น้อยใจ

2335 Words
นิลลา... วันนี้ฉันไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนเลยเพราะเอาแต่คิดเรื่องแม่...แม่ที่ไม่ต้องการฉันท่านสั่งห้ามไม่ให้ฉันเรียกท่านว่าแม่ ต่างจากคุณมิ้วทั้งที่คุณมิ้วเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่แม่กลับรักและเอาใจใส่ฉันพยายามไม่คิดมากไม่น้อยใจแต่มันอดน้อยใจไม่ได้จริงๆ ตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมาฉันเฝ้ารอวันที่ฉันจะได้เจอแม่สักครั้งฉันเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่แม่จะกลับมาหาฉันกับยายจนในที่สุดฉันก็ได้เจอแม่แต่..แม่กลับไม่ต้องการฉันแม่ไม่ต้องการให้ฉันเกิดมาด้วยซ้ำยิ่งฉันคิดถึงประโยคที่แม่พูดว่าแม่พยายามทำแท้งหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จฉันจุกในอกจนพูดอะไรไม่ออกฉันรับรู้ได้ในทันทีว่าแม่เกลียดฉันมากแค่ไหนแม่เกลียดฉันเกลียดพ่อแล้วอาจจะเกลียดยายด้วยก็ได้จากคำพูดของแม่ที่โยนความผิดมาให้ยาย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงแต่ที่ฉันรู้ก็คือยายรักฉันมากมากกว่าตัวยายเองเสียด้วยซ้ำ "แกเป็นอะไรฉันเห็นแกนั่งเหม่อตั้งแต่เช้าแล้วนะ" ดวงใจเพื่อนสนิทเพียงคนของฉันทักขึ้นจนฉันตื่นจากภวังค์ความคิด "เปล่าไม่มีอะไรหรอก" "แกก็แบบนี้ทุกทีเห้ออ มีอะไรก็ไม่เคยบอกแกเห็นฉันเป็นเพื่อนหรือเปล่า" "เธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันนะดวงใจ" ฉันบอกดวงใจเพราะเธอคือเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันจริงๆ สาเหตุที่ฉันมีเพื่อนไม่เยอะอาจจะเป็นเพราะตอนที่ฉันเรียนมอปลายฉันเคยโดนเพื่อนร่วมชั้นเรียนล้อเรื่องที่ฉันไม่มีพ่อไม่มีแม่ฉันก็เลยไม่อยากคบกับใครเป็นเพื่อนไปไหนก็ไปคนเดียวกินข้าวก็กินคนเดียวมาตลอดจนกระทั่งเข้ามหาลัยดวงใจเป็นคนแรกที่เข้ามาทักฉันแล้วคุยด้วยหลังจากนั้นเราก็เริ่มสนิทกัน ครอบครัวดวงใจร่ำรวยมากแต่เธอไม่เคยอวดรวยฉันกินอะไรดวงใจก็กินตามไม่ได้เป็นลูกคุณหนูไฮโซเจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนคนอื่นๆที่ฉันเคยเจอเพราะแบบนี้ฉันถึงยอมเปิดใจคบกับดวงใจเป็นเพื่อนแค่คนเดียว "ก็ใช่ไงฉันเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของแกแกมีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็ควรเล่าให้ฉันฟังบ้างฉันจะได้ให้คำปรึกษาแกได้หรือไม่ก็เป็นที่ระบายให้แกก็ยังดี" "ขอบใจนะฉัน...ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี" ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะปรึกษาหรือเล่าเรื่องแม่ให้ใครฟังดีและที่ฉันไม่ได้เล่าให้ดวงใจฟังแต่แรกก็เพราะฉันเกรงใจฉันไม่อยากเอาความไม่สบายมาให้ดวงใจรับรู้ "ค่อยๆพูดแกอย่าลืมว่าฉันจริงใจกับแกที่สุด" "อื้มม" หลังจากนั้นฉันก็ยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ดวงใจรับรู้ฉันเล่าทุกอย่างไม่มีอะไรปิดบังแม้แต่เรื่องพ่อของฉันเอง "ทำไมแม่แกใจร้ายกับแกได้ขนาดนี้เนี่ยฉันไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีแม่แบบนี้อยู่ แกคงโกรธแม่แกมากเลยสิ" "ฉันไม่โกรธแม่หรอกนะแค่น้อยใจเฉยๆ" "ก็สมควรน้อยใจมีอย่างที่ไหนรักลูกเลี้ยงมากกว่าลูกแท้ๆของตัวเอง" "แม่ของฉันอาจจะผูกพันกับคุณมิ้วมากกว่าเพราะท่านเลี้ยงมาแต่กับฉันแม่ได้เคยเลี้ยงดูเลย" "ไม่เกี่ยวหรอกคนเป็นแม่ต่อให้ไม่ได้เลี้ยงลูกมาแต่ก็เป็นคนทำให้เกิดมาไม่ใช่เหรอจะไม่รักสักนิดเลยเหรอ" ฉันทำได้แค่ก้มหน้าเพราะกลัวน้ำตาจะไหลต่อหน้าเพื่อนฉันไม่อยากให้ดวงใจเครียดเรื่องฉันไปมากกว่านี้แล้ว "ฉันชักอยากจะเห็นหน้าแม่แกซะแล้วสิ" "อย่าเลยฉันไม่อยากให้แม่รู้ว่าฉันเอาเรื่องแม่มาเล่าให้แกฟัง" "เออๆก็ได้ ว่าแต่วันนี้ไม่มีเรียนช่วงบ่ายเราไปเที่ยวห้างกันมะ" "ฉันคงไปไม่..." "ฉันคงไปไม่ได้เพราะต้องไปช่วยที่บ้านทำงานบ้าน แกจะพูดแบบนี้ใช่ไหมนิลฉันเบื่อคำตอบของแกมากเลยรู้มั้ย" ฉันโดนดักคอทันทีเพราะฉันไม่ค่อยไปเที่ยวไหนเลิกเรียนฉันก็จะรีบกลับบ้านเพื่อไปช่วยพี่แม่บ้านทำความสะอาดบ้านจากนั้นก็ไปช่วยป้าแม่ครัวทำอาหารเย็นต่ออีก "พรุ่งนี้วันเกิดพี่ชายฉันฉันก็เลยอยากชวนแกไปเลือกซื้อของขวัญให้พี่ชายฉันหน่อยแค่นั้นเอง" "วันเกิดพี่ชายคนไหนล่ะเธอมีพี่ชายตั้งหลายคน" ที่ฉันถามเพราะดวงใจมีพี่ชายด้วยกันสามคนดวงใจเป็นน้องสาวคนเล็กพี่ชายของดวงใจหวงน้องสาวมากฉันเคยเจอพี่ชายดวงใจหลายหนอยู่เหมือนกัน "พี่ว่านน่ะ" "อืมม" "แกไปช่วยฉันเลือกซื้อของหน่อยนะ" "ก็ได้แต่ฉันคงไปกับเธอได้ไม่นานนะต้องรีบกลับ" "จ้าาาา แม่ซินเดอเรล่าต้องรีบกลับบ้านตรงเวลา" ดวงใจแกล้งพูดประชดฉัน ที่ห้างแห่งหนึ่ง.... "แกหิวไหมเราหาอะไรกินก่อนดีกว่าเมื่อกี้ที่โรงอาหารฉันกินไปได้นิดเดียวเอง" "ฉันไม่ค่อยหิวถ้าเธอหิวฉันจะนั่งเป็นเพื่อนก็ได้" อันที่จริงฉันแค่ไม่อยากเสียเงินน่ะเพราะอาหารบนห้างราคาค่อนข้างสูงอีกอย่างค่าใช้จ่ายในแต่ละวันที่น้ามาลีให้มาฉันก็ต้องใช้อย่างประหยัดเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องในวันงานแต่งงานน้ามาลีก็ถูกตัดเงินที่เคยได้ในทุกๆเดือน ฉันด้วยความเกรงใจบางครั้งก็ไม่ได้ไปขอ ฉันเคยคิดที่จะไปทำงานพาร์ทไทม์เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแต่น้ามาลีไม่ยอมให้ไปน้ามาลีบอกถ้ามีใครรู้จะอับอายฉันก็เลยไม่ได้ไป "ไม่หิวหรือกลัวเสียเงิน" "ก็..ทั้งสองอย่างนั่นแล่ะฉันกลับไปกินข้าวที่บ้านก็ได้" "แกมากับฉันฉันไม่ปล่อยให้แกจ่ายหรอกน่าแกอยากกินอะไรสั่งเลยเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง" "ไม่เป็นไรฉันเกรงใจ" "แกจะมาเกรงใจอะไรเราเป็นเพื่อนกันนะและที่สำคัญฉันรวยมากนี่ไม่ได้อวดนะแค่เล่าให้ฟังเฉยๆเผื่อแกลืม^^" ฉันรู้ว่าดวงใจไม่ใช่คนอวดรวยเธอแค่อยากให้ฉันกินข้าวเป็นเพื่อนเท่านั้น "เธอก็พูดแบบนี้ตลอดฉันแค่ไม่อยากเอาเปรียบเธอ เอาเป็นว่าฉันกินด้วยก็ได้แต่ฉันจะจ่ายเองนะ" "จ้าาาาาา แหมมม" ดวงใจทำเป็นส่งสายตาประชดก่อนจะหยิบเมนูมาเลือกอาหาร และในขณะนั้นเองจู่ๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพี่ชายคนกลางของดวงใจเขามีชื่อว่าพี่ว่านคนที่ดวงใจชวนฉันมาซื้อของขวัญวันเกิดให้นั่นแล่ะ แต่ในขณะนั้นเองสายตาฉันก็ไปสะดุดให้กับผู้ชายอีกคนที่กำลังเดินตามเข้ามาในร้านแต่เขาไม่ได้เดินมาคนเดียวเขาควงสาวสวยคนนึงเข้ามาด้วยซึ่งผู้ชายนั้นก็คือคุณไคล์ ฉันยอมรับว่าตกใจมากที่มาเจอเขาที่นี่โดยบังเอิญฉันพยายามหลบหน้าฉันหวังว่าเขาจะไม่เห็นฉัน "สวัสดีครับสองสาว^^" พี่ว่านเดินมาทักที่โต๊ะที่ฉันนั่งอยู่กับดวงใจ "สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้พี่ว่านพี่ชายของดวงใจ "สวัสดีครับน้องนิล^^" "อ้าววพี่ว่านมาได้ไงเนี่ย" ดวงใจเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงพี่ว่าน "ก็เดินมาไงถามอะไรแปลกๆ" "ก็รู้ว่าเดินมาแต่ที่ใจถามเพราะปกติพี่ไม่ชอบเดินห้างเห็นไปแต่สนามแข่งรถกับผับบาร์" "เพื่อนพี่มันพาสาวมากินข้าวน่ะพี่ก็เลยตามมาด้วย" "อ่อแล้วพี่อ่ะวันนี้ไม่มีสาวๆให้พามาเหรอเห็นปกติควงไม่ซ้ำหน้าถามจริงเมื่อไหร่จะมีเป็นตัวเป็นตนซักที" "ก็อยากมีเป็นตัวเป็นตนอยู่หรอกแต่ไม่รู้ว่าน้องนิลจะใจอ่อนให้พี่เมื่อไหร่^^" ฉันรู้ว่าพี่ว่านแค่พูดเล่นไม่ได้จริงจังอะไรเพราะเท่าที่ดวงใจเคยเล่าให้ฟังพี่ว่านเจ้าชู้ที่สุดในบรรดาพี่ชายทั้งสามคน "ไม่ต้องมาแซวเพื่อนใจเลยนะจะไปไหนก็ไปเลย" "55555เบื่อคนรู้ทันว่ะ ป่ะไอ้ไคล์กูโทรจองโต๊ะไว้ให้มึงกับน้องมะนาวแล้ว"พี่ว่านหันไปคุยกับคนด้านหลังที่ตอนนี้เอาแต่จ้องหน้าฉันไม่หยุดฉันก็ทำได้แค่หลบสายตาเพราะตอนนี้เขากำลังโอบเอวสาวสวยหุ่นเซ็กซี่คนหนึ่งอยู่ เมื่อทั้งหมดเดินเข้าไปด้านในร้านฉันก็รู้สึกโล่งใจเพราะไม่ต้องทนกดดันกับสายตาที่คุณไคล์มองมา "แกเป็นอะไรอีกแล้วเนี่ยเหมือนกลัวอะไร" "เปล่า" "เปล่าอีกละ แต่ฉันแอบเห็นว่าแกหลบหน้าพี่ไคล์ แกรู้จักพี่ไคล์เหรอ" "ฉันอาศัยบ้านคุณไคล์อยู่น่ะ" ที่ฉันบอกแบบนี้ก็เพราะคุณไคล์เป็นลูกเป็นหลานคุณท่านทั้งสองที่เป็นเจ้าของบ้านส่วนฉันก็เป็นแค่คนอาศัยแม้ว่าน้ามาลีจะรับเป็นลูกบุญธรรมก็ตาม "ห๊ะจริงดิทำไมฉันไม่เคยรู้" "ฉันก็ไม่รู้จะพูดทำไมเพราะไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน" "แต่แกดูกลัวพี่ไคล์นะ" "อื้มมฉันยอมรับว่ากลัว" ถามว่าทำไมฉันถึงต้องกลัวต้องคอยหลบหน้าหลบสายตาคุณไคล์ตลอดเวลานั่นก็เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน วันนั้นเป็นวันเกิดของคุณไคล์และได้มีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่ริมสระน้ำซึ่งฉันกับแม่บ้านคนอื่นๆก็ได้ไปช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในงานเลี้ยง จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกฉันก็ถูกสั่งให้ยกกล่องของขวัญวันเกิดทั้งหมดเข้ามาไว้ในบ้านเรือนไทยริมน้ำซึ่งอยู่ด้านหลังจากที่ฉันได้ยินมาบ้านเรือนไทยริมน้ำหลังนี้คุณแม่ของคุณไคล์รักมากพอท่านเสียไปคุณไคล์ก็เลยขอบ้านหลังนี้แล้วใช้เป็นบ้านส่วนตัวที่เอาไว้พักผ่อนไม่ให้ใครเข้ามายุ่งถ้าไม่ได้รับอนุญาต จนกระทั่งฉันยกของขวัญทั้งหมดเข้ามาไว้ข้างในจนครบทุกชิ้นซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาในบ้านเรือนไทยริมน้ำหลังนี้ และในขณะที่ฉันกำลังจะหันหลังกลับเพราะหมดหน้าที่แล้วจู่คุณไคล์ก็เดินโซเซออกมาจากมุมมืดในสภาพเมามายดวงตาของเขาแดงก่ำเหมือนคนผ่านการร้องไห้มาแต่คงไม่ใช่หรอกฉันอาจจะคิดไปเอง "นั่นใครวะ!!!" เขาจ้องหน้าฉันแต่คงจำไม่ได้ว่าเป็นฉัน "เอ่อนิลเองค่ะคือนิลเอาของขวัญเข้ามาไว้กำลังจะออกไปแล้วค่ะ" ฉันรีบอธิบายเพราะกลัวเขาจะหาว่าฉันถือวิสาสะเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต "อ่อที่แท้ก็ยัยกาฝากบ้านนอกลูกเลี้ยงน้ามาลีนั่นเอง หึ" น้ำเสียงยานคางเอ่ยขึ้น "ถ้าไม่มีอะไรแล้วนิลขอตัวก่อนนะคะ" "เธอยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นจนกว่าฉันจะสั่งให้ไป" คุณไคล์ชี้หน้ามาที่ฉันด้วยท่าทางเมามาย "เธอรู้หรือเปล่าว่าวันนี้ฉันมีทั้งความสุขแล้วก็ความทุกข์" ดูเหมือนคุณไคล์จะเมามากเพราะถ้าไม่เมาเขาจะไม่มีทางพูดกับฉันเลย "ค่ะ" "วันนี้เป็นวันเกิดของฉันเธอรู้ใช่ไหม" "รู้ค่ะ" "วันเกิดฉันแต่แม่ไม่อยู่อวยพรวันเกิดให้ฉัน แม่ทิ้งฉันไปแม่แม่งโคตรใจร้ายเลยว่ะเธอว่ามั้ยยัยบ้านนอก!!!" ฉันรู้ว่าคุณไคล์คงจะคิดถึงแม่ก็เลยพูดออกมาแบบนี้ ฉันรู้สึกสงสารแล้วก็เห็นใจเพราะฉันเองก็ไม่มีแม่เหมือนกัน "คุณแม่คุณไคล์ท่านอาจจะไม่ได้อยากทิ้งคุณไคล์ไปก็ได้นะคะ" ฉันพยายามพูดเพื่อให้เขาไม่คิดมากแต่ "เธอจะมารู้ดีไปว่าฉันได้ยังไงห๊ะยัยบ้านนอก!!!" คุณไคล์ตะคอกใส่ฉันแล้วเดินโซเซไปที่เคาท์เตอร์บาร์พร้อมกับหยิบขวดเหล้าออกมาดื่มแบบรวดเกือบครึ่งขวด "ฉันแม่งโคตรคิดถึงแม่เลยรู้หรือเปล่า วันเกิดทุกปีฉันจะแอบมาร้องไห้คิดถึงแม่ที่นี่ ฮึก ฮึก ฉันไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นเพราะฉันไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าพ่อต่อหน้าปู่กับย่า!!!" "............" ฉันเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเพราะคิดว่าเข้าใจความรู้สึกของเขา "แต่เธอ!!! เธอดันมาเห็นมัน" พูดจบประโยคคุณไคล์ก็ย่างเท้าเข้ามาใกล้จนฉันต้องก้าวถอยไปข้างหลังด้วยความกลัว แต่ดูเหมือนคุณไคล์จะไม่หยุดเขาเดินเข้ามาจนหลังฉันติดกำแพง คุณไคล์ก้มใบหน้าลงมาแล้วจ้องหน้าฉัน ตอนนี้เราห่างกันไม่ถึงคืบในตอนนั้นฉันยอมรับว่าใจฉันเต้นแรงมากไม่คิดว่าจะได้ใกล้ชิดเขาขนาดนี้ "เพราะฉะนั้นเธอต้องถูกฉันทำโทษ!!!!" แล้วสติฉันก็หลุดลอยไปเมื่อคุณไคล์ประกบริมฝีปากลงมาเขาจูบฉัน "อื้อออออออออ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD