EP.4 คนไข้แสนซน

1509 Words
เสียงเพลงยังคงดังกระแทกพื้น แต่แขนแกร่งของหมอเนมกลับโอบข้อมือฉันแน่น แล้วออกแรงดึงให้ก้าวตามออกมานอกฟลอร์ “คุณหมอ! ปล่อยนะคะ ฉันจะกลับไปเต้นกับเพื่อน!” ฉันพยายามสะบัด แต่แรงเขามากพอจะลากฉันฝ่าผู้คนได้สบายๆ “ผมเตือนแล้วไงเฌอ ว่าอย่าซนเกินไป” เสียงทุ้มต่ำลอดออกมาพร้อมลมหายใจที่ร้อนจัด แต่คุณก็ไม่เคยฟัง ฉันกำลังจะอ้าปากเถียง จังหวะนั้นเอง เสียงคุ้นๆ ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “เฌอ?” ฉันชะงัก หันไปตามเสียง ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ดเดินตรงเข้ามา ใบหน้ายิ้มละมุนที่ฉันจำได้ทันที “พี่ธันวา” รุ่นพี่จากคณะเดียวกันที่เคยเอาขนมมาแบ่งในห้องเรียนบ่อยๆ “บังเอิญจัง เจอเฌอที่นี่” พี่ธันวายกยิ้มอ่อนโยน ก่อนเหลือบตามองคนที่ยืนดึงแขนฉันอยู่ “แล้ว นี่ใครเหรอ” ฉันกำลังจะอ้าปากตอบ แต่เนมชิงพูดขึ้นก่อน น้ำเสียงกดต่ำแฝงความไม่พอใจจนสัมผัสได้ “คนที่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเธอ” พี่ธันวาชะงัก มองหมอเนมอย่างประเมิน “อ๋อ แฟนเฌอเหรอ” ฉันรีบโบกมือรัว “ไม่ ไม่ใช่ค่ะ! เขาเป็น…” “ไม่ใช่ก็เหมือนใช่” เนมสวนทันควัน ดวงตาคมกริบตวัดมองพี่ธันวาแบบแทบจะเฉือนด้วยสายตา “คุณหมอ!” ฉันสะบัดแขนเขาแรงๆ ใบหน้าร้อนผ่าวทั้งอายทั้งโมโห อย่ามาพูดมั่วๆ แบบนี้นะคะ!” “แล้วคุณอยากให้ผมพูดว่าอะไร” หมอเนมโน้มตัวลง กระซิบใกล้หูจนฉันขนลุกซู่ หัวใจฉันสะดุดแรง พี่ธันวาทำหน้างงปนไม่พอใจ หันมาถามฉัน “เฌอ เขาเป็นใครกันแน่” ฉันกำลังจะอธิบาย แต่หมอเนมกลับยืนบังหน้าฉันเต็มตัว เสียงทุ้มเข้มตอกชัดทุกคำ “เธอไม่จำเป็นต้องบอกใครทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ชายที่คิดจะเกาะแกะเธอ” “ขอโทษนะครับ แต่ผมว่าคุณพูดแรงไปหน่อย” เสียงพี่ธันวาดังขึ้น น้ำเสียงยังสุภาพ แต่แววตาเริ่มเข้มขึ้นเมื่อมองหมอเนมที่ยืนบังฉันจนมิด “แรง?” เนมหัวเราะหึต่ำ ๆ ในลำคอ ดวงตาคมกริบจ้องกลับไปไม่ลดละ “ผมว่าผมยังพูดสุภาพเกินไปด้วยซ้ำ” “คุณเป็นใครกันแน่ถึงได้พูดเหมือนมีสิทธิ์อะไรในตัวเฌอ” พี่ธันวาถามตรง ๆ น้ำเสียงเริ่มแข็ง เนมยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มอึกใหญ่ก่อนตอบ น้ำเสียงเรียบแต่ชัดทุกคำ “ผมเป็นคนที่เธอควรฟัง มากกว่าผู้ชายที่โผล่มาทักเล่นๆ ในผับแบบนี้” ฉันเบิกตากว้าง “คุณหมอ! พอได้แล้ว!” มือเล็กรีบคว้าแขนเขาไว้แน่น แต่เนมกลับไม่ขยับแม้แต่นิด ดวงตาคมยังตรึงอยู่กับพี่ธันวาเหมือนจะเชือดเฉือนด้วยสายตา “คุณหมอ?” พี่ธันวาขมวดคิ้วทันที หมายความว่าเขาเป็นหมอจริงๆ “ใช่ครับ” เนมเอียงคอเล็กน้อย ริมฝีปากยกยิ้มแพรวพราว “หมอที่ตรวจเธอมาแล้วด้วย” “เนม!” ฉันเผลอตะโกนชื่อเขาออกมา เสียงสั่นสะท้านด้วยทั้งความอายและความโมโห คุณอย่าพูดอะไรแบบนั้นนะ! พี่ธันวาชะงัก ดวงตาไหววูบ ก่อนเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันที คุณไม่มีสิทธิ์พูดถึงเฌอแบบนั้น “สิทธิ์?” เนมยกคิ้ว สายตาคมกริบเจือความไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า “แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรล่ะครับถึงมายืนตรงนี้” ทั้งคู่จ้องกันเงียบๆ ราวกับรอบตัวหายไปหมด เหลือไว้แต่แรงกดดันที่หนาแน่นจนฉันแทบหายใจไม่ออก “พอได้แล้วทั้งสองคน!” ฉันแทรกขึ้นเสียงดัง พยายามดึงแขนหมอเนมไว้ไม่ให้ก้าวเข้าไปใกล้พี่ธันวาอีก “ฉันไม่ใช่ของใครทั้งนั้นนะคะ!” หมอเนมหันมามองฉันช้าๆ ดวงตาคมลึกยังสะท้อนความหึงหวงชัดเจน “ไม่ใช่ของใครก็จริง แต่ผมไม่ยอมให้ใครแตะต้องคุณ” คำพูดนั้นทำเอาฉันใจสั่นสะท้านจนพูดไม่ออก ส่วนพี่ธันวากำมือแน่น แล้วหันมาหาฉัน “ถ้าเฌอไม่อยากอยู่ตรงนี้ พี่พาเฌอออกไปได้นะครับ” ฉันยังไม่ทันจะได้ตอบ คืนนี้ไม่รู้ฉันกลืนคำพูดตัวเองลงคอไปแล้วไม่รู้กี่รอบ “เธอไม่ไปกับคุณ” เนมตอบทันควัน ดวงตาคมตวัดใส่พี่ธันวาแรงขึ้น “เพราะคืนนี้ เธออยู่กับผมแล้ว” “พอ!!” เสียงฉันดังแข่งกับบีทเพลงจนคนรอบข้างชะงักหันมามอง ฉันสูดลมหายใจแรงๆเข้าเต็มปอด กำข้อมือทั้งสองข้างของผู้ชายตรงหน้าคนละข้างไว้แน่น เพื่อแยกพวกเขาออกห่างจากกันเต็มแรง “ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าฉันไม่ใช่ของใครทั้งนั้น!” สายตาทั้งคู่ยังคงแข็งกร้าวใส่กัน แต่เพราะแรงฉันบังคับ พวกเขาถึงยอมผละออกนิดเดียว “พี่ธันวา เฌอขอโทษนะคะ เฌออยากกลับไปหาเพื่อนแล้ว” ฉันรีบพูดเสียงสั่น ตั้งใจจะจบเรื่องให้เร็วที่สุด พี่ธันวามองฉันนิ่งๆ แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ถ้าเฌอไม่โอเค แค่บอกพี่ พี่พร้อมอยู่ข้างเฌอเสมอ” คำพูดนั้นทำให้หัวใจฉันไหววูบ แต่ยังไม่ทันตอบ อีตาหมอนี่ก็กระชากข้อมือฉันไปกอดแน่น ดวงตาคมกริบ “คุณหมอ” ฉันสะบัดเสียง ทั้งโกรธทั้งอาย อย่าทำแบบนี้นะคะ!” เขาโน้มตัวลงจนริมฝีปากเกือบเฉียดข้างหู เสียงทุ้มต่ำลอดออกมาอย่างเอาแต่ใจสุดขีด “ผมเตือนแล้วว่าอย่าให้ผู้ชายหน้าไหนมาแตะคุณ ผมไม่ชอบ” หัวใจฉันสะท้าน ร่างกายแข็งค้างไปชั่วครู่ ก่อนที่หมอเนมจะออกแรงดึงฉันให้เดินตาม ออกมาจากฟลอร์ราวกับเขาไม่สนใจสายตาคนอื่นเลย “คุณหมอ! จะลากฉันไปไหนคะ!” ฉันพยายามดึงแขนออก แต่ยิ่งขืนแรงเขาก็ยิ่งรัดแน่น “ไปคุยกันข้างนอก” เขาตอบสั้นๆ นอกร้าน แสงไฟสาดส่องตัดกับอากาศเย็นตอนดึก เสียงดนตรียังเล็ดลอดออกมา แต่รอบนี้เหลือแค่เราสองคน ผมปล่อยมือเธอช้าๆ แต่ยังยืนบังตรงหน้าไม่ให้เดินหนี “ทำไมคุณต้องให้ผู้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้” “เดี๋ยวนะคะคุณหมอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณคะ!” เธอเชิดหน้าสวนกลับผมทันที “ฉันจะคุยกับใครก็เรื่องของฉัน! เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณเป็นหมอ ส่วนฉันเป็นแค่คนไข้” ผมยกคิ้ว มุมปากกระตุกขึ้นนิดๆ “เกี่ยวสิ เพราะคุณทำให้ผมเสียอาการ” “คุณ” เธออึ้งไปเสี้ยววินาที หัวใจเต้นโครมครามจนผมแทบได้ยิน อย่าลืมนะครับว่าผมเป็นหมอ หูผมไว ผมก้าวเข้าใกล้เธออีกครั้ง “เฌอ ผมไม่รู้ว่าคุณไปกวนใจคนอื่นยังไงบ้าง แต่ผมบอกไว้เลย อย่าให้ผู้ชายหน้าไหนมาแตะคุณอีก” ฉันกลืนน้ำลาย ฝืนยืนเชิดหน้า ทั้งที่ขาแทบสั่น “คุณหมอ นี่คุณกำลังหึงฉันเหรอคะ” เขายิ้มมุมปาก สายตาเอาเรื่องสุดๆ “แล้วคุณว่าไงล่ะ” ฉันจ้องหน้าเขานิ่ง ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา บ้าจริง นี่ฉันกำลังโดนหมอหึงอยู่เหรอเนี่ย! “คุณหมอ” ฉันกัดฟันแน่น พยายามกลั้นเสียงสั่น คุณไม่มีสิทธิ์มาหึงฉันนะคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันย้ำสถานะอีกครั้ง เผื่อเขาจะลืม เขาหัวเราะหึในลำคอ สายตาคมกริบกวาดมองฉันตั้งแต่ใบหน้าที่ร้อนวูบลงมาถึงริมฝีปากที่เผลอกัดไว้แน่น “ไม่ได้เป็นอะไรกัน? งั้นอธิบายสิ ทำไมผมถึงอยากจะฆ่าผู้ชายคนนั้นที่เข้าใกล้คุณ” “คุณ” ฉันเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่แผ่นหลังชนกำแพงร้านดัง ตึบ! หัวใจฉันกระตุกวูบ ก่อนจะเห็นว่าเขาก้าวตามเข้ามาใกล้จนแทบไม่เหลือช่องว่าง “คุณหมอ! ถอยไปนะคะ” ฉันพยายามทำเสียงแข็ง แต่ขาสั่นจนแทบทรุด เขาวางมือบนกำแพงข้างศีรษะฉัน ร่างสูงบังแสงไฟไว้หมด ดวงตาคมวาวจ้องลึกเข้ามา “ไม่ถอย” “คุณ” ฉันเบือนหน้าหนี แต่กลับยิ่งรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนจัดที่เสียดสีกับแก้ม เขาก้มลงต่ำอีกนิด เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปากฉัน “เฌอ คุณมันแสนซน จนผมอยากสอนบทเรียนให้” หัวใจฉันเต้นโครมครามจนหูอื้อไปหมด ริมฝีปากแทบเฉียดกันอยู่แล้ว บ้าเอ๊ย! ทำไมฉันไม่ผลักเขาออกไปซะที! “คุณหมอ” ฉันกัดฟันพูดเสียงสั่น นี่คุณเป็นหมอ หรือเป็นนักล่าเหยื่อกันแน่ ฉันก็ยังปากดีไม่หยุด “กับคนอื่น ผมเป็นหมอ แต่กับคุณ ผมอยากเป็นมากกว่านั้น” เขายิ้มมุมปาก แววตาแพรวพราวยิ่งขึ้น ปลายนิ้วเขาเอื้อมมาแตะกรอบหน้าฉันเบาๆ เลื่อนลงมาหยุดที่คาง แล้วออกแรงยกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเราห่างกันไม่ถึงคืบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD