โชคดีที่พร้อมรักพอจะมีสัมภาระติดไว้ที่ท้ายรถทั้งชุดไปรเวทและชุดพยาบาล หญิงสาวจึงไม่เดือดร้อนเรื่องเสื้อผ้า พร้อมรักลงไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าโดยมีวินธัยเดินลงไปเป็นเพื่อน แม้จะเกรงใจอยู่มากแต่พร้อมรักไม่คิดจะปฏิเสธ เรื่องอะไรที่เธอต้องปฏิเสธโอกาสที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขาด้วยล่ะ
และที่สำคัญพร้อมรักก็ได้รู้ว่าอาจารย์หมอวินธัยตัวหอมมากๆ กลิ่นเหงื่อของเขาผสมกับกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายที่ไม่ส่งกลิ่นฉุนนักให้ความรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด จนพร้อมรักอยากจะรู้ขึ้นมาทันทีว่าอีกฝ่ายใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไร
แต่ก็เอาเถอะขืนถามออกไปมีหวังเธอได้กลายเป็นยายโรคจิตในสายตาเขาแน่ๆ
‘อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่นเชียวละพร้อมรัก’ หญิงสาวเน้นย้ำตัวเอง
“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์ลงไปเป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไร คุณพักผ่อนเถอะ”
วินธัยตอบรับเสียงเรียบ แพทย์หนุ่มรอให้พร้อมรักเดินเข้าห้องนอนไปก่อน จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง ทันทีที่ประตูห้องปิดลงพร้อมรักก็ยิ้มร่า หมุนตัวราวกับกำลังเต้นรำไปสองสามรอบแล้วทิ้งตัวแผ่หราบนเตียงนอน
“ขอบคุณนะคะคุณฝนที่อุตส่าห์ตกลงมา คืนนี้ตกทั้งคืนไปเลยนะคะ ตกหนักๆ ไปเลย อย่าได้แผ่ว”
ดวงหน้าเรียวสวยยังคงมีรอยยิ้มระหว่างที่ปากเล็กพึมพำขอบคุณปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เอื้ออำนวยให้หญิงสาวได้ค้างคืนที่คอนโดฯ ของแพทย์หนุ่ม พร้อมรักถือว่านี่ความก้าวหน้าแบบรุดหน้าอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเธอเองจะไม่ทันได้ตั้งตัวก็ตาม
แต่แบบนี้มันดีมากๆ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา แม้ว่าอีกฝ่ายจะอนุญาตเพราะความมีน้ำใจไม่ใช่เพราะความสเน่หาก็เถอะ
พร้อมรักใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเพียงสิบห้านาทีเจ้าตัวก็เดินออกมาในชุดเสื้อยืดสีน้ำตาลอ่อนกับกางเกงผ้านุ่มขาเจ็ดส่วน ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้สตูลหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นมาแล้วจัดการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวตัวระหว่างนั้นก็ฮึมฮัมเพลงรักอย่างอารมณ์ดี สิบนาทีต่อมาทุกอย่างก็เรียบร้อย กำลังจะลุกกลับไปที่เตียงนอน แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ พร้อมรักขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อคนที่โทร.มาในยามวิกาลเช่นนี้คือธนดล แต่หญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะกดรับสาย
“ว่าไงดอลลี่”
“เจ้เห็นตัวเองในทีวีหรือยัง”
“ฮะ” พร้อมรักขยับคิ้วแน่นขึ้นเมื่อได้ยินธนดลบอกแบบนั้น “หมายถึงเจ้ได้ออกทีวีเหรอ”
“ใช่ไง ข่าวช่วยคนกลางลานจอดรถในห้างฯ ดัง”
“อ๋อ เจ้ยังไม่ได้เปิดทีวีเลย แล้วเป็นไง มุมที่เขาถ่ายเจ้สวยไหมอ่า” พร้อมรักหัวเราะเบาๆ
“เจ้อย่ามาตีเนียนเบี่ยงเบนประเด็น ที่ดอลลี่อยากใส่ใจก็คือ...คนที่อยู่กับเจ้น่ะเป็นอาจารย์หมอวินธัยจริงๆ ใช่ไหม พูดดดด”
ธนดลแทบจะกรีดร้องออกมาตอนที่ถาม น้ำเสียงของเจ้าตัวซุกซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ไม่มิด นั่นทำให้พร้อมรักเหยียดหลังตรงอย่างวางมาด หญิงสาวกระแอมในลำคอเบาๆ ก่อนให้คำตอบ
“ใช่เลย อาจารย์หมอวินธัยตัวจริงเสียงจริง”
“อ๊ายยยยย ทำยังไงถึงได้ไปอยู่ด้วยกันแบบนั้นได้ ดอลลี่ต้องการรายละเอียดค่ะเจ้”
“เรียกว่าพรหมลิขิตก็แล้วกัน”
“เหมือนเจ้กำลังอวดอะ”
“ก็จริง เจ้ไม่ปฏิเสธ คิกๆ” พร้อมรักหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเล่าต่อ “ก็คือพรหมลิขิตให้เจ้ไปเจอกับอาจารย์หมอที่ร้านหนังสือพอดี”
“แล้วไงต่ออะเจ้ ทำไมถึงได้ไปอยู่ที่ลานจอดรถด้วยกัน”
“เป็นจังหวะที่เจ้กำลังจะกลับ แล้วเจ้ก้กำลังช่วยคนหมดสติอยู่ อาจารย์หมอมาเห็นก็เลยเข้ามาช่วยอีกที”
“อ่อ แล้วหลังจากนั้นล่ะ ยังไงต่ออะ”
“บอกแล้วดอลลี่ต้องไม่เชื่อเจ้แน่”
“ไหนพี่มึงลองว่ามาซิ”
“หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวด้วยกัน อาจารย์หมอไม่ได้เอารถมา เจ้เลยอาสาไปส่ง และฟ้าฝนก็เป็นใจเทกระหน่ำลงมา และตอนนี้เจ้ก็อยู่ที่คอนโดฯ ของอาจารย์หมอจ้ะ”
“ถามจริง เจ้ไม่ได้แกงกันนะ”
“ไม่ได้แกงอะไรทั้งนั้น”
“เจ้ ดอลลี่ขอโทษที่เคยปรามาสเจ้ว่าความสวยให้ห้าความมั่นหน้าติดลบ ตอนนี้สิบสิบสิบไปเลยจ้า”
“แต่เจ้เสียดายอยู่อย่างนะ”
“อะไรอะ”
“คอนโดฯ อาจารย์หมอไม่น่ามีสองห้องนอนเลย น่าเสียดายจริงๆ”
“เจ้ ดอลลี่กำไม้เรียวแน่นแล้วนะ ถึงเจ้จะเป็นพี่รหัสของดอลลี่ แต่ดอลลี่ฟาดไม่ยั้งแน่”
“แหมมมม ใจเย็นก่อนดอลลี่ เจ้แค่ล้อเล่นเอง”
“พี่มึงคิดจริง”
“แหะๆ” พร้อมรักหัวเราะอย่างเก้อเขินอยู่นิดหน่อยที่ถูกธนดลจับได้ “ไม่ต้องรู้ทันเจ้สักเรื่องก็ได้นะดอลลี่ ถือว่าขอกัน”
“ฮึ” ธนดลแกล้งแค่นเสียงขึ้นจมูก “ว่าแต่ไปค้างอ้างแรมกับอาจารย์หมอแบบนั้นพี่มึงต้องใจเย็นๆ นะอย่าเพิ่งวู่วาม เดี๋ยวอาจารย์หมอเขาจะตกใจ”
“เจ้รู้แล้วละน่า ตอนนี้เจ้กำลังพยายามทำสมาธิอยู่”
“ยังไงนะ”
“หายใจเข้าอาจารย์หมอวินธัย หายใจออกอาจารย์หมอวินธัย”
“สติค่ะพี่มึง เขามีแต่หายใจเข้าพุท หายใจออกโธจ้า”
“เจ้ไม่อยากเหมือนใคร มันเป็นสไตล์ของเจ้เอง คิกๆ”
พร้อมรักหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี ธนดลไม่ทันได้โต้ตอบอะไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ดวงตากลมโตเหลือบไปมองทางต้นเสียง ก่อนจะบอกกับธนดล
“อาจารย์หมอมาเคาะห้องอะ เจ้วางสายก่อนนะ”
“โอเค อย่าเผลอกระโดดใส่เขาล่ะ”
“ไม่รับปาก คิกๆ”
พร้อมรักแกล้งบอกธนดลไปอย่างนั้นแล้วกดวางสายทันที หญิงสาววางมือถือไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ยกมือสางผมให้เข้าที่เข้าทางพร้อมจัดเสื้อผ้าที่สวมอยู่ให้ดูเรียบร้อย สูดลมหายใจเข้าปอดไปเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมเอาชาคาโมมายด์มาให้ จะได้นอนหลับสบาย”
“ขอบคุณค่ะ”
พร้อมรักยิ้มกว้างพลางรับเอาถ้วยชาที่มีควันสีเทาจางลอยวนเหนือขอบแก้วมาจากมือของวินธัย เผลอสูดกลิ่นกายหอมสดชื่นหลังอาบน้ำใหม่ๆ ของแพทย์หนุ่มเข้าไปเต็มปอด จนต้องถอยเท้าออกมาเล็กน้อยเพราะกลิ่นกายของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นระส่ำ
“กลัวผมเหรอ”
เห็นอีกฝ่ายขยับถอยหนีวินธัยก็ยกมือขึ้นกอดอกเอนลำตัวพิงเข้ากับกรอบประตูพลางเลิกคิ้วถาม ดวงตาคมเข้มจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของหญิงสาว พร้อมรักตาโตขึ้นนิดหน่อยก่อนจะสั่นหน้าหวือ
“ไม่ได้กลัวค่ะแต่ว่า…”
“แต่อะไร”
“พร้อมไม่แน่ใจว่าควรพูดออกไปดีหรือเปล่า”
“ก็ลองพูดมาก่อน”
“แบบว่ากลิ่นตัวของหมอหอมมากเลยค่ะและมันก็ทำให้พร้อมใจเต้นแรงเกินไป พร้อมเลยถอยออกมาน่าจะดีกว่า พร้อมยังไม่อยากหัวใจวายก่อน เพราะยังอยากรู้จักหมอให้มากกว่านี้”