เช้าต่อมา
หลังจากเมื่อคืนตกผลึกได้แล้วว่าผู้ชายที่ดูถูกผู้หญิงตั้งแต่ยังไม่ทันได้สัมผัสแบบนั้น ต่อให้เธอจะชอบเขาขนาดไหน ก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก วันนี้ทางที่รถจะเลี้ยวเข้าไปจอดเลยเปลี่ยนเป็นตึกคณะนิเทศฯ ของตัวเองแทน เธอจะไม่ไปคณะวิศวะฯ อีก ไม่ว่าจะคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของเขาแค่ไหนก็ตาม เธอก็จะอดทนให้ถึงที่สุด
โบวี่เดินขึ้นตึกคณะของตัวเอง เป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าเธอเดินไปไหนมักจะเป็นจุดสนใจของคนอื่นเสมอ คงจะเพราะหน้าอกหน้าใจเธอที่มันเกินไซส์มาตรฐานของผู้หญิงไทยไปค่อนข้างเยอะ แต่เธอก็ภูมิใจเพราะมันคือหน้าอกของแท้ที่แม่ให้เธอมา ไม่ได้มาจากการศัลยกรรมเหมือนผู้หญิงสมัยนี้
“อีโบ!!! เมื่อวานมึงไปคณะโน้นมาอีกแล้วใช่ไหม แล้วก็หายไปเลยไม่กลับมาเรียน”นนนี่เพื่อนชายแต่ใจเป็นหญิง จีบปากจีบคอพูดเมื่อเห็นหน้าเธอ ก็เมื่อวานพอเธอได้ยินเรื่องที่ไฟพูดถึงเธอ ก็ไม่มีกำลังใจมาเรียนอีก เพราะเสียใจในคำพูดของเขา เธอเลยลืมเรื่องส่งข้อความบอกเพื่อนสนิท
“หลังจากนี้กูไม่ไปแล้วนะ มึงก็ห้ามเอ่ยถึงเขาด้วย”
นนนี่หรี่ตาจับผิดเพื่อนสาว ปกติวัน ๆ เอาแต่ดูรูปรุ่นพี่ต่างคณะ เขาบ่นก็ไม่เคยฟัง แต่มาวันนี้นอกจากตาจะบวมแปลก ๆ แล้ว คำพูดก็ดูเหมือนจะตัดขาดจากรุ่นพี่คนนั้นด้วย ซึ่งสร้างความแปลกใจให้เขายิ่งนัก
“เป็นอะไร?”
“ปะ เปล่า แค่คิดว่าเราไม่ควรให้ค่ากับผู้ชายปากไม่ดี”พูดแล้วก็แค้น เมื่อคืนยอมรับว่าเสียใจ เธอใช้เวลาร้องไห้ทั้งคืน แต่ก็คิดได้ว่าไม่ควรเสียใจกับผู้ชายแบบนั้น ตอนนี้จากความเสียใจเลยเปลี่ยนเป็นความแค้นแทน
“เล่าให้กูฟังเดี๋ยวนี้ค่ะเพื่อนสาว”นนนี่พูดกึ่งบังคับ เขาเป็นประเภทถ้าไม่ได้รู้หมดจะนอนไม่หลับ จากที่เห็นเขาคิดว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนแน่ ๆ ถึงได้เป็นแบบนี้
โบวี่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะตัดสินใจเล่าให้เพื่อนฟังอย่างละเอียด เพราะรู้ดีว่าหากไม่เล่าเธอก็จะโดนนนนี่เซ้าซี้ทั้งวันจนไม่เป็นอันทำอะไรแน่นอน
ปึ้ง!!!
“ทุเรศ!!! เป็นผู้ชายที่โคตรดูถูกผู้หญิง เดี๋ยวกูจะไปจัดการมันให้มึงเอง”นนนี่ตบโต๊ะและพูดเสียงดังจนนักศักษาที่นั่งอยู่บริเวณนี้หันมามองที่พวกเธอสองคนเป็นตาเดียว
“เบาหน่อยดิว่ะ อีนนท์”
“นนนี่ค่ะ พูดชื่อให้ถูกด้วย”
“เออนนนี่ มึงเห็นไหมคนมองกันใหญ่เลย กูว่าเดินไปนั่งร้านน้ำปั่นดีกว่า”ทั้งสองคนผุดลุกขึ้น เดินเนียน ๆ ไปยังร้านน้ำปั่นตรงข้างคณะ ทิ้งตัวลงนั่งที่ม้าหินอ่อนข้างร้านทันที
“ไหนเบอร์มันว่ะ เอามาให้กูเดี๋ยวนี้”
โบวี่ส่ายหน้า เธอไม่อยากให้เพื่อนไปด่าผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่เพราะไม่โกรธ แต่ไม่อยากให้เพื่อนไปให้ค่าผู้ชายปากไม่ดีคนนั้นอีก เธอคิดแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม
“พอเหอะว่ะ แค่นี้กูก็อายจะแย่แล้ว ที่ไปให้ท่าผู้ชายถึงที่ นอกจากเขาจะไม่เอาแล้ว ยังด่ากลับมาเหมือนกูเป็นตัวน่ารังเกียจอีก”
พูดถึงตรงนี้ น้ำตาเธอก็พาลจะไหลออกมาอีก ไม่ใช่แค่วันสองวันนะที่เธอชอบเขา แต่เป็นเดือนที่เธอพยายามเอาตัวเองไปใกล้เขา จะให้เธอตัดความรู้สึกตัวเองทีเดียวเลยก็คงไม่ได้ คงต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าเธอจะกลับมาเหมือนเดิม
"เดี๋ยวคืนนี้กูจะพามึงไปหาผู้ใหม่ที่หล่อล่ำ กว่าไอ้รุ่นพี่ขี้เก๊กคนนั้น คงคิดว่าตัวเองหล่อมากมั้ง ถึงได้ดูถูกผู้หญิงขนาดนี้ กูขอสาปแช่งให้มันไข่ตาย เอาผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีความสุข"
"คิก คิก"โบวี่หัวเราะออกมาทันทีกับคำด่าของเพื่อน อย่างน้อยเธอก็มีนนนี่ไว้คอยปรับทุกข์เรื่องต่าง ๆ ทำให้ไม่ว่าความทุกข์เรื่องอะไร ก็ไม่เคยอยู่กับเธอนานสักครั้ง
คณะวิศวะฯ
"เออ...ไอ้ไฟ เมื่อวานน้องคนนั้นขอเบอร์มึงไป ได้คุยกันไหมว่ะ"
"น้องคนนั้น น้องคนไหนของมึงว่ะ"
ไฟหันไปถามฉลามเพื่อนสนิทในกลุ่มอย่างสงสัย
"อ้าว ก็น้องโบวี่ไงว่ะ เขามาขอเบอร์มึงกับกู ยังถามด้วยนะว่ามึงมีแฟนแล้วหรือเปล่า"
คราวนี้เขายักไหล่เหมือนไม่แคร์อะไร เขาไม่ได้สนใจรุ่นน้องคนนั้นอยู่แล้ว แต่ก็รู้สึกไม่ชอบใจที่เพื่อนเอาเบอร์ให้เธอโดยไม่ถามความสมัครใจของเขาก่อน
"คราวหลังใครขอเบอร์กู มึงห้ามให้ไปเด็ดขาด"
"กูจะไปรู้เหรอ ว่ามึงจะหวงตัวกับน้องเขาขนาดนี้ มีของฟรีให้เอาเสือกไม่อยากได้"ฉลามพูดทีเล่นทีจริง นึกหมั่นไส้เพื่อนเหมือนกันที่เอาแต่ทำเก๊กหล่อไปวัน ๆ แต่ก็มีผู้หญิงเข้าหาไม่ซ้ำหน้า
"เห้ยยยย!!! นั่นน้องโบวี่นี่หว่า"เสียงเพื่อนในกลุ่มอีกคน ตะโกนและชี้ชวนให้กลุ่มเพื่อนหันไปมองทางเดินตรงทางเชื่อมของคณะ นึกแปลกใจที่วันนี้รุ่นน้องสาวเดินอ้อมไปอีกทาง ทั้งที่ปกติจะเดินผ่านทางหน้าคณะทุกวัน
"สงสัยน้องเขาจะไม่สนใจมึงแล้วว่ะไอ้ไฟ"
ไฟเองก็หันมองตามคำบอกของเพื่อน ถึงจะไม่ได้แสดงอาการอะไรมากนัก แต่ในใจเขาเองก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน เธอเองก็ดูอยากได้เขาขนาดนั้น แต่ได้เบอร์โทรเขาไป ก็ไม่เห็นโทรมาหา อีกทั้งวันนี้เธอก็ไม่มาอยู่ในระยะสายตาเขาสักครั้ง
แต่ก็ช่างเถอะ...เพราะปกติเขาก็รำคาญเธอมากพออยู่แล้ว เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้อยู่อย่างสงบสุขสักที
ตอนเย็น
โบวี่กำลังเดินไปยังลานจอดรถของคณะ เป็นวันแรกในรอบเดือนที่เธอมาจอดรถที่คณะตัวเอง ทำให้รู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องเดินมาเอารถตรงนี้
วันนี้ทั้งวัน เธอพยายามเลี่ยงที่จะไปในสถานที่เดิม ๆ ที่เธอเคยไปในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่าชอบผู้ชายคนนั้น เธอก็เดินหน้าเข้าหาเขาตลอด ถึงจะไม่ได้คุยกันแต่เธอก็อยากจะเข้าไปอยู่ใกล้เขา นึกเสียใจถ้าเมื่อวานเธอไม่ได้บอกเขาไปว่าสนใจและอยากได้ตัวเขา วันนี้เธอคงยังวนเวียนอยู่ในสถานที่เดิม ๆ เหมือนที่เคยทำมาตลอด
ปึก!!!
เพราะมัวแต่ก้มหน้าเหม่อลอย เลยไม่ได้มองทางข้างหน้า เผลอชนเข้ากับร่างหนาของใครบางคน จนรู้สึกเจ็บ
"โอ้ยย!!! ขะ ขอโทษค่ะ"
"....."
"คะ คือ..."
คำพูดถูกกลืนหายไปทันที เมื่อเงยหน้ามาเห็นคู่กรณีที่เธอเดินชนด้วย แอบคิดเล่น ๆ มาทั้งวันว่าโชคชะตาของเธอกับเขาคนนั้นจะมีให้ได้บังเอิญเจอกันบ้างหรือเปล่า และสุดท้ายมันก็มี แต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าเฉยชาติดจะรำคาญของเขา เธอก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดที่อยากให้มีเรื่องบังเอิญระหว่างเราเกิดขึ้น
"คงเป็นวิธีที่เธอใช่อ่อยผู้ชายสินะ"
ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอเงียบและพยายามข่มความรู้สึกของตัวเอง ก่อนจะเดินปลีกตัวออกมาทันที โดยไม่มองหน้าเขาอีก
"แรงไปหรือเปล่าว่ะ"
ฉลามพูดออกมาตรง ๆ เขาเห็นใบหน้ารุ่นน้องสาวแล้วก็นึกสงสาร เธอเหมือนจะร้องไห้ที่โดนเพื่อนเขาต่อว่าแรงขนาดนี้ ปกติเขาจะเห็นเธอเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง ยิ้มแย้มแจ่มใสกว่านี้ แต่วันนี้ใบหน้าเธอกลับดูหม่นหมองผิดปกติ
"อยากมายุ่งกับกูทำไม"
"แต่เมื่อกี้กูเห็นมึงเป็นคนขวางทางน้องเขานะไอ้ไฟ ที่จริงมึงควรเป็นคนขอโทษน้องเขาด้วยซ้ำ"
ไฟหันมาหรี่ตาจับผิดเพื่อนสนิท"นี่อย่าบอกนะว่ามึงหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนั้น"
"ถ้าเขาชอบกูก็ดีสิว่ะ สวย ๆ แบบนั้นกูไม่พลาดหรอก"
ฉลามพูดแค่นั้นก็เดินหนีไปทันที ทำให้ไฟรู้สึกหงุดหงิดที่วันนี้มีแต่คนเดินหนีเขาทั้งวัน