"ก็บอกว่าขอโทษแล้วไง นายแค่เช็ดมันเอง..." คนตัวเล็กว่าพลางเม้มปากแน่น ในยามที่สายตาเหลือบลงต่ำไปมองหน้าตักของเขาที่มีคราบกาแฟเปื้อนอยู่ตรงส่วนนั้น เธอไม่คิดว่ามันจะกระฉอกไปโดน...
แต่แทนที่อีกฝ่ายจะยอมรับคำขอโทษในแบบที่เธออยากให้เป็น แต่หมอนี่กลับใช้สายตาเหลือบมองไปยังด้านหลังของเธอแทน พร้อมกับเอ่ยคำพูดที่ชวนหัวใจกระตุกสั่น
"น้าจันทร์ครับ..."
หมับ!
ไวกว่าคำพูด มืออีกข้างที่ว่างจากการกอบกุม รีบเอื้อมไปปิดปากของเขาในเวลาต่อมา ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาแนบสนิทไปกับฝ่ามือนุ่มของเธอ แต่ในตอนนี้เธอไม่มีเวลามานั่งพิจารณาปากใครว่านุ่มหรืออะไรหรอก แต่กลับเลิกคิ้วบอกเขาไปอีกครั้ง
"ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย อย่าบอกแม่นะ"
ดวงตาคู่คมสบตาเธอนิ่ง พลางเหลือบมองฝ่ามือของเธอที่ประทับอยู่บนกลีบปากนุ่ม และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกตัว ก่อนจะคลายมือออกจากริมฝีปากของเขา
มาร์ตินเองก็คงตกใจไม่น้อยที่คนตัวเล็กเผลอจู่โจมเขาโดยไม่ทันตั้งตัว จนเผลอเม้มปากเข้าหากันอย่าลืมตัว กลิ่นหอมของเธอเหมือนจะติดอยู่ที่ริมฝีปากเขา ทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟ และกลิ่นหอมๆ ของผิวเนื้อละมุนจนเขาต้องกระแอมไอเรียกสติตัวเอง จากที่คิดอะไรในหัวอยู่ก็ทำเขาลืมไปเสียหมดสิ้นว่าจะพูดอะไรกับเธอดี
จวบจนคนตัวเล็กดึงทิชชูบนตรงยื่นให้ตรงหน้าเขา
"เช็ดสิ ขอโทษด้วยละกัน..." ใบหน้าสวยขึ้นซับสีแดงจางๆ เมื่อเหลือบตามองคราบกาแฟที่เปื้อนอยู่กลางกายเขา
แต่แทนที่ฝ่ามือใหญ่จะคว้าทิชชูบนมือเธอไปถือ แต่เขากลับคว้ามือของเธอเอาไว้ แล้วก้มลงมากระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
"ถ้าไม่อยากให้ฟ้องน้าจันทร์ก็ 'เช็ดมัน' ให้ฉันดิ" เขาเน้นย้ำทุกประโยคว่าอยากให้เธอ 'เช็ด' ตรงนั้นให้เขา
"จะบ้าเหรอ อย่ามากวนประสาทนะ" ซีลีนยื้อมือออกจากฝ่ามือหนาอย่างประหม่า แต่มาร์ตินกลับจับยึดไว้จนแน่น ริมฝีปากพลางพึมพำให้เธอได้ยินอีกครั้ง
"เลือกเอานะว่าจะเช็ดมันดีๆ หรือจะให้ฉันฟ้องน้าจันทร์ให้มาจัดการยัยตัวแสบแบบเธอ"
คนตัวเล็กเม้มปากแน่นข่มความเขินอายเอาไว้ เธอเลือกได้เสียที่ไหน แต่หากเลือกอย่างแรกก็ดูจะเกินไป แต่ถ้าเลือกให้เขาฟ้องแม่เธอตายแน่
แต่ไม่ทันที่จะได้เอ่ยตอบใดๆ เพื่อนตัวสูงข้างกายเขากลับพูดขึ้นตัดหน้าก่อน
"เฮ้ยไอ้ติน มึงอย่าแกล้งเขาดิ ไม่เห็นเหรอว่าเขาโกรธจนหน้าแดงแล้วนั่น"
ดวงตาคู่คมตวัดกลับไปมองเพื่อนบ้านข้างกายก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น
"มึงเงียบก่อน แดกกาแฟรอไป คนที่ทำกูเปื้อนก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำสิ คิดจะปัดความรับผิดชอบมันใช้ได้ที่ไหน"
อึก!
เสียงลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ไม่ใช่ของใครอื่น แต่เป็นเสียงของเธอเอง ไม่น่าเลยเรา...
"ตกลงจะเช็ดไหม?" เขาเอ่ยย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอเงียบไป
สายตาของเธอจดจ้องไปยังใบหน้าหล่อของเขาอีกครั้ง ก่อนจะหลุบมองต่ำลงไปยังคราบเปื้อนตรงบริเวณกลางกายเขาอีกครั้ง ถึงแม้มันจะไม่ได้เปื้อนอะไรมาก แต่ปล่อยไว้คงเป็นคราบจนซักไม่ออกแน่
"แค่เช็ดใช่ไหม" เธอเอ่ยถามเขาเสียงแผ่ว แต่สิ่งที่เขาตอบมานั้น...
"หรืออยากทำอะไรที่มากกว่านั้นล่ะ?"
คำพูดที่สองแง่สองง่ามของเขาทำเธอปิดปากฉับ เพราะกลัวว่าเขาจะพ่นคำพูดที่สื่อไปถึงเรื่องอย่างอื่นที่นอกเหนือไปมากกว่านั้น
"ไปเช็ดในห้องน้ำได้ไหม ตรงนี้ฉันไม่สะดวก..."
เธอไม่อยากเป็นจุดสนใจของลูกค้าคนอื่น ยิ่งตอนนี้มีลูกค้าทยอยเข้ามาในร้านมากขึ้น จะให้เธอมาก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงหว่างขาเขา ก็อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
เมื่อเธอพูดจบร่างสูงของมาร์ตินก็ลุกขึ้นในวินาทีต่อมา และนั่นก็ทำให้เธอได้หายใจทั่วท้องขึ้น เมื่อเห็นว่าหมอนี่พูดง่ายกว่าที่คิดเอาไว้ ก่อนจะเดินตามหลังเขาไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งของคาเฟ่ในทันที
ฝีเท้าเล็กๆ หยุดชะงักอยู่หน้าประตูห้องน้ำ เมื่อเห็นเขานั่งอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมกับใช้สายตาที่เธออ่านไม่ออก จ้องมองเรือนร่างของเธอ
"มองอะไร จะเช็ดให้ได้ยัง" น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ทำให้เธอต้องจำใจเดินเข้าไปใกล้เขา ก่อนจะใช้ทิชชูซับน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดมันลงไปยังคราบบนกางเกงเจ้าปัญหา
ในตอนนี้รับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่ปัดเป่าอยู่ใกล้หน้าผากของเธอ กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาโชยมาเตะจมูก คนตัวเล็กเม้มปากแน่น เพราะนั่นมันหมายถึงว่าในตอนนี้เธอกับเขาอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน
เธอรีบถูๆ เช็ดๆ ไปตามคราบเหล่านั้น แต่รับรู้ได้ว่าลมหายใจของมาร์ตินเริ่มติดขัดในบางช่วงจังหวะ เสียงครางผะแผ่วของเขาดังขึ้นบนหัวของเธอ และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กต้องเงยหน้าไปมอง
ใบหน้าหล่อแสดงสีหน้าที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ราวกับเขากำลังจ้องจะจู่โจมเหยื่อ ดวงตาสีดำขลับมืดมนราวกับสีของรัตติกาล เธอรับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์แปลกๆ จึงคิดถอยห่างออกจากเขา แต่ฝ่ามือหนากลับคว้าข้อมือเธอเอาไว้แล้วดึงเข้าไปใกล้ ชั่วขณะใบหน้าหล่อก็โน้มเข้ามากระซิบข้างใบหูเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
"มือเธอทำฉันโคตรแข็ง แม่ง จะรับผิดชอบยังไงดี หืม?"