครับ ถึงได้ทำงานทุกวัน “
เมื่อได้ยินเธอตอบมาแบบนั้น ความสงสัยก็เกิดขึ้นกับเขาทันที
“ ยังไม่ได้เรียนต่อค่ะ “
เธอตอบออกไป แต่สีหน้าเศร้าลงทันที เพราะเด็กอายุประมาณเธอส่วนมากก็จะเรียนกันทั้งนั้น ถึงเธอจะอยากเรียนมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเรียนต่อได้อยู่ดี
“ ครับ ถ้างั้น ผมเรียกเน่หรือโมเน่เฉยๆได้มั้ย เพราะเราอายุห่างกัน สามปี “
“ คุณคอปเตอร์เพิ่ง 22 ปีเองเหรอค่ะ เน่นึกว่าคุณคอปทำงานแล้วสะอีก “ อึ้งยิ่งกว่าอึ้ง คุณคอปเตอร์อายุแค่นี้แสดงว่ายังเรียนอยู่
“ ก็ทำงานไปด้วย และเรียนไปด้วย พี่ยังเรียนไม่จบ “ เขาบอกกับเธอ
“ งั้นเน่ขอเรียกพี่ได้มั้ยค่ะ “ ถ้าเรียกพี่น่าจะเหมาะกว่า เธอคิดแบบนั้น เรียกคุณมันแลแก่ไปกับอายุของเขา
“ ได้สิ “