ถ้าคุณแตะต้องพวกเขา คุณจะเสียใจไปจนตาย

1564 Words
เธออึ้งไปนิด เขาช่างไร้มารยาทเสียจริงๆ “เงินทั้งนั้น จะทิ้งได้ไงคะ” เธอพูดพลางนั่งลง ตักอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวโชว์ “คุณคิดจะทิ้งเงินไป เพียงเพราะอารมณ์ไม่ดีเหรอคะ เงินนิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้ารวมกันหลายๆ วัน มันก็เยอะอยู่เหมือนกันนะคะ จริงไหม” เธอกำลังเกลี้ยกล่อมให้เขามากินอาหาร หรือบอกให้เขาทำอะไรกันแน่ ชายหนุ่มจ้องมองหน้าตาอิ่มสุขขณะเคี้ยวอาหารของหญิงสาวแล้วอดอิจฉาไม่ได้ “ทิ้งเงินไม่ได้ แต่ทิ้งคนรักได้ เธอกำลังจะพูดอย่างนั้นเหรอ” “เปล่านะคะ” หญิงสาวรีบดื่มน้ำ เพื่อดันหมูปั้นก้อนโตลงคอ แล้วพูดกับเขาอย่างจริงใจ “ฉันคิดว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ที่ห้องนี้ หรือที่ทำงาน คุณก็เป็นห่วงเธอ และพยายามติดต่อเธออยู่ดี เพราะฉะนั้น ถ้าคุณจะไปบริษัท ทำงานไปด้วย พยายามติดต่อเธอไปด้วย ก็เท่ากับ ไม่มีอะไรต้องเสียเลย” ชายหนุ่มจ้องหน้าเธอนิ่งๆ อยู่อึดใจหนึ่ง เธอรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ แต่เขาไม่พูด กลับหันหลังให้เธอ สีหน้าเคร่งขรึมดูเป็นกังวลนั้นผ่อนคลายลง มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ยิ้ม “ฉันควรจะไปทำงานสินะ” “ฉลาดนี่นา” “ไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ” ถูกต่อว่าแต่เธอกลับยิ้ม “ค่ะ ฉันคงไม่กล้าเป็นเพื่อนเล่นของคุณหรอก” และเธอมั่นใจว่าเขาเองก็คงไม่ลดตัวลงมาเป็นเพื่อนเล่นกับเธออย่างแน่นอน ก็เธอเป็นแค่แม่บ้านนี่นา!! ชายหนุ่มยังคงนั่งละเลียดจิบกาแฟ สายตาของเขายังจับจ้องผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้านนอก “นั่งสิ” เขาบอกคนที่เพิ่งจะเดินมาหยุดหน้าโต๊ะ ชายชราผู้นั้นอายุราวๆ หกสิบ เขานั่งลงตามคำเชิญอย่างไม่อิดออด ยกเว้นดวงตาที่อ่อนล้า ซ่อนความกังวลลึกๆ ที่ดูไม่ค่อยเต็มใจ “คุณอยากรู้เรื่องอะไร” “คุณคือมอร์แกน แจงโค อดีตบอดี้การ์ดมือซ้ายของเขาใช่ไหมครับ” “เพราะผมเป็นมัน คุณถึงได้เชิญผมมา ไม่ใช่เหรอ” ไคล์หันมาเผชิญหน้ากับชายชรา รอยยิ้มเย็นชาปลุกหัวใจของมอร์แกนให้เต้นเร็วอีกครั้ง “คุณอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น วันที่คุณแม่ของผมถูกลักพาตัว” คิ้วขาวขมวดมุ่น ก่อนจะคลายอย่างรวดเร็ว เขาถอนหายใจแผ่วเบา ต้อนรับภาพความทรงจำที่ถูกซ่อนไว้ในสมองส่วนลึกให้กลับมาแสดงอีกครั้ง “ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ที่คุณยอมมาตามคำเชิญของผม เพราะคุณมีเรื่องอยากจะคุยกับผมเหมือนกัน” มอร์แกนคลายสีหน้ากังวล เขาพยักหน้าหนึ่งครั้ง “ผมอยู่ที่นั่นจริงๆ” “คนที่ลักพาตัวคุณแม่ของผมอย่างไร้ความปราณี” สายตาของชายหนุ่มยังไร้อารมณ์เหมือนเดิม ต่างกับหัวใจของเขาที่กลัดความแค้นไว้เต็มแน่น “ต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของผมพังพินาศในเวลาต่อมา...” “คุณจะรื้อฟื้นไปทำไม” ไคล์ขบกรามเป็นสัน ก่อนจะหัวเราะหึๆ “ผมเป็นผู้สูญเสีย ผมต้องการการชดใช้อย่างสาสม ไม่เช่นนั้น ผมนอนตายตาไม่หลับ” “คนผิดรับโทษไปแล้ว” เสียงของมอร์แกนสั่นเครือ “ด้วยการนอนเล่นอยู่โรงพยาบาล” “โรงพยาบาลบ้า ทั้งๆ ที่สติดี มันต่างจากคุกตรงไหน เขาชดใช้ให้บิดาของคุณไปแล้ว” “เขาตายเร็วเกินไปมอร์แกน เขาตายในคุกไปตั้งแต่สิบปีที่แล้ว ตอนนั้น ผมยังอยู่ที่อังกฤษ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณแม่ เป็นไปได้ยังไงที่ผมเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้” มอร์แกนก้มหน้านิ่ง “คุณพ่อของคุณอาจไม่ต้องการให้คุณยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้” ชายหนุ่มหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาแล้ววางลงตรงหน้าชายสูงวัย “เมื่อวานนี้ ผมไปเยี่ยมเขาที่ทัณฑสถาน หลังจากที่ไม่ได้ไปเยี่ยมมาห้าปี เขาฝากจดหมายฉบับนี้เอาไว้ที่เจ้าหน้าที่ จ่าหน้าซองถึงคุณ...มอร์แกน แจงโค” มอร์แกนรับจดหมายมา แล้วมองหน้าชายหนุ่ม “ผมควรจะอ่านเดี๋ยวนี้เลยไหม” ชายหนุ่มยิ้ม “ก็แล้วแต่คุณ” “คุณรู้เนื้อความในจดหมายแล้วใช่ไหม ก่อนจะถึงมือผม” “ใช่ เขาเขียนขึ้น หลังจากที่ผมไปเยี่ยมและบอกเขาว่าผมจะฆ่าทุกคนที่สมรู้ร่วมคิดทำเรื่องเลวๆ กับคุณแม่ของผม เขาดูเป็นกังวลจนผมแน่ใจว่า เขาไม่เห็นด้วย เขาเขียนจดหมายฉบับนี้ ส่งถึงคุณ แต่ผมฉลาดกว่าเขา มันจึงมาอยู่ในมือของผมตอนนี้” เขาขยับใบหน้าเข้าใกล้ชายชราอีกนิด “คุณไม่อยากรู้เหรอว่าเขาเขียนอะไรลงไป” มอร์แกนทำใจให้สงบ ก่อนคลี่จดหมายของอดีตเจ้านายออกอ่าน ในเนื้อความจดหมายทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน “ซ่อนครอบครัวของวิน เดนิโกลาให้ดีที่สุด” ชายหนุ่มพูดถึงเนื้อความในจดหมายที่บิดาของเขาเขียนขึ้น เขายิ้มระรื่น “ผมถึงได้รู้ว่า วินยังเหลือคนในครอบครัวให้ผมได้จัดการ!!!” “หยุดเถอะไคล์” ชายสูงวัยพูดเสียงเข้มเป็นครั้งแรก “ไหนๆ เขาก็ตายไปแล้ว คุณอย่าไปยุ่งกับครอบครัวเขาเลย” ไคล์หัวเราะ แต่นัยน์ตาเหี้ยม เขากำแก้วกาแฟแน่นจนมือสั่น เอ็นปูดไปทั้งแขน ความแค้นมันคลั่งอยู่ในอก “บอกมาเถอะว่าครอบครัวของเขาอยู่ที่ไหน” “ถ้าคุณแตะต้องพวกเขา คุณจะเสียใจไปจนตาย” “ทำไมผมต้องเสียใจ” “ไปถามคุณพ่อของคุณ” ชายหนุ่มขบกรามแน่นกว่าเดิม นัยน์ตาแดงก่ำ “ผมมีพ่อคนเดียวคือฟรานเชส ส่วนหมอนั่นคือหนึ่งในศัตรูของผม ผมไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด” “คุณแม่ของคุณคงจะไม่ชอบใจนัก หากรู้ว่าคุณคิดจะฆ่าคน” “ผมไม่สนหรอกว่าคุณแม่ของผมจะรู้สึกยังไง ผมสนแค่ใครทำร้ายเธอ และผมจะเอาคืนมันทุกตัวเลย” ชายหนุ่มที่เติบโตมาจากเบ้าหลอมแห่งความทุกข์และขมขื่น มอร์แกนรู้สึกเสียดายเด็กผู้ชายที่หล่อเหลา ฉลาดหลักแหลม คุยเก่งและยิ้มง่ายคนนั้น บัดนี้ เขากลายเป็นคนละคน เวลาเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา ในมือของมาเฟียเฒ่าฟรานเชส เขาเหมือนไม่ใช่ลูกชายของมาดามไดแอนอีกต่อไป “ถ้าคุณร่วมมือกับผม คุณจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการ” “ผมจะทำตามที่คุณร้องขอ หากเป็นความประสงค์ของคุณพ่อคุณ” ไคล์สีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเดิม “นอกจากวิน บอดี้การ์ดมือขวาของคุณพ่อ ที่เป็นคนขับรถพาคุณแม่ของผมออกไป ไอ้เซบาสเตียน คนที่ได้เงินค่าไถ่ร้อยล้านยูโรแล้วหายสาบสูญไป ยังมีอีกหนึ่งคนที่ร่วมก่อการครั้งนี้ ซึ่งเป็นผู้บงการทั้งหมด บอกให้ผมรู้ได้ไหมครับ ว่าเขาคนนั้นคือใคร” มอร์แกนสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังนิ่งสงบ “คุณให้คนตามผมมานานเท่าไหร่แล้ว” “หลายเดือนแล้วล่ะครับ” เขารู้ว่ามอร์แกนกังวลเรื่องอะไร “แต่ผมยังไม่รู้หรอกว่าครอบครัวของวินอยู่ที่ไหน ก็คุณเล่นนั่งแต่ร้านกาแฟกับไปโบสถ์ ไม่เคยไปเยี่ยมพวกเขาเลยนี่” ชายสูงวัยนั่งนิ่ง เสียงสั่งเสียของเพื่อนรักกระตุ้นเตือนให้เขาระลึกถึง...ปกป้องครอบครัวของฉันด้วย...เขาทำตามนั้นและตั้งใจจะปิดเป็นความลับไปจนวันตาย “ผมให้คุณเลือก ระหว่างครอบครัวของวิน กับคนสั่งการคนนั้น ถ้าคุณบอกรายชื่อของคนๆ นั้น ผมสัญญาว่าจะไม่แตะต้องครอบครัวของวินเลยแม้แต่ปลายนิ้ว” ไคล์ลุกขึ้น แล้วเดินออกจากร้านไป โดยทิ้งทางเลือกไว้ให้มอร์แกนปวดหัวเล่น เขาสันนิษฐานว่าหลังจากนี้ มอร์แกนจะระมัดระวังตัวมากขึ้น แต่ถึงอย่างไร เขาก็จะยังส่งคนติดตามชายชราผู้นี้ไปจนกว่าจะค้นหาครอบครัวนั้นเจอ ซึ่งชายหนุ่มรู้สึกได้ว่า อีกไม่นานนี้... โทรศัพท์ของเขาสั่นขึ้น ชายหนุ่มล้วงมากดรับ ขณะสอดตัวเข้าไปในรถหรูคันใหญ่ที่จอดทิ้งไว้ในซอยข้างร้านกาแฟ “ว่าไงจูเลียร์” “คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเราต้องไปเดตกัน” “นัดสำคัญขนาดนั้น ผมไม่กล้าลืมหรอก” เขาพูดเสียงนิ่ง แต่นัยน์ตาพราว “แต่ผมจะไปร่วมงานนั้นในฐานะเพื่อนของคุณนะ เพื่อนที่คุณไม่ต้องแนะนำให้ใครรู้จัก” “คู่ขาไม่ได้เหรอ” เจ้าหล่อนแสร้งเย้าหยอก “ดาราสาวกับมาเฟียโหด” “อย่าให้เอกเกริกเลยน่า ผมขี้เกียจรำคาญ” เขาออกรถอย่างเร็ว ขณะมือหนึ่งยังถือโทรศัพท์แนบหู “เจอกันที่งานนะ” เขาทิ้งโทรศัพท์ลงบนเบาะนั่งข้างๆ เสี้ยววินาทีที่เขาก้มลงไปนั้นเอง รถของเขาเกือบจะเสยคนที่กำลังข้ามถนนเข้าแล้ว หากไม่เบรกเสียก่อน กรี๊ดดดดดดดด...หญิงสาวผู้นั้นตกใจกรี๊ดแล้วล้มลงกลิ้งกับพื้นถนนไปหลายตลบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD