บทที่ 6
ท้าพิสูจน์
“อะแฮ่ม นายจะไม่แนะนำสาวน้อยคนนี้ให้ฉันรู้จักหน่อยเหรอ?”
เลน็อกซ์ชะงักเมื่อได้ยินเสียงของปุณ เพราะอารมณ์หน้ามืดเมื่อครู่ทำให้เขาลืมไปเลยว่าภายในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขาและเธอ แต่ยังมีเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาลัยอยู่ด้วย
“เฌอลินน์ เป็นเลขาของฉันเอง”
“อ้อ ที่นายพูดถึงบ่อยๆ สินะ” ปุณจงใจเอ่ยเช่นนั้นเพื่อดูปฏิกิริยาของทั้งสอง ซึ่งหมอหนุ่มสามารถอ่านสีหน้าของหญิงสาวได้ไม่ยาก ส่วนเลน็อกซ์เองก็แทบเก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่ แถมยังจ้องมองเขาเขม็งอีกต่างหาก
…ท่านประธานพูดถึงฉันยังไงนะ?...
หญิงสาวอดครุ่นคิดไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าเลน็อกซ์จะพูดถึงเธอในด้านไหนเลย เลน็อกซ์ที่ไม่ชอบผู้หญิงจะพูดถึงผู้หญิงในด้านที่ดีได้เหรอ?
“นี่เพื่อนของฉัน ปุณ”
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้อย่างมีมารยาท ปุญเผยรอยยิ้มกว้างยิ่งทำให้เลน็อกซ์กัดฟันจนขึ้นสันกรามชัดเจน “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่รบกวนแล้ว ขอตัวนะคะ”
“รบกวนอะไรกันครับ ชวนเพื่อนๆ ขึ้นมานั่งด้วยกันสิ เหมือนเพื่อนน้องลินน์จะกำลังตามหาอยู่นะ” หมอหนุ่มว่าพลางมองไปด้านล่าง เฌอลินน์มองตามก็เห็นเพื่อนในโต๊ะกลุ่มหนึ่งกำลังมองซ้ายมองขวา และถือโทรศัพท์โทรหาใครบางคน และใครบางคนที่ว่าก็คือเธอเอง
“ไม่เป็นไรค่ะฉันไม่รบกวนดีกว่า ขอตัวนะคะ!” ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบวิ่งลงไปข้างล่าง โดยที่คลุมเสื้อสูทของชายหนุ่มติดมาด้วย
เลน็อกซ์ถอนหายใจพลางยกมือขึ้นเสยผม ก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิม กดสายตามองร่างบอบบางที่อยู่กับกลุ่มเพื่อน ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองด้านบนและเผลอสบตากับเขาเข้า ชายหนุ่มจงใจจ้องเขม็งจนหญิงสาวสะดุ้งแล้วรีบหลบสายตา
“จ้องขนาดนั้น เด็กมันก็กลัวหมดสิ”
“อย่ามายุ่ง”
“ไม่ได้หรอก ก็นายเป็นคนไข้คนพิเศษของฉันนี่”
“อย่ามาพูดอะไรน่าขนลุกนะ”
“งั้น… ถ้าฉันบอกว่ารู้แล้วว่าทำไมนายถึงไม่รู้สึกรังเกียจน้องลินน์ จะว่ายังไง?”
“…!?” ชายหนุ่มหันขวับมองปุณด้วยนัยน์ตาแวววับ ราวกับจะบอกว่าหากยกเรื่องนี้มาพูดเล่นเขาไม่ให้อภัยแน่ “หมอเถื่อนอย่างนายไว้ใจได้หรือไง?”
“ลองฟังดูก่อนมั้ยล่ะ” ปุญเผยรอยยิ้มกว้าง ทว่าเป็นรอยยิ้มและแววตาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ใช่! เขารู้สึกสนุกเหลือเกินที่จะได้เห็นปฏิกิริยาของเพื่อนรักกับรักครั้งนี้ของเพื่อน “ที่นายไม่รู้สึกรังเกียจน้องลินน์ ก็เพราะน้องลินน์ไม่ได้เข้าหานาย”
“…?”
“ที่ผ่านมาน้องลินน์ต้องอยู่กับนายเพราะเรื่องงานตลอด มันเป็นเหตุจำเป็น แต่จากที่ฉันเห็นดูเหมือนว่านายจะเริ่มรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของน้องลินน์ ซึ่งท่าทางของน้องลินน์ก็คือไม่ชอบ นายซึ่งมีแต่ผู้หญิงเข้าหาและหวังผลประโยชน์มาตลอด เมื่อมาเจอน้องลินน์ที่ไม่ได้หวังอะไรจากนายเลย ฉันคิดว่ามันทำให้นายรู้สึกสบายใจ บางทีโรคที่นายเป็นอยู่อาจจะเกิดขึ้นเพราะนายมีประสาทสัมผัสที่ดีเลิศเกินไป นายอาจจะมองถึงจิตใจของผู้คนออกว่าเข้าหานายเพราะหวังผลหรือไม่กันแน่”
“ที่แท้นายมันก็หมอเถื่อนจริงๆ”
“หรือถ้าอยากพิสูจน์… ก็ลองทำให้น้องลินน์เป็นของนายดูสิ”
“…!!”
“อยากใช่มั้ยล่ะ อยากจับน้องลินน์ขึ้นเตียง”
วันต่อมา...
“กาแฟค่ะ” เฌอลินน์วางกาแฟลงบนโต๊ะเหมือนอย่างเคย และหมุนตัวเตรียมจะเดินออกไปก่อนที่อีกฝ่ายจะเรียก ทว่าไม่ทันเสียแล้ว
“เดี๋ยว…”
กึก!
คนตัวเล็กหันกลับมาแล้วเผยรอยยิ้มหวานตามมารยาท ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วน้ำตาตกใน เธอยังคงสับสนทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“มีอะไรเหรอคะ?”
“นั่ง”
“คะ?”
ชายหนุ่มลุกขึ้นพร้อมเอกสารปึกหนึ่ง ก่อนจะวางลงบนโต๊ะกลางห้องแล้วส่งสายตาเรียกหญิงสาวที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ท้ายที่สุดเฌอลินน์ก็เดินไปนั่งโซฟาอีกตัวหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน พลางกวาดสายตามองเอกสารตรงหน้า
“จัดการให้เสร็จก่อนเที่ยง”
“ค่ะ”
เธอตอบรับก่อนจะค่อยๆ ยกเอกสารขึ้นมา แต่ก็ถูกชายหนุ่มวางมือลงบนเอกสารแล้วกดลงบนโต๊ะตามเดิม
“ทำที่นี่แหละ”
“คะ?”
เลน็อกซ์ไม่พูดอะไรต่อ เขาเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แล้วไม่สนใจเฌอลินน์อีกเลย หญิงสาวจึงจำใจต้องนั่งทำเอกสารอยู่ตรงนั้น ในตอนแรกเธอก็รู้สึกอึดอัด ทว่าเมื่อผ่านไปนานเข้าเธอก็จดจ่ออยู่กับเอกสารจนลืมสิ่งรอบตัว
เมื่อได้เวลากินข้าวเลน็อกซ์ก็ลากเฌอลินน์มากินข้าวด้วย อ้างว่ามีเรื่องต้องคุยเกี่ยวกับการไปดูงานที่เกาะแซงเกรีย ขณะที่กำลังกินข้าวอยู่นั้นเลน็อกซ์ก็ได้พูดขึ้น
“ห้องพักจองได้ห้องเดียวนะ”
“คะ?” ดวงตากลมเบิกกว้างจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความไม่ไว้วางใจ ช่วงนี้เลน็อกซ์ถึงเนื้อถึงตัวเธอแปลกๆ ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยแม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำ มันทำให้เธออดหวั่นใจไม่ได้ว่าการไปดูงานที่เกาะแซงเกรียครั้งนี้ มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงหรือเปล่า
...ท่านประธานคงไม่ได้จะเอาฉันไปขายใช่มั้ย?...
เธอคิดด้วยความวิตกกังวล เนื่องจากมีคนใหญ่คนโตหลายคนที่เบื้องหน้าทำงานบริษัท มีหน้ามีตา แต่เบื้องหลังกลับดำมืด เช่นการค้ายา หรือแม้แต่ค้ามนุษย์ แม้เฌอลินน์จะรู้แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะทำอะไรได้ นอกจากถอยห่างจากพวกเขาและทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง
แต่ถ้าประธานหนุ่มคิดที่จะเอาเธอไปขายก็อีกเรื่องหนึ่ง!
“ทำไมเหรอคะ?”
“ห้องไม่พอ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะน่ะ”
“แต่อาทิตย์ที่แล้วทางโรงแรมคอนเฟิร์มแล้วนี่คะว่ามีห้องเพียงพอ”
“แต่ตอนนี้ไม่พอแล้วไง ทำไม นอนห้องเดียวกับฉันมันมีปัญหาเหรอ?”
“ปะ เปล่าค่ะ”
“ดี วันเช็คอินเธอจะได้ไม่ตกใจ”
“...”
