เขานึกถึงรอยยิ้มหวานของเธอ เด็กสาวที่เติบโตขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะสดใสที่เคยทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ภาพเหล่านั้นยังคงชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจปล่อยผ่านคือการจากไปอย่างไม่มีเหตุผล ตราบจนวันเวลาที่เขาและเธอโตขึ้น เขาเลือกที่จะไปอยู่คอนโดและไม่ค่อยได้ไปหาเธอ ส่วนเธอก็ไม่ได้ไปมาหาสู่ที่บ้านเขาเช่นเคย
แทนคุณลุกขึ้นยืน เดินไปที่หน้าต่างกระจกสูง มองออกไปนอกอาคารอย่างครุ่นคิด แววตาคมเข้มเต็มไปด้วยคำถามและความไม่เชื่อใจ เขาพยายามคิดอยู่หลายตลบเหตุใดเพียงดาวถึงเลือกที่จะทิ้งงานแต่งงานไปเช่นนี้ มันไม่เคยมีลางอะไรบอกเขาว่าเธอจะไม่แต่งงานกับเขา แค่ความห่างในระยะเวลาไม่กี่ปี มันทำให้เธอเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไปเช่นนี้เชียวหรือ หรือว่าเธอมีใครในใจ แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะว่าตลอดเวลาที่ห่างกัน เขาก็ให้คนตามสืบและตามดูเธออยู่ห่างๆ เธอก็ไม่ได้แอบไปคบใคร นั่นมันยิ่งหาเหตุผลไม่เจอ ว่าเธอหนีไปเพราะอะไร
“ฤกษ์แต่งงานก็มีแล้ว ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมด แต่ทำไมเอื้อยต้องเลือกหนีไปแบบนั้น หรือว่ามีเหตุผลบางอย่างที่พี่ไม่รู้” แทนคุณเอ่ยพึมพำออกมาเพียงลำพัง นอกจากคิดไม่ออกแล้วเขายังต้องรออย่างไร้จุดหมาย รอว่านักสืบเอกชนที่เขาจ้างตามสืบร่องรอยของเพียงดาวจะแจ้งข้อมูลกลับมาว่าเธอหนีไปที่ใด แล้วถ้าเขาได้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ต่อให้ไกลแสนไกลแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะตามเธอไปเพื่อทำความเข้าใจกับเธอ และพาเธอกลับมาแต่งงานกับเขาให้ได้
ความสงสัยกัดกินหัวใจแทนคุณมากขึ้นทุกวินาที เขาไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ให้กลายเป็นเพียงการตัดสินใจลอยๆ ของเพียงดาวได้ เพราะในความรู้สึกของเขา เธอไม่ใช่คนที่จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังโดยไม่มีเหตุผล เขากำหมัดแน่น หัวใจเต้นแรงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ถ้าเอื้อยไม่ยอมบอก พี่ก็จะหาคำตอบด้วยตัวเอง เอื้อยไม่มีทางหนีพี่ไปได้หรอก พี่รอเอื้อยมานานขนาดนี้ พี่ไม่มีทางปล่อยเอื้อยไปง่ายๆ หรอก” แทนคุณเอ่ยด้วยความมุ่งมั่น การหมั้นหมายที่ประหนึ่งคำสัญญาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ให้ไว้แก่กัน มันทำให้เขาไม่กล้าคบใคร ไม่กล้ารักใคร ด้วยเพราะว่าเขารู้ดีอยู่แล้วว่าเขาจะต้องแต่งงานกับเธอ ความรักและความผูกพันถูกถักทอขึ้นเรื่อยๆ แต่พอถึงวันที่จะต้องแต่งงานกัน ทุกอย่างกับพังลงไม่เป็นท่า