ตอนที่ 2 ชีวิตพลิกผัน

1332 Words
~เอพริล~ ครืด ครืด ครืด เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก เมื่อเห็นว่าใครโทรมาฉันรีบกดรับสายทันที “ค่ะแม่” (เอพริล ฮือๆ) “แม่คะ แม่เป็นอะไร ร้องไห้ทำไมคะ?” (ฮือๆ เอพริล แย่แล้วลูก เรากำลังจะแย่แล้ว) “ใจเย็นๆ นะคะแม่ แม่มีเรื่องอะไรคะ?” (ฮือๆ) “เอาอย่างนี้นะคะแม่ เดี๋ยวหนูไปหา แม่ใจเย็นๆ นะคะ รอหนูก่อนนะคะแม่” หลังจากวางสายฉันก็รีบขับรถกลับไปที่บ้านทันที ไม่ถึงชั่วโมง รถก็มาจอดสนิทอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ ฉันรีบเดินเข้าไปในบ้านก็เจอแม่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ที่ห้องรับแขก “แม่คะ! แม่ แม่เป็นอะไรคะ? ร้องไห้ทำไม?” “ก็พ่อเราน่ะสิ! ติดการพนันจนหมดตัว แถมยังมีหนี้สินท่วมหัว บ้านหลังนี้ก็เอาไปจำนองแล้วก็ไม่ได้ส่ง จนตอนนี้ธนาคารจะยึดบ้านแล้วด้วย” “จริงเหรอคะแม่..ทำไมพ่อถึงทำแบบนั้น?” “แม่ก็ไม่รู้ว่าผีพนันตัวไหนมันไปเข้าสิงพ่อแก ฮือๆ” “แล้วบริษัทล่ะคะแม่?” “พ่อแกเทขายหุ้นไปหมดแล้ว ตอนนี้เราไม่เหลืออะไรเเล้ว” “แล้วนี่พ่ออยู่ไหนคะ?” “หมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงานนู่นแน่ะ” ทันใดนั้นเอง เสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งนัด ปัง!! ฉันกับแม่หันมามองหน้ากัน ก่อนที่จะพากันวิ่งไปที่ห้องทำงานของพ่อ ภาพตรงหน้าที่เห็นหลังจากที่ฉันจะปิดประตูเข้าไปคือภาพที่พ่อนอนฟุบกับโต๊ะทำงานที่ศีรษะมีเลือดไหลนองออกมาจนเต็มโต๊ะไปหมด “กรี้ดดด ไม่! ไม่นะ คุณ คุณคะ โถ่! ทำไมถึงทำแบบนี้” ฉันกับแม่ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก พอฉันตั้งสติได้ฉันก็รีบโทรแจ้งตำรวจด้วยมือที่สั่นเทิ้ม ส่วนแม่ก็กอดพ่อร้องไห้ออกมา งานศพของพ่อถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีแขกมาร่วมงานเพียงไม่กี่คน คนเราพอหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่มีใครอยากจะคบค้าสมาคมด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนสิ..มีแต่คนประจบประแจง เอาอกเอาใจ แต่พอตายไปไม่เห็นมีใครมาร่วมงานสักคน หลังจากที่งานศพของพ่อเสร็จสิ้น ฉันก็พาแม่กลับไปอยู่บ้านสวนที่ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่คุณตาคุณยายยกให้แม่ แต่พอแม่แต่งงานกับพ่อก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ส่วนบ้านสวนก็จ้างคนรู้จักให้ช่วยดูแล “แม่อยู่คนเดียวได้มั้ยคะ?” “แม่อยู่ได้ลูกไม่ต้องห่วงแม่ ว่าแต่ลูกเถอะ เรื่องเรียนจะเอายังไง แม่คงไม่มีเงินส่งให้ลูกเรียนแล้วล่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะแม่ เดี๋ยวหนูจะทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนเองค่ะ” “แล้วไหนจะค่าเช่าคอนโดอีกล่ะลูก แล้วก็รถนี่อีก เดี๋ยวไฟแนนซ์ก็ต้องตามมาเอารถไปอยู่ดี เพราะพ่อแกเอาไปเข้าไฟแนนซ์ไว้” “รถคันนี้ด้วยเหรอคะแม่?” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง “ก็ใช่น่ะสิ” “เรื่องคอนโดเดี๋ยวหนูจะย้ายไปเช่าอพาร์ตเมนต์ถูกๆ อยู่ก็ได้ค่ะ หาที่ใกล้ๆ มหาลัยหน่อย จะได้เดินไปเรียนได้” “แล้วลูกไม่อายเพื่อนเหรอ?” “ไม่ค่ะ หนูไม่อาย” “แม่ขอโทษนะลูก ที่ทำให้ลูกต้องลำบาก” “ช่างมันเถอะค่ะแม่ มันผ่านไปแล้วเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หนูว่าเรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่านะคะ หนูจะรีบเรียนให้จบ หนูจะเป็นคนดูแลแม่เองค่ะ” “ขอบใจมากนะลูก ขอบใจจริงๆ” แล้วฉันกับแม่ก็โผลเข้ากอดกัน ตอนนี้ฉันจะอ่อนแอไม่ได้ ฉันต้องเป็นเสาหลักให้แม่ เพราะจิตใจของแม่ตอนนี้อ่อนแอเหลือเกิน ไหนบ้านจะล้มละลายแถมสามียังมาฆ่าตัวตายอีก ถ้าเป็นฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเข้มแข็งเหมือนได้เหมือนแม่ไหม หลังจากที่ฉันกลับมาจากบ้านสวน ฉันก็ไปหาอพาร์ตเมนต์ที่ราคาไม่แพง และอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย โชคดีที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง แต่ความปลอดภัยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่ฉันก็เลือกอะไรได้ไม่มากนัก หลังจากที่จ่ายค่าเช่าและค่ามัดจำเสร็จเรียบร้อย ฉันก็ไปแจ้งย้ายออกจากคอนโด และเก็บข้าวของออกมาไว้ที่อพาร์ตเมนต์ “เอพริล นี่แกหายไปไหนมาเป็นอาทิตย์ ฉันติดต่อแกไม่ได้เลย” เสียงของแอนนาเอ่ยถามในขณะที่นั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์ “พอดีที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยน่ะ” ฉันตอบเสียงเรียบๆ “อ๋อเหรอ? แล้วเป็นยังไงบ้าง โอเคแล้วใช่มั้ย?” “อืม โอเคแล้ว” “งั้นเย็นนี้ไปทำรายงานห้องแกนะ ห้องฉันมันรกอ่ะ ยังไม่ได้เก็บเลย” “คือฉันไม่ได้อยู่คอนโดแล้วอ่ะแก ฉันย้ายกลับไปอยู่บ้านแล้ว” “อ้าว! จริงดิ อย่างนี้แกก็ต้องตื่นแต่เช้าน่ะสิ เพราะจากบ้านแกมานี่ก็ใช้เวลาเดินทางเป็นชั่วโมงเลย” “อืม ก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละ” “แกมีปัญหาอะไร แกบอกฉันได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” “ขอบใจแกมากนะแอนนา” “อืม..ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนกันนิ” ฉันไม่ได้บอกเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวฉันบ้าง ฉันไม่ได้อายหรอกนะ แค่ไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นห่วง ฉันรู้ว่าถ้าฉันเล่าเรื่องทั้งให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ไม่ทิ้งฉันแน่นอน แต่ฉันไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของฉัน ยังดีที่ตอนนี้ไฟแนนซ์ยังไม่ติดต่อมา ฉันก็เลยยังมีรถใช้อยู่ฉันไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลย แม่ไม่เคยเล่าอะไรให้ฉันฟังเลย ปกติพ่อฉันก็ไม่ใช่คนที่ชอบเล่นการพนัน พ่อเป็นคนรักครอบครัวมาก ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกให้เมียได้อยู่อย่างสุขสบาย แต่ช่วงหลังๆ แม่บอกว่าที่บริษัทเริ่มมีปัญญา พ่อก็เลยหันไปเล่นการพนันเพื่อผ่อนคลาย แต่พอเล่นไปเล่นมากลับถลำลึก จนไม่สามารถถอนตัวได้ จึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา แล้วพ่อก็ดันมาตัดช่องน้อยแต่พอตัว ทิ้งปัญหาไว้ให้ฉันกับแม่ แต่ฉันก็เข้าใจในมุมของพ่อนะ ท่านคงจะเครียดมากที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ท่านคงละอายแก่ใจจนไม่สามารถอยู่สู้หน้าลูกเมียได้ ถ้าฉันรู้เรื่องไวกว่านี้ ฉันก็จะห้ามพ่อไม่ให้คิดสั้นได้ เพราะปัญหาทุกอย่างมันมีทางออกของมันเสมอ เพียงแต่เราต้องลุกขึ้นสู้ก็เท่านั้น แต่ในเมื่อตอนนี้พ่อฉันไม่สู้แล้ว คนที่อยู่ก็ต้องสู้ต่อไป ฉันก็ได้แต่หวังว่าแม่จะเข้มแข็งและทำใจได้ในสักวัน ตอนนี้ชีวิตฉันก็เหลือแค่แม่เพียงคนเดียว ฉันสัญญากับตัวเองว่าฉันจะไม่ทำให้แม่ต้องลำบาก ฉันจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดเท่าที่ลูกคนหนึ่งจะทำเพื่อแม่ได้ ในระหว่างที่กำลังนั่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันก็หางานในอินเทอร์เน็ตไปด้วย ว่ามันมีงานอะไรบ้างที่ฉันพอจะทำได้ แต่ก็คงทำได้เฉพาะงานที่ทำในเวลากลางคืน และในวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้น แต่งานสมัยนี้ก็หายากเสียเหลือเกิน ฉันจดเบอร์โทรติดต่อไว้หลายที่ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะลองโทรไปสอบถามดู มันต้องมีสักงานสิ! หวังว่าโลกใบนี้จะไม่ใจร้ายกันฉันจนเกินไปนะ..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD