เสียงโทรศัพท์ของพร้อมรักยังส่งเสียงกรีดร้องอยู่อีกหลายครั้ง แต่พร้อมรักเลือกที่จะเมินเฉย ไม่กดตัดสาย ไม่กดปิดเสียง ดวงตากลมโตจับจ้องอยู่ที่ละครหลังข่าวเรื่องโปรด
สุดท้ายเสียงเรียกเข้าก็เงียบหายไปเอง
ละครหลังข่าวจบแล้วพร้อมรักก็ย้ายตัวเองมาที่ห้องนอน อาบน้ำเรียบร้อยก็ก้าวขึ้นเตียง ระหว่างนั้นก็หยิบมือถือที่วางเอาไว้บนหมอนขึ้นมา ปลายนิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอ กดเข้าไปในกล่องแช็ตระหว่างตัวเองกับวินธัย
“ยังไม่ปลดบล็อคอีกเหรอเนี่ย” พร้อมรักหน้ามุ่ย หญิงสาวถอนหายใจ แล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่หมอนตามเดิมอีกครั้ง “คนหล่อไม่อ่อนโยน”
พร้อมรักบึนปากใส่โทรศัพท์ ดวงหน้าเรียวสวยงอง้ำ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่คิดจะถอดใจจากวินธัย มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเข้าไปในแช็ตอีกครั้ง ไร้การเคลื่อนไหวจากอีกฝ่ายก็ได้แต่วางโทรศัพท์เอาไว้ที่เดิม พรูลมหายใจออกมา แต่แววตาของหญิงสาวยังคงฉายแววมุ่งมั่น
“ถ้าหมออยากเจอหน้าก่อนคุยกันแล้วละก็ งั้นก็เตรียมตัวได้เลยค่ะ พร้อมจะไปเสนอหน้าให้หมอเห็นเร็วๆ นี้แน่”
พร้อมรักคิดว่าตัวเองโชคดีจริงๆ ที่เคยปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยกระดูกมาก่อน เพราะเป้าหมายของหญิงสาวอย่างวินธัยเป็นศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์*อย่างพอดิบพอดี และตอนนี้หญิงสาวก็ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยกระดูกชายโรงพยาบาลวรกุลอินเตอร์เนชันนอล ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ต่างโรงพยาบาล แต่อีกไม่นานเธอก็จะย้ายไปอยู่โรงพยาบาลเดียวกันกับเขา คราวนี้ก็น่าจะได้เจอกันบ่อยขึ้น
*ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ แพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง โดยทำการวินิจฉัยและดูแลรักษาด้วยการให้ยาหรือการผ่าตัดในความผิดปกติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระดูก ข้อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกาย หรือเรียกกันว่า หมอกระดูกหรือหมอออร์โธ
ด้วยจำนวนคนไข้ที่ค่อนข้างมากทำให้พร้อมรักได้ลงเวรเช้าเกือบๆ หกโมงเย็น หญิงสาวตรงดิ่งไปที่ลานจอดรถ ระหว่างนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมากดโทร.หาธนดล
“ว่าไงค้าคุณพี่”
“เวรอะไรอะดอลลี่ ไปเดินเล่นที่ห้างกับเจ้ไหม เจ้ว่าจะไปหาซื้อหนังสืออ่านซะหน่อย”
“หนังสือนิยายหรือหนังสือความรู้ทั่วไปล่ะคะ”
“ก็ต้องหนังสือนิยายสิ เป็นเจ้เจ้ไม่ถามนะ ช่วงเวลาผ่อนคลายใครเขาอ่านหนังสือวิชาการกัน” พร้อมรักหัวเราะคิกคักจนคนปลายสายอย่างธนดลอดหมั่นไส้ไม่ได้ต้องรับคำแบบลากเสียงยาว
“จ้าาาา แต่เสียใจด้วย ดอลลี่เวรบ่ายค่า”
“อ้าว” พร้อมรักทำหน้าเสียดาย “แล้วพายน์ล่ะพายน์ว่างหรือเปล่า”
“เสียใจด้วยนะพี่มึง พายน์เขามีดินเนอร์กับสามีจ้ะ”
“งั้นก็โอเค เจ้ฉายเดี่ยวก็ได้ งั้นก็แค่นี้นะ เจ้ไปละ”
“โอเคเจ้ ไว้คุยกัน”
กดวางสายแล้วพร้อมรักก็จัดการเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าสะพายใบโปรดที่มักจะพกติดตัวอยู่เป็นประจำ ร่างเล็กก้าวขึ้นรถเก๋งสีชมพูหวานแหววก่อนจะขับออกไปจากลานจอดรถของโรงพยาบาล
พร้อมรักแวะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดฯ ก่อน ร่างเล็กในชุดเสื้อแขนตุ๊กตาที่อวดผิวขาวเนียนบริเวณช่วงเอวนิดหน่อยกับกางเกงยีนส์เจ็ดส่วนและรองเท้าผ้าใบคู่โปรดก้าวเข้ามาในร้านหนังสือในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง พร้อมรักเป็นคนตัวเล็ก ความสูงของเจ้าตัวราวหนึ่งร้อยห้าสิบสี่เซนติเมตร ดวงตากลมโตดำขลับฉายแววสดใส เส้นผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่าล้อมกรอบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากจิ้มลิ้มรับกับจมูกที่เชิดรั้นทำให้พร้อมรักดึงดูดสายตาสำหรับผู้ที่พบเห็นไม่น้อย แต่หญิงสาวไม่ได้ใส่ใจสายตาหลายคู่ที่มองมานัก เพราะเจ้าตัวตั้งใจมุ่งหน้าไปที่ร้านหนังสือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
หญิงสาวหยุดเท้าตรงชั้นหนังสือหมวดนวนิยายรัก มีนวนิยายที่ต้องการอยู่ในใจอยู่แล้วเพราะได้อ่านตัวอย่างมาจากเว็บนิยายออนไลน์ ใช้เวลาเพียงไม่นานพร้อมรักก็ได้หนังสือหลายเล่มมากอดแนบอก กำลังจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ แต่เท้าเล็กต้องชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงคุ้นตาอยู่ตรงมุมหนังสือต่างประเทศ ฉับพลันหัวใจดวงน้อยก็เต้นถี่รัวเมื่อคนคุ้นตาคนนั้นคือวินธัย
หากไม่ติดว่าอยู่ในที่สาธารณะและกลัวว่าวินธัยจะรู้ตัวพร้อมรักคงกรีดร้องเพราะความดีใจไปแล้ว แบบนี้เรียกว่าพรหมลิขิตชัดๆ หญิงสาวกระหยิ่มยิ้มย่อง ซอยเท้าถี่ๆ เอาหนังสือที่หอบมาตั้งใจจะไปจ่ายเงินไปเก็บไว้ที่เดิมก่อน แล้วเดินเลียบๆ เคียงๆ มาอยู่บริเวณชั้นหนังสือต่างประเทศซึ่งวินธัยยืนอยู่ตรงนั้น โดยเว้นระยะห่างพอประมาณไม่ให้ดูจงใจจนเกินไปนัก
พร้อมรักหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิด ดวงหน้าเรียวซุกอยู่ในนั้นระหว่างที่เหลือบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของแพทย์หนุ่ม แอบยิ้มจนตาหยีระหว่างลอบมองอีกฝ่ายที่จับจ้องสายตาอยู่ที่หนังสือเล่มหนึ่งอย่างเพลินตา และดูเหมือนว่าหญิงสาวมองเพลินไปหน่อยจนอีกฝ่ายรู้ตัว
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
เสียงทุ้มที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูปทำให้พร้อมรักตกใจจนตาโต มือทั้งสองข้างที่กางหนังสือปิดเสี้ยวหน้าค่อยๆ ลดลง กระแอมในลำคอเบาๆ แก้เก้อ
“คือว่าพอดีสนใจหนังสือที่คุณถืออยู่น่ะค่ะ ขอโทษที่เสียมารยาท”
พร้อมรักแก้ตัวพลางยิ้มแหย ส่วนวินธัยพอได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้ติดใจอะไร แพทย์หนุ่มขยับเท้าเบี่ยงตัวออกไปเปิดทางให้พร้อมรักเพราะคิดว่าอีกฝ่ายต้องการหนังสือแบบเดียวกันซึ่งมีอยู่บนชั้นวางอีกหลายเล่ม
“มีอีกหลายเล่ม”
วินธัยบอกเพียงแค่นั้นแล้วหันไปสนใจหนังสือในมือต่อ พร้อมรักไม่คิดจะปฏิเสธเมื่ออีกฝ่ายเปิดทางให้ หนังสือเล่มที่เคยอยู่ในมือถูกเก็บเอาไว้ที่เดิม เท้าเล็กขยับมาใกล้วินธัยที่ขยับออกไปไม่ไกลนักอย่างแนบเนียน
พร้อมรักทำเป็นสนอกสนใจหนังสือที่อยู่ในมือซึ่งเป็นนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ แน่นอนว่าไม่ใช่แนวที่เจ้าตัวโปรดปรานเพราะหญิงสาวชอบแนวรักโรแมนติกเสียมากกว่า แต่ตอนนี้หญิงสาวต้องแสร้งทำเป็นชื่นชอบเสียเต็มประดา และแอบลอบมองวินธัยที่ยังจับจ้องสายตาอยู่ที่หนังสือที่เขาเพิ่งจะเปิดหน้าถัดไปเป็นระยะ พร้อมรักคิดว่าการกระทำของตนแนบเนียนทว่า
“ผมรู้ว่าคุณมองผมอยู่ มีอะไรหรือเปล่า”
วินธัยยอมรวบปิดหนังสือที่กำลังอ่าน จากที่ยืนหันข้างให้พร้อมรักก็หันมาเผชิญหน้า แพทย์หนุ่มขยับเท้าเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิดจนหญิงสาวผงะถอยหลังไปเล็กน้อยเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“เอ่อคือ...คือว่า”
พร้อมรักอึกอัก ยิ่งถูกสายตาคมเข้มคู่นั้นจับจ้อง หัวใจของหญิงสาวก็ทำงานหนัก เต้นกระหน่ำรัวจนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่อกซ้าย พวงแก้มทั้งสองข้างก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ว่าไงล่ะ ผมรู้ว่าคุณมองผม มีอะไรข้องใจหรือเปล่า”
วินธัยถามเสียงเรียบหากแววตาของเขายามที่จับจ้องดวงหน้าเรียวสวยของพร้อมรักบ่งบอกชัดว่ากำลังคาดคั้นอยู่ในที และเขาก็พร้อมจะเอาเรื่องหากอีกฝ่ายไม่ตอบในสิ่งที่เขาถาม
“ที่มองเพราะไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่าค่ะ” พร้อมรักพยายามหาทางแก้ตัวอย่างเร็วรี่
“ใช่อะไร”
“ใช่อาจารย์หมอที่ไปบรรยายเรื่องการดูแลคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมที่โรงพยาบาลวรกุลอินเตอร์เนชันนอลเมื่อสัปดาห์ก่อนหรือเปล่าคะ พอดีรู้สึกคับคล้ายคับคลาแต่ไม่กล้าทักค่ะ ขอโทษที่เสียมารยาท แฮะๆ”
พร้อมรักแสร้งยกมือข้างที่ไม่ได้ถือหนังสือขึ้นมาลูบคอแก้เก้อ ขยับยิ้มเก้อเขินส่งไปให้อีกฝ่าย ในขณะที่สีหน้าของวินธัยยังคงสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม
“ใช่ ผมเอง คุณเข้าฟังบรรยายด้วยเหรอ”
“ใช่ค่ะ พร้อมเป็นพยาบาลอยู่ที่นั่น” พร้อมรักแทนชื่อตัวเองอย่างเผลอตัว
“คุณชื่อพร้อมงั้นหรือ”
วินธัยขยับคิ้วเข้าหากันตอนที่ถามออกไป เขารู้สึกตะหงิดใจเล็กน้อย และครู่ต่อมาก็นึกขึ้นมาได้ว่าคนที่เขาเพิ่งจะบล็อคไลน์ไปเมื่ออาทิตย์ก่อนชื่อพร้อมรัก และเป็นพยาบาลเหมือนกัน