เช้าวันต่อมา..
“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มตกใจจนวิ่งออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังไม่ทันได้แปรงฟัน
“เกิดอะไรขึ้น?”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังฝึกหุงข้าวด้วยตัวเอง แต่โชคร้ายโดนน้ำซาวข้าวลวกใส่แขน
“น้ำแข็งๆขึ้นไปเอาน้ำแข็งมาให้ฉันหน่อย”หญิงสาวยื่นแขนที่โดนน้ำซาวข้าวร้อนๆลวกให้ชายหนุ่มดู ส่วนเขาที่เห็นดังนั้นจึงวิ่งขึ้นไปหยิบน้ำแข็งจากบนบ้านจากนั้นเขาก็ค่อยๆประคบน้ำแข็งบริเวณแผลที่บวมแดงของหญิงสาว
“ฮือๆๆๆฉันเจ็บ”หญิงสาวร้องไห้โฮราวกับเด็กน้อยเมื่อไม่สามารถทนต่อความรู้สึกแสบร้อนบริเวณแขน ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงพาเธอขึ้นไปบนห้อง
“ร้องไห้เป็นเด็กไปได้”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆในขณะที่กำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับเธอ
“ก็มันทั้งเจ็บทั้งแสบร้อน ใครมันจะไปทนได้”หญิงสาวกล่าวด้วยความน้อยใจ
“ก็เข้าใจว่ามันปวดแสบแต่ไม่จำเป็นต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งขนาดนั้น”ส่วนชายหนุ่มแม้จะบ่นกับหญิงสาวแต่ในใจลึกๆเขาก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้เช่นกัน
“แล้วใครกันที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้”หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งน้อยใจเข้าไปใหญ่จนอดไม่ได้ที่จะกล่าวโทษเขาแบบทางอ้อม
“ฉันไม่ได้เอาน้ำร้อนลวกใส่แขนเธอนะ”
“แต่นายใช้ฉันหุงข้าว”หญิงสาวยืนหยัดที่จะกล่าวโทษเขาอย่างที่ตัวเองคิดเพราะถ้าเขาไม่ใช้เธอหุงข้าวก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“ถ้าไม่หุงข้าวแล้วจะกินอะไรกัน ฉันต้องได้ทานข้าวเช้าก่อนออกไปทำงานเพราะร่างกายต้องการพลังงานในตอนเช้า”ชายหนุ่มให้เหตุผลในการที่เขามีความจำเป็นในการใช้เธอหุงข้าว
“ฉันไม่ได้อยากกินข้าวเช้า นายอยากกินก็หุงเองสิทำไมต้องมาใช้ฉันด้วย”ส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นจึงโต้กลับด้วยเหตุและผลของตัวเองเช่นกัน
“ก็มันเป็นหน้าที่ของเธอ”
“มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันสักหน่อยเพราะฉันไม่ได้เป็นเมียนาย”
“ต้องได้เป็นผัวเมียกันก่อนใช่มั้ยเธอถึงจะยอมทำหน้าที่นั้น ได้ งั้นเธอถอดเสื้อผ้าออก”ชายหนุ่มไม่เพียงพูดแต่เขาเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนเผยหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจากการทำงานอย่างหนัก ส่วนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นก็หันหน้าหนี
“ฉันยอมแล้วๆ”
“ถ้ายอมก็ถอดเสื้อผ้าออก”
“ฉันหมายถึงยอมรับใช้นาย”หญิิงสาวรีบอธิบายเมื่อชายหนุ่มกำลังเข้าใจเธอผิด
“ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเตือน”พูดจบชายหนุ่มก็สวมใส่เสื้อผ้าคืน จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่ลืมล่ามโซ่หญิงสาวเอาไว้
และตั้งแต่นั้นมาหญิงสาวก็ไม่กล้าขัดคำสั่งชายหนุ่มอีกเลย เขาใช้ให้เธอทำอะไรเธอก็ทำอย่างไม่มีท่าทีต่อต้าน
…
“ฮือ….”ตกดึกหญิงสาวนอนคดตัวร้องไห้จากอาการปวดท้องรอบเดือน
“เป็นอะไร”ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็เกิดความสงสัยจึงเดินเข้าไปถามหญิงสาวตรงๆ
“ฉันมีรอบเดือนเลยปวดท้องน้อย”หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเธอนั้นกำลังเจ็บปวดจากการมีรอบเดือนมากแค่ไหน
“แล้วฉันช่วยอะไรเธอได้บ้าง”เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงแสดงความเป็นห่วงเธออย่างลืมตัว
“ยา ฉันต้องการยาแก้ปวด”หญิงสาวบอกความต้องการของตัวเองให้กับชายหนุ่มอย่างมีความหวังว่าเขาจะสามารถช่วยเธอได้
“ยาพาราเพิ่งหมดไป”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวอย่างเสียดายที่ไม่สามารถช่วยเธอได้ ส่วนหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็เผยใบหน้าสิ้นหวัง
“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะแวะซื้อยามาให้”
“ไม่เอายาพารานะ ฉันใช้ยาพอนสแตน เป็นยาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากการมีรอบเดือน”หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆเนื่องจากอาการปวดท้องของเธอนั้นเริ่มรุนแรงขึ้น
“เธอไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวฉันจะเข้าไปซื้อยาในตัวเมืองมาให้”ส่วนชายหนุ่มที่เห็นท่าไม่ดีของหญิงสาวจึงอาสาไปซื้อยาในตัวเมืองให้กับเธอ
“แต่ว่ามันดึกมากแล้วนะ ฉันไม่กล้าอยู่ที่นี่คนเดียวในตอนกลางคืน”
“งั้นก็ทนเจ็บไป”
“ฉันขอเข้าไปในตัวเมืองด้วยคนได้มั้ย ฉันสาบานว่าจะไม่หนีอีก”
“นี่คงเป็นแผนการหลบหนีของเธอสินะ”
“ไม่ ฉันปวดท้องรอบเดือนจริงๆ ได้โปรดพาฉันไปด้วยนะ นายจะมัดฉันติดกับรถก็ได้ฉันยอมหมด แต่ขออย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่ในตอนกลางคืน และฉันจำเป็นต้องได้รับยาไม่งั้นนายจะไม่ได้นอนทั้งคืน”หญิงสาวพยายามโน้มน้าวชายหนุ่มอย่างน่าเวทนา ส่วนเขาที่เห็นดังนั้นจึงยอมใจอ่อนให้เธอ
ชายหนุ่มขับรถมุ่งหน้าเข้าเมืองในตอนกลางคืนแม้ถนนที่เขาใช้เป็นประจำนั้นไม่มีกิ่งไฟส่องแสงสว่างเลยแม้แต่ดวงเดียว เขาค่อยๆขับรถอย่างระมัดระวังท่ามกลางความมืดบนท้องถนนขรุขระและมีเพียงไฟหน้ารถที่พอสามารถช่วยให้เขามองเห็นทางข้างหน้า ทั้งสองใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มกว่าจะถึงที่หมาย
“รออยู่ในรถนะเดี๋ยวฉันลงไปซื้อยาให้”พูดจบชายหนุ่มก็ลงไปซื้อยาทันที
ส่วนทางด้านหญิงสาวที่มองเห็นโอกาสในการหนีเอาตัวรอดจึงรีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกโดยสายตานั้นจ้องไปที่ร้านขายยา จากนั้นเธอก็ค่อยๆเปิดประตูรถอย่างระมัดระวัง
“ให้ตายเถอะมันปลดล็อคยังไงเนี่ย”ด้วยความที่ชายหนุ่มล็อคประตูรถเอาไว้ก่อนหน้าที่จะลงไปซื้อยาจึงทำให้หญิงสาวไม่สามารถออกจากรถยนต์คันเก่าได้ ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องละสายตาจากร้านขายยาแล้วหาวิธีปลดล็อคประตู และทันใดนั้นเองร่างสูงก็โผล่กลับมาที่รถจนเธอแสดงท่าทีตกใจแล้วใช้กำมือทุบกระจกรถพร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ
“หุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะนังตัวแสบ ไม่งั้นฉันจะส่งเธอไปลงนรกแน่”ชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงข่มขู่หญิงสาวพร้อมกับรีบสตาร์ทรถออกไปด้วยความเร็ว
“อยากจะฆ่าฉันให้ตายก็รีบฆ่าเลยเพราะฉันเองก็ไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับโจรแบบแก”หญิงสาวตะโกนใส่ชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“อย่ามาปากดีกับฉันนะ และอย่าคิดว่าฉันไม่กล้าลงมือกับเธอ”
“อยากลงมือนักก็ลงมือเลย”
“ยังไม่เลิกปากดีใช่มั้ย ได้ เดี๋ยวฉันจะจัดให้ตามคำขอ”พูดจบเขาก็แบรกรถกระทันหันจนศีรษะของหญิงสาวกระแทกกับรถอย่างจัง
“กรี๊ด..”หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจกลัวอย่างสุดขีด
“ทีนี้ยังจะกล้าปากดีกับฉันอยู่มั้ย”ชายหนุ่มหันไปกล่าวกับหญิงสาวก่อนจะเลี้ยวรถเข้าทางเปลี่ยว
“นายกำลังจะพาฉันไปไหน”
“ก็จะหาสถานที่เพื่อส่งเธอลงนรกไง แต่ก่อนจะส่งเธอลงนรกฉันขอตักตวงเอาความสุขจากเรือนร่างของเธอให้หนามใจก่อน”
“อย่านะ! ฉันขอร้องฉันยอมแล้ว”
“มันสายไปแล้ว”
“ฉันเป็นประจำเดือนอยู่นะ”
“เป็นประจำเดือนแล้วยังไง ”
“มันสกปรก”
“ฉันไม่สน”พูดจบเขาก็ลงจากรถก่อนจากลากตัวหญิงสาวไปยังต้นไม้ใหญ่
“ฉันยอมแล้ว ฉันยอมนายแล้ว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ”
“ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆหรอก เพราะกว่าจะได้ตัวเธอมามันไม่ง่าย”
“ฉันไปทำอะไรให้นายโกรธแค้นนักหนาห๊า ตอบมาสิว่าฉันไปทำอะไรให้”
“ถึงเวลาแล้วฉันจะบอกเอง”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวพร้อมกับจับกดเธอไว้กับต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะซุกไซ้ต้นคอและลำตัวช่วงบนของหญิงสาวอย่างคนหื่นกระหาย
“ไม่นะ ได้โปรดอย่าทำฉัน”ส่วนหญิงสาวนั้นพยายามดิ้นหนีอย่างสุดขีดพร้อมกับร้องขอความเห็นใจ
“นี่ถือเป็นการตักเตือนถ้ายังคิดจะหนีอีกครั้งฉันไม่ปราณีเธอแน่”ชายหนุ่มที่ได้สติจึงปล่อยตัวหญิงสาวก่อนจะลากเธอกลับไปขึ้นรถ
“ยานี่คงไม่จำเป็นแล้วสินะ”ชายหนุ่มโยนยาที่เพิ่งซื้อมาก่อนจะสตาร์ทรถเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังที่พัก
ส่วนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นก็แทบจะลงจากรถเพื่อไปหยิบมันกลับมา แต่ก็ทำได้แค่นั่งนิ่งๆไม่กล้าแม้แต่จะแสดงอาการใดๆออกมา
“หยุดร้องสักทีเถอะน่ารำคาญ”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังมุ่งหน้ากลับไปยังที่พักภายในรถนั้นมีแต่ความเงียบจนกระทั่งหญิงสาวส่งเสียงร้องไห้พร้อมกับสูดน้ำมูกเป็นระยะๆจนชายหนุ่มแสดงอาการไม่พอใจพร้อมกับเร่งความเร็ว