กว่าจะกลับมาก็เย็นย่ำปลายยามเซิน ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วเสียด้วย คุณหนูมู่เหลียนขี่แมวน้ำทะเลกลับเข้าฝั่งด้วยใจเบิกบาน แต่เมื่อนึกถึงการคัดอักษรห้าร้อยจบรออยู่ที่จวน นางทำหน้าเช่นเด็กน้อยกำลังจะถูกมารดาโบยตี
เพียงหนีออกมาเที่ยวกลางทะเล เหตุใดท่านยายท่านย่าต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตนัก
นางรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นห่วง แต่การท่องโลกกว้างมันอยู่ในสายเลือด
ให้คัดอักษร เล่นพิณ เดินหมาก กาพย์ กลอนน่ะเรอะ น่าเบื่อสิ้นดี
แมวน้ำอวบอ้วนราวสุกรสองตัวพามู่เหลียนโต้คลื่นกลางทะเลราวห้ารอบ มู่เหลียนต้องถูกหยิกจนเนื้อเขียวทุกครั้งหากถูกจับได้ว่าแอบหนีมาเล่นน้ำทะเล ช่วงใกล้ฤดูฝนทะเลแปรปรวน สะดือทะเลกำลังปั่นป่วนอย่างบ้าคลั่ง นางได้แต่โต้คลื่นเล่นอยู่ริมฝั่งเท่านั้น มิได้แส่หาเรื่องไปใกล้สะดือทะเลอย่างที่ท่านย่าท่านยายห้ามไว้ แม้จะดื้อรั้นอย่างไร แต่หากผู้ใหญ่เตือนก็ต้องฟังเสียก่อน มิใช่เอาเท้าคิดแทนสมองแล้วต่อต้านผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนเรา
มู่เหลียน:
ข้าขี่แมวน้ำโต้คลื่นจนเบื่อ บนหลังข้าสะพายตะกร้าถักจากไม้ไผ่ใส่กุ้งมังกรเคราะห์ร้ายสี่ห้าตัว พวกมันตายหมดแล้ว จะไม่ตายได้อย่างไรข้าฟาดหัวพวกมันใส่ก้อนหินดังตุบ ตุบ ตุบ
อย่ามาเรียกร้องหาคุณธรรมกับคนเช่นข้า...ผู้รักการกินสัตว์ทะเล ข้าไม่มีวันกลายร่างเป็นนางชีผู้ทรงศีลผู้กินแต่ผักจนหน้าเหลือง ผู้ใดอยากมีเมตตาก็ทำไป แต่ข้ามู่เหลียนรักการเข่นฆ่าสัตว์ทะเลนำมาทำอาหาร ยิ่งทำน้ำจิ้มเปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานเพียงเล็กน้อย ตำพริกบีบน้ำจากผลหนิงเหมิง (มะนาว) เข้าไป ปรุงรสพอประมาณ นำสัตว์ทะเลเคราะห์ร้ายย่างบนเตาถ่านไฟแดงแจ๋ กลิ่นสัตว์ทะเลย่างนั้นยวนใจยิ่งนัก หากพวกเจ้าอยากกินแต่ผักก็ตามใจเถิด ข้าจะขอเป็นผู้ล่าสัตว์มากินแทนพวกเจ้าเอง แล้วจึงค่อยรับบาปเคราะห์ด่านสวรรค์ภายหลัง
สะดือทะเลกำลังปั่นป่วน สาวงามอย่างข้ามองเห็นแล้วก็นึกกลัวไม่น้อย รีบกระตุกเชือกชักแมวน้ำกลับฝั่งทันที ท่านปู่ ท่านตา ท่านย่า ท่านยายห้ามไว้ว่าอย่าไปเล่นใกล้สะดือทะเลยามใกล้ฤดูฝน
ถึงข้าจะดื้อรั้นแต่ก็ต้องฟังคำผู้ใหญ่ไว้ก่อน ผู้ใดฉลาดจงเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผู้ใหญ่สั่งสอน มิใช่เถียงฉอด ๆ ๆ อย่างไร้สติ
ใจกลางทะเลหมุนวนเป็นสีเทา ช่างน่ากลัวยิ่งนัก ข้าคิดได้ดังนั้นจึงรีบไสแมวน้ำกลับโดยพลัน ทะเลคลั่งจนดูพิลึกกว่าทุกวัน
ผู้ใดมันจะแส่ไปตายทั้งที่ยังเป็นสาวพรหมจรรย์!
ข้าต้องรักษาชีวิตไว้ให้รอดปลอดภัย ตายไปอย่างบริสุทธิ์นั้นมิใช่หนทางที่ควรใฝ่หา หากจะตายก็ขอลิ้มรสท่อนเอ็นใหญ่ยาว 10 ชุ่นเสียก่อนเถิด ว่าแล้วก็คันกลีบสาวขึ้นมายิบ ๆ อยากถูกท่อนเอ็นเสียบกระเด้าสักทีสองที แต่ในเมื่อยังไม่พบบุรุษใดคู่ควร ยังไม่พบบุรุษที่พึงใจก็อยู่เกากลีบเพียงลำพังไปเสียก่อน อย่าหาเหาใส่หอย เอ๊ย ใส่หัว เอาบุรุษที่ไม่ได้เรื่องมาทำผัวให้ปวดตัวเปลืองใจ
ข้าใช้นิ้วหรรษามาหลายปีแล้ว ขยี้ติ่งสวาทอย่างเมามัน ทั้งเสียวทั้งเพลิน
อาาห์ พูดแล้วก็มีอารมณ์
ท่านพ่อกับท่านแม่ต่างหนักใจที่ข้ายังไม่ออกเรือน อายุเพียงสิบหกปียังไม่ถือว่าเป็นสาวเทื้อ ให้ข้าได้เลือกไปสักสองสามปีก่อนเถิด ไม่ต้องรีบหาท่อนเอ็นมาเสียบรูข้า หากข้าพึงใจท่อนใดข้าจะจับมาเสียบเอง
อ่อ ลืมไป
ท่านพ่อเคยหาบุรุษมาดูตัวข้าพร้อมแม่สื่อ เป็นหนุ่มบัณฑิตอายุยี่สิบปีนามว่าเฉาเซินเหลียง หน้าตาคมคาย น่ารักน่าอม เอ่อ น่าเอ็นดูอยู่หรอก ข้าเกือบจะแต่งให้เขาแล้ว หากข้าไม่เผอิญไปแอบดูเขาเข้าห้องน้ำเสียก่อน
หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จ ข้าอาสาพาเขาเดินชมจวน พาเดินเลี่ยงไปด้านหลังพุ่มโบตั๋นเพื่อขยี้กาม
ข้าไม่สนพรหมจรรย์อะไรทั้งนั้น ขอทดลองทดสอบประสิทธิภาพท่อนเอ็นให้แน่ใจก่อนใช้งานจริงวันเข้าหอ
เขาพูดเกี้ยวข้าหลายคำ จนข้าใจอ่อนยอมจูบแลกลิ้นกับเขาหลังพุ่มโบตั๋น ทั้งกอดจูบบีบนมข้าจนแฉะได้ที่
"อ๊าาา อ๊าาา เสียวยิ่ง ขยี้ติ่งเสียวข้าอีกเจ้าค่ะ"
มือสากขยี้ปุ่มสวาทข้าจนเสร็จไปสองรอบ เขาใช้มือหยาบสอดนิ้วเข้าในร่องสวาทสองนิ้ว กระแทกรูสวาทข้าจนเสร็จคานิ้วอีกสองรอบ
อูวววว ติดใจ ใช้ได้ทีเดียว
ข้ามีอารมณ์มาก น้ำแฉะจนหยดเยิ้ม ส่ายรูร่านยั่วยวนจนเขามีอารมณ์เต็มแก่ เขาขอไปเข้าห้องสุขาเพื่อเตรียมความพร้อม อาจจะไปล้างท่อนเอ็นเพื่อเอามาเสียบรูข้าก็เป็นได้ ข้ารอจนน้ำแห้ง เริ่มหงุดหงิดที่เขากล้าทิ้งหอยข้าไปนานสองนาน
ข้ารอท่อนเอ็นไม่ไหว ข้าต้องไปตาม แต่ด้วยความทะลึ่งลามกจึงแอบดูเขาทำกิจส่วนตัวในห้องสุขา เผื่อว่าจะได้เห็นขนาดของเฉาเซินเหลียง หากมันใหญ่จนรูสวาทฉีกอ้าข้าจะได้ทำใจล่วงหน้า
ข้าเห็นท่อนเอ็นของเขาจริง
ข้าตะลึง! ท่อนเอ็นในขณะมีอารมณ์ของเขานั้นยาวเพียงสามชุ่น ย้ำ สามชุ่น และขนาดของมันก็ไม่ต่างอันใดกับนิ้วชี้ของข้าเลย
แล้วข้าจะเอาของเล็กเท่านิ้วตัวเองมาเพื่อ?
ข้าน้ำแห้งเหือดยิ่งกว่าผืนดินหน้าแล้งเมื่อเห็นขนาดของเขา
รีบเดินกลับเรือนของตน ไม่ยอมพบหน้าเขาอีก อ้างว่าดวงไม่สมพงษ์กัน
บุรุษอีกคนก็หล่อเหลาสง่างาม นามว่าตงเฉิน แต่เป็นคนหวงเอ็น ขอดูก็ไม่ให้ดู เลยจบกันแบบเงียบ ๆ โดยที่ยังไม่ทันได้ผูกดวง
คนสุดท้ายยิ่งแล้วใหญ่ บุตรชายตระกูลเจา นามว่าเจาตู้ซาน หน้าตาดี ฐานะดี แต่งานการไม่ทำ วัน ๆ เอาแต่หัวจุ่มไหสุราใช้สมบัติบรรพบุรุษไปวัน ๆ จะให้ข้าเอามาผลาญสมบัติตระกูลมู่รึ?
ข้ามีนโยบายว่าไม่มีทางเลี้ยงบุรุษ!
ที่กล่าวมามิใช่กว่าข้าเลือกมากหรือเรื่องเยอะแต่อย่างใด หากศักดิ์แต่ว่าถู ๆ ไถ ๆ หลับตาอ้าขาให้ใครก็ได้ ข้าคงได้ลิ้มรสท่อนเอ็นไปแล้ว
แต่ข้ายังยืนยันคำเดิมว่าจะรอบุรุษที่คู่ควร พวกเจ้าเคยเห็นราชสีห์ตัวเมียลดตัวลงไปสมสู่กับสุนัขตัวผู้หรือไม่ ถึงแม้ฝูงหมามันมีมากมายหาง่ายตามท้องถนน แต่หากมิใช่เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ศีลเสมอกันก็ไม่จำเป็นต้องเอาของห่วยมายัดรูของตนอย่างไม่จำเป็น
นั่นคือที่มาแห่งความโสด พรหมจรรย์ยังสดซิง
แต่ขอบอกว่าข้าพร้อมมาก พร้อมที่จะเสียมันแล้ว
เมื่อใดบุรุษที่คู่ควรจะเกิดเสียที ข้าอ้าขารอจนกลีบสวาทแห้งเหี่ยวมานาน
ช่วยเอาท่อนเอ็นมาเสียบข้าเสียทีเถิด
ข้าไสแมวน้ำเข้าฝั่ง รู้สึกแปลก ๆ จึงต้องรีบหันหลังไปดู
ว๊ากกกก! นี่มันตัวอะไรติดมาในตะกร้ากุ้งมังกรของข้ากันเนี่ย
เจ้าสิ่งยาว ๆ สีดำนั่นคืองูใช่หรือไม่ ดวงตาปูดโปนสีทองมองข้าแล้วกระพริบตาปริบ ๆ อยู่ท่ามกลางซากกุ้งมังกรในตะกร้าบนหลัง
ข้ามิได้กลัวงู ข้าสับเล่นมาหลายต่อหลายตัวแล้วเพื่อป้องกันตนเอง
งูตัวเล็กซ้ำยังหน้าตาประหลาดพิลึก เจ้างูน้อยสีดำมีดวงตาปูดโปนสีทอง ขนตาของมันยาวเฟื้อย กระพริบตาปริบ ๆ มองหน้าข้าอย่างเว้าวอน มันยังเกาะอยู่บนตะกร้าไม่ขับกายไปที่ใด
อาาาห์ กินไม่ได้สินะ
ข้ารีบวางตะกร้าลงข้างชายหาด เอามือบีบหลังคอเจ้าสิ่งที่ควรเรียกว่างูดำตัวน้อย ข้าโยนมันทิ้งลงทะเลไปทันที
สิ่งใดไร้ประโยชน์ข้าจะไม่เก็บไว้...