2.2

1253 Words
ห้าทุ่มกว่าเอเดรียนกับไบรอันที่เริ่มมึนๆ กับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็แยกย้ายกัน พอลส่งคนขับรถมารับเอเดรียนที่หน้าไนต์คลับ ระหว่างที่รถเคลื่อนออกจากไนต์คลับคำพูดของเจสันก็ลอยเข้ามาในหัวของเอเดรียน “พอดีฉันพาลูกน้องมาเลี้ยงฉลองน่ะที่โดโนแวน กรุ๊ปได้สัมปทานเหมืองเพชรที่เวอร์จิเนีย อ่อ ฉันยังไม่ได้แสดงความเสียใจกับนายเลยที่พลาดโอกาสนั้นไป ฉันเสียใจด้วยจริงๆ นะ ราคาเสนอของเราต่างกันแค่เพียงสิบดอลลาร์เท่านั้น ช่างน่าเสียดายจริงๆ” มือหนากำเข้าหากันแน่นอย่างเจ็บใจ อารมร์กรุ่นโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นมาในอกอีกครั้ง คิ้วหนาที่พาดเหนือดวงตาเรียวรีขมวดเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่คมวาววับ และเมื่อตอนที่นึกถึงใบหน้าของมุกดาราในอกก็ยิ่งเดือดดาล “เป็นเพราะเธอคนเดียวมุกดาราที่ทำให้ไอ้บ้าเจสันกล้ามาหยามหน้าฉันแบบนี้” ยิ่งคิดแบบนั้นมือหนาก็ยิ่งกำเข้าหากันแน่นขึ้น แน่นจนเส้นเลือดหลังมือของชายหนุ่มปูดโปน และตอนนี้เอเดรียนก็ไม่อาจควบคุมโทสะเอาไว้ได้อีกแล้ว ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทร.หาพอล “ครับคุณเอเดรียน” พอลรับสายด้วยน้ำเสียงที่ติดจะงัวเงียเพราะเจ้าตอนเข้านอนตั้งแต่ช่วงสองทุ่มเศษ “รบกวนช่วยติดต่อคาเรนให้ผมหน่อย ผมต้องการที่อยู่ของมุกดารา” “ตอนนี้เลยหรือครับ” “ใช่ ผมต้องการเดี๋ยวนี้” “อ่า ได้ครับ คุณเอเดรียนวางสายก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมโทร.กลับ” เมื่อพอลบอกแบบนั้นเอเดรียนก็กดวางสาย ดวงตาคมกริบยังคงจับจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือถือ อีกห้านาทีต่อมาพอลก็โทร.กลับมา และเอเดรียนก็ไม่รีรอที่จะกดรับสาย “มุกดาราอยู่ที่อพาร์ตเมนต์...ถนน...อยู่ใกล้กับบริษัทของเราครับ” “ขอบคุณครับพอล” เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการเอเดรียนจึงกดวางสาย ก่อนที่จะหันไปออกคำสั่งคนขับรถเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ฟรีเดลไปหามุกดาราแทน “ไปอพาร์ตเมนต์…” “ครับคุณเอเดรียน” รถยนต์ยุโรปสมรรถนะสูงจอดที่หน้าอพาร์ตเมนต์กลางเก่ากลางใหม่สีขาวหม่นหลังหนึ่งที่สูงราวๆ สิบห้าชั้น เอเดรียนมองไปยังอพาร์ตเมนต์หลังดังกล่าว ครู่หนึ่งก็ก้าวลงไปจากรถแล้วเข้าไปในตัวอาคาร บริเวณชั้นล่างมีเพียงพนักงานคนหนึ่งที่ฟุบลงอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ไม่มียามที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าเอเดรียนถือว่านั่นเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยๆ เขาก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาสนทนาหรือต่อรองกับใครทั้งนั้น ร่างสูงสาวเท้าเข้าไปในลิฟต์แล้วกดไปยังชั้นที่เป็นห้องพักของมุกดารา ลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปยังชั้นที่ชายหนุ่มต้องการ ร่างสูงก้าวออกมาจากลิฟต์ตัวดังกล่าวก่อนจะหยุดเท้าที่หน้าห้องเจ็ดศูนย์หนึ่ง ซึ่งเป็นห้องพักของมุกดารา ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลายามวิกาลที่ไม่ควรจะมารบกวนการพักผ่อนของผู้อื่น ทว่ามือหนายกมือขึ้นเคาะประตูของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก… มุกดาราสะดุ้งตัวนิดๆ ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น สีหน้าของหญิงสาวติดจะงัวเงียเพราะกำลังนอน คิ้วได้รูปที่พาดเหนือดวงตากลมโตขยับเข้าหากันน้อยๆ คล้ายไม่แน่ใจว่าเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นนั้นเป็นห้องของเธอหรือเปล่า เพราะไม่เคยมีเลยสักครั้งที่จะมีคนมาหาหญิงสาวในยามวิกาลเช่นนี้ จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งหญิงสาวจึงมั่นใจ แม้จะสงสัยอยู่มากว่าใครกันที่มาหาเธอในยามวิกาลเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้นร่างบางในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงขายาวสีเทาซึ่งเป็นชุดที่หญิงสาวมักจะสวมใส่เวลาเข้านอนก้าวลงจากเตียง ขยับเท้าเพียงไม่กี่ก้าวมุกดาราก็หยุดเท้าตรงหน้าประตู ห้องพักของหญิงสาวไม่ได้กว้างขวางนัก มีเพียงห้องน้ำในตัว ส่วนมุมอื่นๆ ก็จัดสรรเอาเองตามความเหมาะสม และไม่มีห้องนอน หญิงสาวเพียงแต่ตั้งเตียงขนาดควีนไซซ์เอาไว้ที่มุมหนึ่งเท่านั้นเพื่อแยกที่นอนจะส่วนอื่นๆ ดวงตากลมโตส่องไปที่ตาแมวเพื่อดูมาแขกที่มาเยี่ยมเยียนในยามดึกดื่นเช่นนี้เป็นใคร ทันทีที่ได้เห็นผู้มาเยือนอย่างเต็มตาม ดวงตาคู่สวยถึงกับเบิกกว้าง กล้ามเนื้อในอกซ้ายเต้นถี่รัวขึ้นอย่างน่ากังวล มุกดาราไม่คิดจะเปิดประตูต้อนรับ เท้าเล็กกำลังจะขยับกลับไปที่เตียง ทว่าเสียงของคนที่หน้าประตูกลับดังขึ้นเสียก่อน “มุกดาราเปิดประตู” เอเดรียนไม่ได้พูดเปล่า ซ้ำชายหนุ่มยังกระแทกกำปั้นลงบนประตูรัวๆ ทำเอามุกดาราต้องรีบเปิดประตูให้อีกฝ่ายเพราะเกรงว่าจะรบกวนผู้ร่วมอพาร์ตเมนต์คนอื่นๆ แม้จะรู้สึกหวาดๆ อยู่มาก เพราะร้อยวันพันปีอีกฝ่ายไม่เคยโผล่หน้ามาที่นี่ ก็แหงล่ะ ไม่มีธุระอะไรที่ทำให้เขาต้องมาจนกระทั่งตอนนี้ ตอนที่เธอก่อเรื่องร้ายแรงลงไป มุกดาราผ่อนลมหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้งเพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูเพียงแค่พอเยี่ยมหน้าออกไป “คุณเอเดรียนมีอะไรหรือเปล่าคะอ๊ะ” มุกดาราร้องเสียงหลงตอนที่คนตรงหน้าไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่กลับใช้พละกำลังที่มีเหนือกว่าผลักบานประตูให้เปิดกว้างแล้วพาตัวเองเข้ามาด้านในอย่างถือวิสาสะ ซ้ำยังจัดการดันประตูปิดอย่างเสร็จสรรพ ก่อนจะหันใบหน้าหล่อเหลาที่ถมึงทึงมาที่เธอ “คุณเอเดรียนโอ๊ย” มุกดาราไม่มีโอกาสได้ถามถึงธุระของอีกฝ่าย มือหนาก็คว้าที่ต้นแขนทั้งสองข้างของเธอ เขาออกแรงเพียงนิดเดียงร่างของหญิงสาวก็ปลิวเข้าปะทะกับแผ่นอกแข็งแกร่ง “คุณเอเดรียนปล่อยผักหวานเถอะนะคะ ผักหวานเจ็บ” “ฮึ” เอเดรียนกระตุกยิ้มมุมปาก นัยน์ตาแข็งกร้าวจับจ้องที่ใบหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวดของมุกดาราแต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ไม่คิดจะออมแรงให้อีกฝ่าย “แค่นี้ยังน้อยไปมุกดาราถ้าเทียบกับสิ่งที่เธอทำ” เสียงทุ้มที่กดต่ำบวกกับประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูปของคนที่สูงกว่าทำให้ร่างเล็กชะงักไปชั่วขณะ หญิงสาวไม่กล้าโต้ตอบและแม้กระทั่งขัดขืนดิ้นรนเหมือนในตอนแรก เพราะที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาเป็นเรื่องจริง “เงียบทำไมล่ะมุกดารา” เอเดรียนแค่นเสียงถาม มุกดาราสบสายตากับคนตรงหน้าเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะรีบหลุบลงต่ำเลือกที่จะมองปลายเท้าของตัวเองแทน “ทำไมล่ะเกิดรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ ฮึ” ได้ยินแบบนั้นความรู้สึกผิดก็ยิ่งไหล่บ่าเข้าสู่กลางอกของมุกดารา และในเรื่องที่เธอทำผิดจริงก็ไร้ข้อแก้ตัว หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อนอย่างสำนึกผิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD