“ขอความสงบด้วยครับ ! ขออนุญาตตรวจค้น รบกวนทุกท่านถือบัตรประจำตัวประชาชน...”
“ตำรวจ !! อุ้บ !!” เธอโพล่งออกมาอย่างตกใจกลัวสุดขีด แต่ก็โดนมือหนาปิดปากทันที
“เงียบ ๆ สิ...อยากโดนจับหรือไง !” เธอส่ายหน้าเป็นพัลวันเมื่อเสียงเข้มเอ่ยดุ ก่อนจะเบิกตากว้างอีกรอบเมื่อเห็นว่าคนที่คว้าเธอออกมาจากโต๊ะอย่างหวุดหวิดเป็นคนเดียวกับการ์ดหน้าหล่อที่ตรวจบัตรเธอนี่เอง
ตอนนี้เขาหอบหนักไม่ต่างจากเธอ เพราะเราเพิ่งวิ่งลงมาจากชั้นสองอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนว่าเราจะอยู่ห่างจากทางด้านในพอสมควร เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเลิกโวยวายเขาจึงดึงมือออกแล้วลงไปนั่งพิงกำแพงด้วยความเหนื่อยล้า
“ขอบคุณค่ะพี่...” น้ำอิงเหลือบไปมองก่อนยกพนมมือไหว้ซาบซึ้งใจ “ไม่ได้พี่หนูคงโดนจับไปแล้ว”
“...”
เขาไม่ได้พูดอะไรกลับมา มีแต่สีหน้าเรียบนิ่งที่ชื้นเหงื่อเท่านั้นที่ปรากฏให้ได้เห็น
พอเขาเงียบเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เสียงจากด้านนอกดังเข้ามาเป็นระยะ ๆ ถึงจะโล่งใจที่หนีมาหลบทัน แต่ก็ระทึกขวัญอยู่เหมือนกันว่าจะโดนค้นเจออีกไหม
นั่งหลบไม่มีอะไรทำถึงได้มีสติมองไปรอบ ๆ พบว่าห้องที่เขาพามาเป็นห้องที่เต็มไปด้วยลังเบียร์ และของต่าง ๆ อย่างโต๊ะที่ชำรุดวางระเกะระกะคงเป็นห้องเก็บของอะไรทำนองนั้น ห้องไม่กว้างมากแต่ก็ไม่เล็กจนน่าอึดอัด แสงสว่างที่ได้มาจากด้านนอกที่ลอดผ่านหน้าต่างบานเกล็ดเท่านั้น
บอกตามตรงนะว่าเจอตำรวจปุ้บสร่างเมาปั้บเลย มีอะไรซวยกว่านี้อีกไหมเนี่ย ?
ติ้ง !
เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ในกระเป๋าทำให้น้ำอิงรีบยกขึ้นมาดูทันที พบว่าเป็นพี่สาวอย่างออยที่ส่งมาถามหาเธอ หลังจากตอบไปว่าตอนนี้หาที่หลบอย่างปลอดภัยแล้ว อีกฝ่ายดูจะหายห่วงลงและหายไป
“เฮ้อ !” เธอถอนหายใจยาวเหยียดรู้สึกว่าตัวเองอายุสั้นไปสิบปีได้ หัวใจยังเต้นโครมครามเพราะความตื่นตกใจอยู่เลย
“อย่าถอนหายใจดังสิ เดี๋ยวตำรวจได้ยินนะ” คนด้านข้างว่าแบบนั้นเธอสะดุ้งรีบเอามือตะครุบปาก
“จริงด้วยค่ะ” เธอตอบรับเสียงเบาอย่างลืมตัว แล้วพยายามหายใจให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
ท่าทางคนตัวเล็กที่ปิดปากเงียบนัยน์ตายังเลิ่กลั่กทำให้อีกฝ่ายถึงกับหลุดขำออกมา
“ฮ่า ๆ ๆ เชื่อคนง่ายชะมัด”
จู่ ๆ เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ทำเธอสะดุ้งโหยง อะไร...เมื่อกี้เธอโดนหลอกงั้นเหรอ ?
“ตำรวจไม่ได้ยินเราเหรอคะ”
“อืม”
“งั้นเราออกไปได้เลยมั้ยคะ ?” เธอถามเพราะตรงนี้มันร้อนมากแถมฝุ่นก็เยอะอีกต่างหาก แล้วที่สำคัญเธอง่วงนอนแล้วด้วย พรุ่งนี้ต้องไปลงทะเบียนรับน้องที่คณะแต่เช้าอีก
“ยัง ต้องรอจนกว่าตำรวจจะไปก่อน” เธอย่นคิ้วกับสิ่งที่ได้รับฟังก่อนจะทำหน้าเซ็ง
แสดงว่าเธอจะต้องทนร้อนในนี้ไปก่อนน่ะสิ แล้วจะได้นอนชาติไหนเนี่ย อีกอย่างพวกพี่ ๆ จะทำยังไง พวกเขาไม่มีคีย์การ์ดเข้าห้องด้วย เห็นทีว่าเขาคงต้องไปนอนที่อื่นแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะได้กลับตอนไหน
ชีวิตของการอยู่คนเดียววันแรกตัดสินใจพลาดนิดเดียว ฉิบหายทุกอย่างเธอจะต้องจำวันนี้ไปอีกนานแสนนานแน่นอน
“แล้วเราจะรู้ได้ไงคะว่าตำรวจจะกลับตอนไหน ?”
“...”
เขาไม่ตอบเพียงแต่เขย่ามือถือซึ่งหน้าจอปรากฏเป็นช่องแชทว่าเขากำลังคุยกับใครสักคนอยู่ น่าจะเป็นคนส่งข่าวแหละนะ
“จะถึงเช้าไหมคะ หนูง่วงมาก” เธอว่าก่อนที่ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่
“ไม่ถึงหรอก เดี๋ยวมันก็กลับกัน ง่วงก็งีบไปก่อน” เขาพูดกับเธอขณะที่พิมพ์ตอบคนในแชทไปด้วย ไม่ได้สนใจเธอเท่าไหร่
ดูเขาก็น่าจะเป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่งั้นคงปล่อยเธอโดนจับไปแล้ว จึงวางใจไปได้เยอะ
“พี่ไว้ใจได้ใช่ไหม” เธอเอ่ยถามเสียงเบาหวิว ต่อสู้กับเปลือกตาหนักอึ้ง “งั้นหนูนอนละนะ”
“...”
ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยมาเท่าไหร่แต่แล้วแรงสะกิดก็ทำให้คนที่หลับเหมือนตายสะดุ้งตื่น
ภาพที่เห็นเป็นหน้าพี่การ์ดสุดหล่อ แสดงว่าประสบการณ์วิ่งหนีตำรวจหัวซุกหัวซุนไม่ใช่ความฝันสินะ
“ตำรวจไปแล้วเหรอคะ”
“ใช่ ออกไปได้แล้ว มีคนรออยู่หรือเปล่า ?” เขาถามเสียงเรียบแล้วช่วยดึงแขนเธอให้ลุกขึ้นหลังจากที่นั่งนานจนขาชา
“ไม่มีค่ะ บอกให้พวกพี่ ๆ เขากลับกันไปแล้ว” เธอว่าก่อนจะบิดเนื้อตัวขับไล่ความเมื่อยล้า นั่งหลับไม่สบายตัวเลยซักนิด
“แล้วกลับยังไง”
เขาถามหลังจากที่เปิดประตูพาเธอออกมาด้านนอก เดินผ่านช่องทางมืดแคบนิดเดียว ก็โผล่มาที่ด้านนอกของผับที่ติดกับถนนเฉยเลย แรงลมตอนกลางคืนทำให้ความร้อนจากที่อบอยู่ในห้องเก็บของบรรเทาลงได้มาก
“เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับก็ได้ค่ะ”
เมื่อได้รับคำตอบเขาก็หยุดเดินทำให้เธอหยุดไปด้วย คิ้วหนาเลิกคิ้วเล็ก ๆ ก่อนจะถามคำถามต่อ
“พักอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย”
“หอพักบีซีซีปาร์คค่ะ” เขาขมวดคิ้วหนักเข้าไปใหญ่แล้วถอนหายใจเอือมระอา เธอไม่รู้ความหมายของการกระทำนั้นแต่ดูเขาจะไม่ชอบใจกับคำตอบของเธอเป็นอย่างมาก “ทำไมคะ ?”
“อยู่คนเดียว ?”
“อ๋อ ใช่ค่ะ” ได้ฟังคำถามคนตัวเล็กก็เอ่ยตอบทันทีแทบไม่หยุดคิดอะไรเลย
“นี่ถามจริงนะ ปกติบอกข้อมูลส่วนตัวให้กับคนแปลกหน้าแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”
ร่างสูงอดไม่ได้ที่จะตีหน้าดุใส่คนตัวเล็กกว่า ความจริงเขาไม่ได้อยากรู้อะไรจากเธอเพียงแค่อยากลองดูว่าคนตรงหน้าจะฉุกคิดได้เมื่อไหร่ว่าตัวเองกำลังพูดในสิ่งที่อาจทำให้ตัวเองเป็นอันตรายในภายหลัง
ซึ่งก็ตามคาด คือเธอคิดไม่ได้
“อ้าวก็พี่ถาม...นี่คะ” ท้ายประโยคเธอพูดเสียงเบาพลางยกมือขึ้นมาเกาหัว เธอไม่ได้อยากบอกเองซักหน่อย ก็เขาถาม ถ้าเธอไม่บอกมันจะไม่เสียมารยาทหรือไง
“ก็ไม่จำเป็นต้องบอกทุกเรื่อง ถ้าเกิดผมคิดไม่ดีขึ้นมาไม่กลัวอันตรายเลยเหรอ”
“พี่ช่วยหนูไว้นี่คะ ถ้าพี่คิดไม่ดีคงไม่ช่วยหนูไว้หรอก”
ดวงตาคมหลังแว่นกลอกตาพลางยกมือขึ้นกุมขมับเครียด ‘ไม่รู้ซื่อหรือโง่กันแน่’ นี่คือสิ่งที่เขาคิด
“คนทำดีหวังผลเยอะแยะ รู้หน้าไม่รู้ใจไม่เคยได้ยินเหรอ คนแปลกหน้าไม่ว่าใครก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น” เขาเตือนเธอด้วยใบหน้ายุ่ง ๆ แต่คนที่โดนดุยิ้มแฉ่งไม่รู้สึกกลัวซักนิด
“ค่ะ รู้แล้วค่ะ งั้นวันนี้ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยไว้” เธอก้มหัวอย่างนอบน้อม รู้ตัวว่าตัวเองควรจะรีบกลับไปพักผ่อนเนื่องจากมันเกินตีหนึ่งมานานแล้ว
“แล้วก็อีกอย่าง...รอนี่แป๊บ” เขายกมือบอกให้เธอรอก่อนจะวิ่งหายไปด้านในซักพักและกลับมาพร้อมกับเสื้อแขนยาวสีดำหนึ่งตัว
“นั่งแท็กซี่คนเดียวดึก ๆ อันตราย ใส่ทับไว้ซ่ะ”
เขายัดมาไว้ในมือเธอแบบไม่ขอความเห็นว่าเธออยากได้มันหรือเปล่า คนตัวเล็กสำรวจร่างกายตัวเองก่อนที่เธอจะหลงลืมไปแล้วว่าตัวเองใส่เสื้อผ้าที่แปลก ๆ ของพี่ออย
“แล้วหนูจะเอามาคืนพี่ได้ไง”
“ไม่ต้องคืนเอาไปเถอะ”
หา...ถามจริง ใบหน้าขาวใสแปลกใจไม่น้อย เธอมองเสื้อที่อ้อมแขนสลับกับใบหน้าหล่อ
เอาจริงดิ ?
“แน่ใจนะพี่...งั้นก็ขอบคุณค่ะ” เธอสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่น่าจะเป็นของเขา เพราะกลิ่นเสื้อเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอได้กลิ่นจากตัวเขา มันใหญ่มากจนคลุมชุดของเธอจนมิด เธอไม่ลืมเงยหน้าไปชื่นชมคนตัวโตอีกครั้ง “พี่เป็นคนดีจริง ๆ ด้วย”
“รีบกลับไปได้แล้ว แล้วอย่าไปหลับบนแท็กซี่ล่ะมันอันตราย”
“ค่ะพี่การ์ด” เธอก้มหัวขอบคุณการ์ดร้านนี้อีกครั้ง คนดีมีคุณธรรมของจริง
“การ์ด ? เออ ๆ ช่างเถอะ...ไปได้แล้ว” เขาเดินไปโบกรถให้ จนเธอขึ้นรถเขาก็เป็นคนบอกที่อยู่กับลุงคนขับแล้วปิดประตูถอยกลับไปยืนที่ริมฟุตบาท
ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกมาคนตัวเล็กก็เปิดกระจกแล้วโบกมือลาพี่การ์ดสุดหล่ออีกครั้ง
“บั้ยบายนะพี่...พี่ใจดีที่สุดเลยย” ใบหน้าหล่อทำหน้าเหนื่อยหน่ายก่อนพยักหน้าแบบขอไปที จนกระทั่งรถออกไปเธอก็ยิ้มกับตัวเองแล้วสะดุ้งเพราะรู้สึกเหมือนหลงลืมเรื่องสำคัญไปอย่างหนึ่ง
ลืมถามชื่อนี่หว่า แต่เขาทำงานอยู่แถวนี้คงบังเอิญเจอกันบ้างแหละมั้ง
ไปผับยังไงให้ได้เสื้อคลุมบาเลนเซียก้าราคาหลายหมื่นกลับห้อง ถึงวันนี้จะรันทดไปหน่อยแต่ก็ถือว่ากำไรล่ะนะ !!!