เห็นได้ชัดว่ามีแผน แต่เฌอลินน์ก็ทำอะไรไม่ดี นอกเสียจากว่าเธอจะลาออกจากการเป็นเลขาของเขา!
แต่งานดี เงินดีเธอไม่อยากออกเลย อีกอย่างก็ไม่แน่ใจด้วยว่าเลน็อกซ์จะเป็นพวกค้ามนุษย์ อาจจะเป็นตัวเธอเองที่ตีตนไปก่อนไข้ กึงอย่างนั้นกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ทีหลัง ดูเหมือนว่าเธอจะต้องซื้ออุปกรณ์ป้องกันตัวเอาไว้บ้างแล้ว
ณ เกาะแซงเกรีย
สรวงสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอาการอบอุ่นจนถึงร้อน เกาะที่มีห้องพักยื่นออกไปถึงทะเล หรือโรงแรมตึกสูงที่เห็นวิวทั่วทั้งเกาะ ร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งมุมโลก
เลน็อกซ์และเฌอลินน์มาถึงเกาะโดยสวัสดิภาพ เจมส์ไม่ได้มาด้วยเพราะการมีบอดี้การ์ดติดตามจะดูสะดุดตามากเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ตกลงกันไว้ก่อนที่เลน็อกซ์จะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับเฌอลินน์แล้ว
ส่วนเรื่องของการจองห้องนั้นเป็นแผนการของเขาที่จงใจยกเลิกการจองห้องไป
เลน็อกซ์และเฌอลินน์เอาของมาเก็บที่โรงแรม จากนั้นก็พากันไปสำรวจพื้นที่รวมถึงการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว กระทั่งถึงช่วงเย็นพวกเขาก็กลับมาที่ห้อง ต่างคนต่างรวบรวมข้อมูล โดยที่เลน็อกซ์ใช้โต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่ติดกับริมหน้าต่าง เฌอลินน์นั่งใช้โน๊ตบุ๊ควางบกตักของตัวเอง กระทั่งถึงช่วงดึกเลน็อกซ์ก็ปิดโน๊ตบุ๊คของเขาแล้วเหลือบสายตามองคนตัวเล็กที่ตั้งหน้าตั่งตาทำงานไม่หยุดพัก
พอมาคิดดูแล้วเฌอลินน์เป็นคนที่ขยันและมีความสามารถชนิดที่หาตัวจับได้ยาก แล้วก็ฉุดคิดถึงคำพูดของปุณขึ้นมา...
‘…นายซึ่งมีแต่ผู้หญิงเข้าหาและหวังผลประโยชน์มาตลอด เมื่อมาเจอน้องลินน์ที่ไม่ได้หวังอะไรจากนายเลย ฉันคิดว่ามันทำให้นายรู้สึกสบายใจ…’
ใช่ เฌอลินน์ไม่ได้หวังประโยชน์ต่อเขาเลย เธอเพียงแค่ทำงานของเธอตามหน้าที่ ขนาดเขาเข้าหา รุกใส่เธอขนาดนั้น แต่เฌอลินน์ก็ไม่คิดคว้าโอกาสน้นเอาไว้ ถึงแม้เธอจะบอกวว่ามีคนคุยอยู่แล้ว แต่ก็แค่คนคุยนี่ ไม่ใช่แฟนสักหน่อย
กลับกันเฌอลินน์ซื่อสัตย์กับคนคุยของเธอขนาดนี้ ถ้าได้เป็นแฟนเธอจะแสนดีขนาดไหนกัน พลันเลน็อกซ์เกิดความอิจฉาขึ้นมา
‘อยากใช่มั้ยล่ะ อยากจับน้องลินน์ขึ้นเตียง’
ใช่... เขารู้สึกอยากจับเธอขึ้นเตียงแล้วกระแทกแรงๆ แทบขาดใจ แต่ถ้าเขาใจร้อนก็กลัวว่าจะเป็นอย่างที่เพื่อนรักบอก เธออาจจะหวาดกลัวจนหนีเขาไปก็ได้
เขาไม่ได้รู้สึกอยากขึ้นเตียงกับผู้หญิงมานานมากแล้ว นับจาก ‘เหตุการณ์’ นั้น
“เฌอลินน์”
คนตัวเล็กที่นั่งพิมพ์งานอยู่บนโน๊ตบุ๊คยังคงเงียบ ดวงตากลมจดจ่ออยู่กับงานตาไม่กระพริบ
“เฌอลินน์...” ชายหนุ่มจึงเรียกเธออีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม คราวนี้เลน็อกซ์จึงขยับเข้าไปใกล้ๆ จงใจยื่นหน้าเข้าไปอยู่เหนือหน้าจอโน๊ตบุ๊คของเธอ “น้องลินน์”