bc

เมียนอกสายตาของหมอเธียร

book_age18+
3.9K
FOLLOW
30.9K
READ
one-night stand
family
HE
forced
stepfather
single mother
heir/heiress
blue collar
drama
city
childhood crush
friends with benefits
like
intro-logo
Blurb

'นายแพทย์เธียรทรรศน์' ถูกใครบางคนวางยาในงานเลี้ยงของโรงพยาบาล

และเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่

เขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่เคียงข้างผู้หญิงคนหนึ่งในสภาพเปล่าเปลือยกันทั้งคู่

แต่หลังจากที่เขาเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งใจว่าจะออกมาคุยกับเธอให้รู้เรื่อง

'คู่นอนชั่วคืน' ของเขาก็อันตรธานหายไปราวกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่จริง

กระทั่งหลายเดือนผ่านไป...เขาก็ได้พบกับทารกเพศชายคนหนึ่ง

ซึ่งถูกนำมาวางทิ้งไว้หน้าคฤหาสน์พร้อมกับจดหมาย

ที่ระบุวันเดือนปีเกิดและบอกว่าพ่อของเด็กก็คือเขาเอง

อีกทั้งยังบอกด้วยว่าในวันเกิดอายุครบสี่ขวบของลูก

คนเป็นแม่จะมารับเด็กน้อยไร้เดียงสากลับไปดูแลเอง

หมอหนุ่มจึงได้ทำการตรวจ DNA ให้แน่ใจ

และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวในทันที

จนเมื่อสี่ปีต่อมา...

หญิงสาวที่เคยมอบความบริสุทธิ์ให้กับเขาในคืนนั้นก็ปรากฏตัว

'ภีมพิมล' เอ่ยปากขอลูกชายของเธอคืน

และสัญญาว่าจะไม่มารบกวนเขาอีกเลย

แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เหมือนวันนั้น

ยิ่งไม่มีวันปล่อยมือจากลูกชายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจคนนี้เด็ดขาด

ในเมื่อเธออยากเป็นแม่ของลูก

เธอก็ต้องยอมรับตำแหน่ง 'เมียนอกสายตา' จากเขาไปด้วย

เพราะเขาจะทำให้เธอได้รู้ว่า

ผู้หญิงไร้ค่าที่กล้าทิ้งลูกไปอย่างเลือดเย็น

ไม่สมควรที่ลูกชายของเขาจะเรียกว่า 'แม่'

===โปรยปราย===

"แบมรู้ค่ะว่าแบมไม่ได้ร่ำรวยและมีชื่อเสียงเหมือนคุณ แต่...ครั้งนั้นแบมไม่มีทางเลือกจริงๆ ถ้าแบมไม่เอาลูกมาทิ้งให้คุณ ลูกของแบมก็คงต้องตกอยู่ในอันตราย เพราะ..."

"ฉันไม่สนใจเหตุผลงี่เง่าไร้สาระของเธอ สำหรับฉันแล้วคนที่ทิ้งลูกไปก็ไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องอะไรทั้งนั้น รับเงินร้อยล้านแล้วกลับไปซะ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจแล้วไม่ให้ค่าอุ้มท้องของเธอแม้แต่สตางค์แดงเดียว"

เขาจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง คิดว่าเธอคงจะโวยวายแล้วหาทางพาลูกไปให้ได้ หรือไม่ก็ยอมรับเงินร้อยล้านตามที่เขาเสนอ แต่ภีมพิมลกลับทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด เธอค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นแล้วยกมือไหว้เขาก่อนที่น้ำตาของเธอจะไหลออกมา

"แบมขอร้องนะคะคุณหมอ ชีวิตของแบมผ่านเรื่องบ้าๆ มาได้ก็เพื่อรอวันนี้เท่านั้น คุณจะไม่ยอมยกลูกให้แบมก็ได้ แต่ขอให้แบมได้อยู่กับลูกที่นี่ได้มั้ยคะ จะให้แบมอยู่ในฐานะอะไรแบมก็ยอม แต่แบมไม่อยากอยู่ห่างจากลูกอีกแล้ว"

แล้วเธอก็ก้มลงกราบเขาพร้อมกับร้องไห้จนตัวโยน และนั่นก็ทำให้เขานิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะหันไปมองที่สนามหญ้าและเห็นรอยยิ้มของลูกชายที่กำลังเต็มไปด้วยความสุขเพราะเพิ่งจะได้รู้ว่าตัวเองก็มีแม่เหมือนคนอื่นเช่นกัน แม้ลูกชายจะไม่ได้แสดงออกให้คนเป็นแม่ได้เห็นเพราะยังคงเต็มไปด้วยความน้อยใจอยู่เต็มอก แต่เขาก็รู้ดีว่าลูกต้องการอะไร

หมอหนุ่มถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเลือกทำในสิ่งที่ไม่อยากทำที่สุด แต่มันเป็นสิ่งที่ลูกรักโหยหามาตลอดชีวิต

"คนรับใช้"

"คะ?" เธอรีบเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างรวดเร็ว

"ถ้าเธออยากอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่เธอจะเป็นได้แค่คนรับใช้ของฉันเท่านั้น"

"แล้ว...แล้วแบมจะได้นอนกับลูกบ้างมั้ยคะ"

เธอไม่สนใจตำแหน่งที่เขาให้ เพราะไม่ว่าจะตำแหน่งอะไรก็ขอให้เธอได้อยู่กับลูกก็พอ

"ลูกนอนกับฉันเกือบทุกคืน ถ้าเธออยากนอนกับลูกก็คงต้องนอนร่วมเตียงกับฉันด้วย เธอกล้ารึเปล่าล่ะ"

"กล้าค่ะ ขอแค่ให้ได้นอนกับลูก แค่นอนรวมกันสามคนแบมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว"

"หึ จำคำของเธอเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน หวังว่าเธอจะไม่นึกเสียใจทีหลังที่รับปากฉันในวันนี้"

"แบมไม่มีวันเสียใจค่ะ เพราะไม่มีอะไรจะทำให้แบมรู้สึกเสียใจไปมากกว่าการทิ้งลูกไปอีกแล้ว ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ ขอบคุณที่ยอมให้แบมมาอยู่กับลูกที่นี่ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ"

เธอยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหวได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

=================================================

แนะนำนิยายชุด เมียลับคุณหมอแสนร้าย 3 เรื่อง ได้แก่

- เมียในอุปถัมภ์ของหมอภูมิ (หมอภูมิ & จี)

- เมียไม่ปรารถนาของหมอไทม์ (หมอไทม์ & ณิชา)

- เมียนอกสายตาของหมอเธียร (หมอเธียร & แบม)

นอกจากนี้ยังมีอีก 2 เรื่อง ที่เกี่ยวข้องกัน ชื่อซีรี่ส์ เล่ห์รัก (พระเอกเป็นพี่น้องกันกับหมอเธียร) ได้แก่

- อุบายรักคุณหมอร้าย (หมอธีม & อ้อน)

- พ่ายเล่ห์บอสมาเฟีย (คุณธัน & พีช)

ฝากติดตามทั้ง 5 เรื่องด้วยนะคะ^^

chap-preview
Free preview
บทนำ...คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
หยาดฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าตั้งแต่พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ภีมพิมลอุ้มลูกชายที่หลับอยู่ในผ้าห่อตัวสีฟ้า เธอสวมหมวกคลุมศีรษะ ปิดหน้าด้วยผ้าพันคอเดินฝ่าความมืดมาจนถึงหน้าประตูคฤหาสน์ด้วยหัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก เธอวางลูกลงในตะกร้าทรงยาวบุผ้านุ่ม วางขวดนมและผ้าห่มสำรองไว้ข้างๆ ก่อนจะหยิบซองจดหมายออกมาวางบนอกลูก หญิงสาวอ่านข้อความที่เขียนด้วยตัวเองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะเขียนรายละเอียดของเขาครบถ้วนแล้ว ก่อนที่น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าจะร่วงลงบนตัวอักษรจนหมึกเริ่มเปื้อน จากนั้นเธอก้มลงจูบหน้าผากลูกเบาๆ “แม่ขอโทษนะลูก…แต่แม่ไม่มีทางเลือกจริงๆ” เสียงกระซิบสั่นเครือทำให้ลูกชายขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่ทำให้ตื่น ใบหน้าของเขายังสงบนิ่งและไร้เดียงสา เพราะไม่รู้เลยว่าโลกภายนอกโหดร้ายแค่ไหน เมื่อเอ่ยคำลากับลูกชายแล้ว ภีมพิมลก็กดกริ่งหน้าประตูหนึ่งครั้งแล้วรีบถอยออกมา เธอหลบหลังพุ่มไม้ข้างถนนรอจนเห็นไฟในตัวบ้านสว่างขึ้น และมีเงาร่างคนเดินออกมาเปิดประตูเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นในความเงียบของฝน “…นี่มันอะไร” เธอมองเพียงแผ่นหลังกว้างนั้นไกลๆ เห็นเขาก้มลงอุ้มลูกขึ้นมาในอ้อมแขนแล้วพึมพำบางอย่างออกมาแต่เธอก็ได้ยินไม่ชัดนัก ฝนเริ่มตกหนักมากขึ้นทุกขณะ เขาจึงได้พาเด็กเข้าไปในบ้าน ภีมพิมลหันหลังให้ภาพนั้น แล้วกัดฟันก้าวเดินออกไปในความมืด น้ำตาหยดแล้วหยดเล่ายังคงไหลอาบสองแก้มจนผ้าพันคอเปียกชุ่ม ทุกย่างก้าวเหมือนเหยียบลงบนหัวใจตัวเอง แต่เธอตัดสินใจแล้วว่านี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้ลูกมีชีวิตรอด แม้ยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะไปอยู่ที่ไหนหรือจะหลบหนีได้อีกนานเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยตอนนี้ลูกของเธอก็ปลอดภัยแล้ว สี่ปีที่บอกไป...เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาหาลูกอย่างที่รับปากหรือไม่ แต่หากเขาเลี้ยงดูลูกของเธอจนถึงอายุสี่ปี เขาก็คงจะพอมีความผูกพันกับลูกอยู่บ้าง ต่อให้เขาจะแต่งงานมีครอบครัวใหม่ก็คงไม่ทิ้งขว้างลูกคนนี้ และสี่ปีมันคงจะนานพอให้คนพวกนั้นเลิกติดตามเธอเสียที หรือไม่มันก็อาจจะช่วยทำให้เธอมีความมั่นคงในชีวิตได้มากกว่านี้และพร้อมจะเลี้ยงลูกได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องหวังพึ่งพ่อของลูกอีก ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้...ภายในบ้านของเธียรทรรศน์ หมอหนุ่มกำลังนั่งอ่านเอกสารการบริหารโรงพยาบาลอยู่ในห้องทำงาน กระทั่งเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น ซึ่งมันน่าประหลาดอยู่ไม่น้อยเพราะปกติเขาไม่ค่อยมีแขกมาหา หรือหากเป็นคนในครอบครัวทุกคนก็จะโทรมาบอกก่อนเข้ามาอยู่แล้ว แต่นี่ไม่มีใครแจ้งว่าจะมา เขาขมวดคิ้ว ลุกจากเก้าอี้ และเดินออกจากห้องทำงาน เสียงฝนที่ดังชัดขึ้นทุกย่างก้าวทำให้เขาเดาว่าใครบางคนอาจกำลังรอท่ามกลางอากาศเย็นจัด เมื่อเขาเปิดประตูรั้วอัตโนมัติออกไป แสงไฟจากโคมติดเสาเผยให้เห็น…ตะกร้าสานใบเล็กวางอยู่ตรงพื้น ในตะกร้ามีร่างเล็กๆ ของเด็กทารกนอนหลับสนิท ผ้าห่มสีฟ้าอ่อนคลุมครึ่งตัว ใบหน้ากลมมนแดงระเรื่อเพราะอากาศเย็น ริมฝีปากเล็กขยับเหมือนกำลังดูดนมในฝัน บนตัวเด็กมีซองจดหมายสีขาววางแนบอยู่... เธียรทรรศน์ก้าวเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ภาพร่างเล็กตรงหน้าดึงดูดสายตาอย่างประหลาดราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เขาก้มลงหยิบจดหมาย เปิดมันออกด้วยมือที่มั่นคง แต่ยิ่งอ่าน ดวงตาสีเข้มก็เบิกกว้างขึ้นทีละบรรทัด เด็กคนนี้ชื่อธรณ์ค่ะ เขาเกิดวันที่ 8 สิงหาคม อายุ 3 เดือนแล้ว เขาเป็นลูกของคุณหมอเธียรทรรศน์ ธัญญาวัฒนา ได้โปรดช่วยเลี้ยงเขาให้เติบโตอย่างปลอดภัยด้วยนะคะ และในวันเกิดอายุครบสี่ขวบของเขา ฉันจะมารับเขากลับไปดูแลต่อเอง ขอให้เชื่อว่าฉันรักเขามาก…และที่ต้องยอมจากไปก็เพื่อปกป้องชีวิตของเขาเท่านั้น ตัวอักษรชัดเจน ไม่มีร่องรอยรีบร้อน แต่หมึกตรงมุมกระดาษมีคราบด่างเล็กๆ หรือจะเป็น...น้ำตา? เขาเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ แต่ความมืดและฝนพรำปิดบังทุกอย่าง ไม่มีเงาของใครทั้งสิ้น สมองของเขาทำงานอย่างรวดเร็ว... ใครกันที่กล้าทิ้งเด็กไว้แบบนี้? แล้วทำไมต้องเป็นหน้าบ้านเขา? หรือจดหมายนี้คือเรื่องล้อเล่นที่โหดร้าย? แต่ทันทีที่เบนสายตากลับไปยังใบหน้าของเด็กน้อย ความรู้สึกแปลกประหลาดก็แล่นวาบในอก…โครงหน้าบางส่วนเหมือนเขาอย่างไม่น่าเชื่อ...โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่ล้อมด้วยแพขนตายาว เธียรทรรศน์ค่อยๆ อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ร่างเล็กอุ่นจัดในอ้อมแขน แม้ภายนอกจะเย็นเพราะฝน แต่ความอบอุ่นนี้กลับไหลเข้าสู่หัวใจเขาโดยไม่ทันตั้งตัว เด็กน้อยส่งเสียงครางเบาๆ ก่อนจะซุกหน้าลงกับอกเขาอย่างไว้วางใจ เพียงสัมผัสนั้นก็เพียงพอให้หัวใจชายผู้ไม่เคยคิดเรื่องการเป็นพ่อสั่นไหวอย่างรุนแรง เขาอุ้มเด็กเข้ามาในบ้าน เรียกสาวใช้คนหนึ่งให้ช่วยจัดเตรียมผ้าขนหนูและบอกให้สาวใช้อีกคนออกไปซื้อของใช้สำหรับเด็กที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านมาอย่างเร่งด่วนที่สุด ในระหว่างที่เช็ดตัวและเปลี่ยนผ้าให้เด็กน้อย ความคิดมากมายก็พรั่งพรูเข้ามาในสมอง ใครคือผู้หญิงในจดหมาย? เป็นไปได้ไหมว่า…เธอคือผู้หญิงในคืนนั้นเมื่อหลายเดือนก่อน? ผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างกายเขาและหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตน มีเพียงใบหน้าสวยหวานที่ยังติดตราตรึงใจมาถึงตอนนี้ เขามองหน้าเด็กที่แม่เรียกว่า ‘ธรณ์’ อีกครั้ง เด็กน้อยหลับสนิทในผ้าห่มใหม่ที่อบอุ่น ดวงตาปิดสนิทแต่คิ้วเล็กๆ ขมวดคล้ายไม่สบายใจ เธียรทรรศน์เอื้อมมือเกลี่ยคิ้วเล็กนั่นอย่างเบามือ ก่อนจะถอนหายใจยาว “ไม่ว่าแม่ของหนูจะเป็นใคร…ฉันจะต้องหาความจริงให้ได้” แต่ก่อนหน้านั้น เขาต้องยืนยันข้อความในจดหมายให้แน่ใจด้วยการตรวจ DNA เช้าวันถัดมา หลังคืนที่พบเด็กน้อย เธียรทรรศน์แทบไม่ได้นอนเต็มตาเลยเพราะทุกครั้งที่หลับตาเขาก็เห็นภาพดวงตากลมโตคู่นั้น ดวงตาที่เหมือนของเขาเองในกระจก แม้จดหมายจะระบุชัด แต่หมอผู้เชื่อในหลักฐานอย่างเขาย่อมไม่ปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวเป็นคำตอบ เขาโทรหาเพื่อนสนิทคนหนึ่งซึ่งเป็นหัวหน้าห้องแล็บของโรงพยาบาลธัญญาเวชทันที (“โอม ฉันต้องการตรวจ DNA เด็กคนหนึ่ง…วันนี้เลย”) (“เด็กที่ไหนวะเธียร? หรือว่ามีเรื่องอะไร?”) (“…อาจจะเป็นลูกของฉันเอง”) (“เฮ้ย! นี่เรื่องใหญ่เลยนะ นายบอกคุณลุงคุณป้ารึยังวะ”) (“ยังหรอก รอให้ผลออกมาก่อนแล้วฉันค่อยบอกพวกท่านอีกที อีกเดี๋ยวฉันจะพาเด็กไปที่โรงพยาบาล ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยล่ะ จนกว่าจะรู้ความจริง ฉันยังไม่อยากให้มีใครรู้ทั้งนั้น”) (“งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวฉันไปเก็บตัวอย่างที่บ้านนายดีกว่า อย่าเสี่ยงพาเด็กมาที่นี่เลย ไม่งั้นยังไงก็คงปิดไม่มิดหรอก”) (“อืม แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน รีบมานะ”) (“โอเค ขอเตรียมอุปกรณ์แป๊บ เดี๋ยวจะออกไปเลย”) (“ขอบใจมาก”) แม้น้ำเสียงของเขาจะราบเรียบตามบุคลิกนิ่งขรึม แต่หัวใจเขากลับเต้นแรงเหมือนเครื่องกระทบจังหวะที่ผิดเพี้ยน ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่อนของเขาก็มาถึงพร้อมกับกล่องอุปกรณ์เก็บตัวอย่าง เธียรทรรศน์นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ละสายตาแม้แต่วินาทีเดียวขณะที่เพื่อนใช้สำลีป้ายกระพุ้งแก้มเด็กน้อยอย่างเบามือ ทุกขั้นตอนเขามองตามราวกับกำลังผ่าตัดคนไข้สำคัญที่สุดในชีวิตและนี่ก็อาจจะเป็นความจริง “เรียบร้อย ผลน่าจะออกไม่เกินเจ็ดวันนี้แหละ” “ขอบใจ” เจ็ดวัน…ฟังดูไม่นาน แต่สำหรับเขากลับเหมือนเจ็ดปี แม้จะยังไม่รู้ผล แต่วันนั้นเธียรทรรศน์ก็ไม่ได้กลับไปทำงานที่โรงพยาบาล เขาอยู่บ้านตลอดเวลาเพื่อเรียนรู้การอุ้มเด็ก การเปลี่ยนผ้าอ้อม การชงนมซึ่งทั้งหมดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้ทำอะไรแบบนี้ ตอนแรกเขาก็เก้ๆ กังๆ จนแม่บ้านต้องช่วย แต่เพียงไม่นาน เขาก็เริ่มจับจังหวะได้ เวลาเด็กร้องไห้เขาจะเดินไปเดินมาแล้วตบหลังลูกเบาๆ จนเสียงร้องแผ่วลง เวลาเด็กหลับ เขาจะนั่งเฝ้าเงียบๆ ราวกับเกรงว่าลมหายใจของตัวเองจะปลุกเด็กให้ตื่น ในความเงียบนั้นเขาก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น มันเป็นความทรงจำที่เลือนรางเต็มที แต่ก็มั่นใจว่าระหว่างเขากับผู้หญิงปริศนาไม่ใช่แค่การนอนกอดกันเฉยๆ อย่างแน่นอน เพราะแม้จะอยู่ในห้วงเวลาที่ไร้สติแต่เขากลับยังจดจำเสียงครางแผ่วราวกับเสียงสวรรค์ของเธอได้เป็นอย่างดี เจ็ดวันต่อมา เสียงโทรศัพท์จากเพื่อนดังขึ้น เพียงเสียงทักทายของอีกฝ่าย เขาก็รู้ว่าผลออกแล้ว (“ยินดีด้วยว่ะ…เขาเป็นลูกนายจริงๆ”) คำพูดสั้นๆ นั้นเหมือนสัญญาณไฟที่เปิดสว่างในความมืด ไม่มีความลังเลอีกต่อไปเด็กคนนี้คือลูกของเขาเป็นเลือดเนื้อของเขาจริงๆ เธียรทรรศน์ก้มมองเจ้าตัวเล็กที่กำลังยิ้มไร้ฟันในอ้อมแขน หัวใจเขาเต้นช้าลงอย่างประหลาด เหมือนเพิ่งเจอจุดหมายที่ไม่เคยคิดว่าจะตามหา ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง... การประชุมกับคณะกรรมการโรงพยาบาลต้องจัดให้เสร็จเร็วกว่าปกติ การออกตรวจคนไข้ถูกสลับเวลาเพื่อให้เขากลับมาชงนมตอนเย็นได้ทันเวลา แม่บ้านบอกว่าไม่เคยเห็นเขายิ้มให้ใครบ่อยเท่านี้มาก่อนและพยาบาลในโรงพยาบาลก็เริ่มชินกับภาพผู้อำนวยการผู้เคร่งขรึม อุ้มลูกชายวัยไม่กี่เดือนมาด้วยในวันทำงาน แม้จะไม่มีใครรู้ว่าแม่เด็กเป็นใคร แต่เด็กน้อยก็ถูกยอมรับในฐานะทายาทอีกคนของธัญญาวัฒนาจากผลการตรวจ DNA ที่ถูกเปิดเผยเพื่อไม่ให้มีใครคลางแคลงใจในตัวของเด็กคนนี้ เธียรธรรศน์ตั้งชื่อเต็มให้ลูกว่า ‘ธรณ์เทพ’ แปลว่า เทวดาผู้รักษาแผ่นดิน ลูกชายของเขาเติบโตขึ้นตามลำดับจากร่างน้อยที่เอาแต่นอนทั้งวันกลายเป็นเด็กหัวเราะง่าย ชอบเล่นกับปากกาในกระเป๋าเสื้อกาวน์ของพ่อ ชอบคว้ามือพ่อแล้วกำแน่นจนเธียรทรรศน์รู้สึกเหมือนถูกยึดไว้ทั้งหัวใจ และทุกคืนก่อนนอน เขามักจะพึมพำกับตัวเองเสมอ “ไม่ว่าแม่ของลูกจะเป็นใคร หรือมีเหตุผลอะไรที่จากไป…พ่อจะไม่ยอมให้ใครพรากลูกไปทั้งนั้น...ไม่มีวัน” แม้จดหมายจะบอกว่าเธอจะมารับลูกคืนเมื่ออายุสี่ขวบ แต่เขาไม่เคยคิดปล่อยมือน้อยๆ ให้ออกห่างแม้เพียงเสี้ยวนาที เพราะลูกชายได้กลายเป็นโลกทั้งใบของเขาไปแล้ว...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

30 Days to Freedom: Abandoned Luna is Secret Shadow King

read
304.0K
bc

Too Late for Regret

read
252.5K
bc

Just One Kiss, before divorcing me

read
1.6M
bc

Alpha's Regret: the Luna is Secret Heiress!

read
1.2M
bc

The Warrior's Broken Mate

read
133.3K
bc

The Lost Pack

read
354.5K
bc

Revenge, served in a black dress

read
138.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook