ร่างผอมบางในชุดราตรีตื่นขึ้นมาบนแคร่ไม้ไผ่อย่างสลึมสลือที่เกิดจากฤทธิ์ยาสลบ พอเธอหันไปมองรอบๆ ก็ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน "ที่นี่ที่ไหนกัน แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" หญิงสาวถามตัวเองในใจแล้วพยายามนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ และพอเธอเริ่มมีสติจึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรก็รีบลุกจากแคร่ไม้ไผ่อย่างไม่ทันระวังตัวจนโซ่เส้นเล็กที่ติดอยู่กับข้อเท้าดังกระทบกับพื้น
“ตายแล้ว!”หญิงสาวอุทานพร้อมกับเอามือปิดปากด้วยความตกใจเมื่อรู้ตัวว่าได้ทำพลาดจนอาจทำให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ยินเข้า
“กึกๆๆ”และก็เป็นจริงอย่างที่เธอคาดการณ์เอาไว้เมื่อเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินขึ้นมาบนกระท่อมหลังเล็ก
หัวใจดวงเล็กเต้นตุบๆเมื่อเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งมันดังจนถึงหน้าประตูหญิงสาวจึงค่อยๆโน้มตัวลงนอนอย่างระมัดระวังก่อนจะแกล้งสลบ
“ที่แท้ก็หูฟาดไปนี่เอง”เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามาแล้วพบกับร่างผอมบางที่ยังคงนอนแน่นิ่งจึงค่อยๆเดินเข้าหาเธอที่ในตอนนี้เริ่มมีเหงื่อซึมตามไรผม
“Rrrr..
ในขณะที่ชายหนุ่มย่อตัวลงแล้วกำลังจะสัมผัสตัวหญิงสาว จู่ๆก็มีสายเรียกเข้าที่ดังมาจากกระเป๋ากางเกง ร่างสูงโปร่งตัดสินใจลุกขึ้นยืนจากนั้นก็รีบนำโทรศัพท์ที่ดังอย่างต่อเนื่องออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาจ้องหน้าจอโทรศัพท์อย่างพึงพอใจพร้อมกับยิ้มตรงมุมปากก่อนจะกดปุ่มวางสายทันที
“นั่นมันโทรศัพท์ฉัน!”ส่วนทางด้านหญิงสาวที่แกล้งสลบได้ไม่นานก็รีบลุกขึ้นเพื่อแย่งโทรศัพท์จากชายหนุ่มเมื่อได้ยินสายเรียกเข้าที่คุ้นเคย
“คิดว่าฉันโง่จนดูไม่ออกรึไงว่าเธอกำลังแกล้งสลบ”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับยกแขนขึ้นสูงจนหญิงสาวไม่สามารถเอื้อมโทรศัพท์ของตัวเองได้
“พ่อคะ พ่อช่วยหนูด้วย พ่อต้องมาช่วยหนูนะ”หญิงสาวตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นพ่อผ่านโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของชายหนุ่มด้วยท่าทีร้อนรน
“ตะโกนให้ตายพ่อของเธอก็ไม่มีวันได้ยินหรอกเพราะฉันไม่ได้รับสายตั้งแต่แรก”ชายหนุ่มกล่าวอย่างต้องการเยาะเย้ยพร้อมกับนำโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็อุ้มหญิงสาวกลับไปไว้ที่แคร่ไม้ไผ่แล้วนำเทปกาวที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้จะจัดการมือมัดเท้าของเธอ และก่อนชายหนุ่มจะเดินจากไปเขาก็ไม่ลืมที่จะจัดการปิดปากของหญิงสาวเพื่อกันไม่ให้เธอส่งเสียงโวยวาย ในขณะที่ชายร่างสูงกำลังจะพ้นประตูออกไปแววตาคู่สวยก็มองตามหลังเขาอย่างสิ้นหวังจนน้ำตาคลอเบ้า
เมื่อชายหนุ่มเดินพ้นกระท่อมหลังเล็กไปแล้วจึงนำโทรศัพท์ที่ดังอย่างต่อเนื่องออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“สวัสดีครับ”ชายหนุ่มเริ่มบทสนทนาด้วยการกล่าวทักทายคนปลายสายอย่างสุภาพด้วยสีหน้าของคนที่ถือไผ่เหนือกว่า
“แกเป็นใคร!แล้วลูกสาวฉันอยู่ที่ไหน?”ก่อนหน้าผู้เป็นพ่อกระวนกระวายเมื่อออกตามหาลูกสาวจนทั่วงานแล้วไม่พบ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังปิดเครื่องมือติดต่อสื่อสาร ในขณะที่เขาเตรียมจะโทรแจ้งตำรวจจู่ๆก็มีข้อความเด้งกลางหน้าจอว่าสามารถติดต่อหมายเลขปลายทางได้แล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้เป็นพ่อไม่คิดรอช้าจึงรีบโทรหาลูกสาวในทันที แต่แล้วอีกฝ่ายกลับตัดสายทิ้งจนเขายิ่งมั่นใจว่ามีต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับลูกสาวอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงกระหน่ำโทรหาลูกสาวแบบรัวๆ และทันทีที่ผู้เป็นพ่อได้ยินเสียงชายปริศนามันยิ่งทำให้เขาแสดงอาการบ้าคลั่ง
“คุณอยากรู้จริงๆหรอว่าผมเป็นใคร”
“บอกมาว่าแกต้องการอะไร ต้องการเงินเท่าไหร่”ชายผู้เป็นพ่อถามคนที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาด้วยน้ำเสียงกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ผมบอกคุณเมื่อไหร่ว่าต้องการเงิน”ส่วนอีกฝ่ายที่เห็นดังนั้นก็แสดงสีหน้าพึงพอใจ
“ถ้าไม่ต้องการเงินแล้วแกต้องการอะไร”
“ต้องการลูกสาวคุณ”
“ไอ่โจรโรคจิต ไอ่สารเลว! ฉันจะเอาตำรวจไปลากคอแกมาเดี๋ยวนี้”ชายผู้เป็นพ่อของหญิงสาวเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จึงกะโกนด่าชายคนที่ลักพาตัวลูกสาวเขา
“ถ้าเรื่องนี้ถึงหูตำรวจเมื่อไหร่ คุณจะได้เห็นลูกสาวอีกครั้งในร่างที่ไร้วิญญาณแน่”ชายหนุ่มข่มขู่บุคคลที่อยู่ปลายสายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วทำไมต้องเป็นลูกสาวฉันด้วย”ชายผู้เป็นพ่อของหญิงสาวพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองเพื่อเจรจาต่อรองกับชายปริศนาที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาอย่างใจเย็นที่สุดเท่าที่เขาพอทำได้
“ก็เพราะลูกสาวของคุณทั้งขาวทั้งสวยแถมขาเรียวยาวของเธอนั้นช่างเย้ายวนชวนให้เกิดอารมณ์อย่างไม่อาจห้ามใจได้”ชายหนุ่มโต้ตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงราวกับชายโรคจิตเพื่อยั่วยุให้อีกฝ่ายเกิดอารมณ์คลุ้งคลั่ง และมันก็ได้ผลอย่างที่เขาคาดหวัง
“ไอ่ชาติชั่ว! ถ้าแกกล้าทำอะไรลูกสาวฉันแม้แต่นิดเดียวฉันจะส่งแกลงนรกแน่”ชายผู้เป็นพ่อของหญิงสาวข่มขู่อีกฝ่ายพร้อมกับกัดฟันแน่นด้วยความโกรธแค้น
“คุณคงคิดว่าตัวเองสามารถส่งใครก็ได้ลงนรกเหมือนกับที่เคยทำกับพี่สาวผมอ่ะหรอ”ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรีบเฉลยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองทั้งที่ก่อนหน้าตั้งใจจะไม่บอกอีกฝ่าย
“แกพูดเรื่องอะไรของแกฉันไม่เข้าใจ”
“คุณทำอะไรกับใครไว้ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ”
“ไม่ ฉันไม่เคยฆ่าใคร และถ้าแกคิดแบบนั้นมันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
“งั้นช่วยบอกผมทีว่าใครเป็นคนฆ่าพี่สาวผม”
“แกพูดเรื่องอะไรของแกวะ!”ชายวัยห้าสิบต้นๆที่เริ่มหมดความอดทนจึงตะโกนด่าคนที่อยู่ปลายสายผ่านโทรศัพท์อย่างไม่อาจข่มอารมณ์เอาไว้ได้
“แล้วเมื่อไหร่คุณจะเลิกเสแสร้งทำเหมือนไม่เคยสั่งเก็บคนมาก่อน”
“ไม่ ฉันไม่เคยฆ่าใครและไม่เคยสั่งเก็บใครด้วย”
“นี่คุณกำลังปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนสั่งฆ่าพี่สาวผมสินะ”
“ใครพี่สาวแก บอกมาสิวะว่าใครคือคนที่แกกำลังพูดถึง”
“อันดา คราวนี้คุณยังจะปฏิเสธอยู่มั้ยว่าไม่รู้จักเธอ”
“ไม่จริง พี่สาวแกฆ่าตัวตายเอง”
“อย่ามาปากแข็งหน่อยเลย”
“ก็หล่อนฆ่าตัวตายจริงๆจะให้ฉันพูดว่ายังไง”
“พี่สาวผมไม่ได้ฆ่าตัวตาย เธอถูกฆาตกรรม และคุณรู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรกับเธอไว้”
“พูดบ้าอะไรของแก ฉันบอกไม่ได้ทำก็คือไม่ทำและไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้นด้วย”
“ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานคุณก็ยังทำเป็นผู้ร้ายปากแข็งอยู่ตลอดเวลา”
“แล้วมีหลักฐานอะไรที่ชี้ว่าฉันเป็นคนฆ่าพี่สาวแก”
“ไอ่หลักฐานอ่ะผมมีอยู่แล้ว”ชายหนุ่มกล่าวอย่างมั่นใจในหลักฐานที่ตัวเองมี ซึ่งมันก็มีมูลมากพอที่จะชี้ชัดว่าพี่สาวของเขานั้นไม่ได้ฆ่าตัวตายอย่างที่ใครๆคิด
“ถ้าแกมีหลักฐานแล้วทำไมถึงไม่เอาไปมอบให้ตำรวจเลยหล่า”
“ก็เพราะมันจะมีตำรวจชั่วๆแอบแฝงอยู่ทั่วทุกสำนักงาน ดังนั้นผมจึงรู้ดีว่าหลักฐานพวกนี้คงไมไม่่มีประโยชน์อะไร และมันอาจจะทำให้ผมตกอยู่ในอันตรายก็ได้ดังนั้นผมจึงรอเวลานี้มานานแสนนาน”
“พูดบ้าอะไรของแกวะ! ฉันบอกไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำและอย่าเอาลูกสาวฉันเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”
“ถ้าคุณยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการตายของพี่สาวผม งั้นก็หาตัวฆาตกรมาให้ได้แล้วเราค่อยมาคุยกัน”
“ได้ ฉันจะช่วยสืบหาฆาตกรมาให้แก แต่มีข้อแม้คือต้องปล่อยตัวลูกสาวฉันออกมาก่อน
“หึ ปล่อยก็โง่แล้ว”
“งั้นแกต้องสัญญากับฉันก่อนว่าจะไม่ทำอะไรลูกสาวฉัน”
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำตามข้อตกลงระหว่างเราหรือเปล่า”
“ข้อตกลงอะไร”
“ห้ามให้เรื่องนี้ถึงหูตำรวจเด็ดขาด ไม่งั้นผมไม่รับรองความปลอดภัยของลูกสาวคุณ”แม้ชายหนุ่มมั่นใจว่าคนที่อยู่ปลายสายนั้นเป็นฆาตกรแต่เขาก็เลือกที่จะยื้อเวลาตามแผนการที่ตัวเองได้วางเอาไว้ก่อนหน้านี้
“ได้ ฉันจะทำตามที่แกขอ”
“งั้นได้ตัวฆาตกรเมื่อไหร่ค่อยติดต่อมา”พูดจบเขาก็ตัดสายทิ้งแล้วปิดเครื่องทันที
“โถ่โว้ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!”ชายวัยห้าสิบต้นๆแสดงอาการหัวร้อนเมื่อไม่สามารถติดต่อหาอีกฝ่ายได้