Ep.6

1742 Words
Ep.6 Sixthsence talk. K.Pub "ทำตัวดีๆ อย่าแรดให้มันมากเข้าใจมั้ย ?" ผมพูดขึ้นมาอย่างดุๆ หลังจากที่ผมเดินมาส่งจินถึงโต๊ะที่เธอนัดกับเพื่อนเอาไว้ "รู้แล้วน่า เป็นพี่หรือเป็นพ่อกันแน่ถามจริง ?" จินว่าพลางทำหน้าเซ็งๆ ใส่ผมอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ "เป็นพี่ แต่ถ้าเป็นพ่อนี่ยิ่งกว่านี้แน่ ลองให้โทรเรียกมามั้ยล่ะ ?" "ชิ! ไปได้แล้วไป" จินพูดพร้อมกับยื่นมือออกมาดันหลังผมเบาๆ เพื่อให้ผมเดินออกจากโต๊ะของเธอ "ไม่สนใจอยู่ดื่มด้วยกันก่อนเหรอคะพี่ซิกซ์เซ้นส์สุดหล่อ" ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินออกไป เพื่อนของจินที่ผมจำชื่อไม่ได้ก็เอ่ยขึ้นมาซะก่อน "มึงจะไปชวนทำไม ให้ไปนั่งที่อื่นล่ะดีละ" จินพูดขึ้นพลางจิกตาใส่เพื่อนของเธอสุดฤทธิ์ "เอ้าอีนี่! ก็พี่มึงหล่ออะ กูอยากมีคนหล่อๆ ร่วมโต๊ะด้วยนี่นา" "มึงพอเลย ถ้าให้พี่กูอยู่ด้วย กูได้ตีกันตายก่อน" ก็อาจจะจริงอย่างที่น้องมันว่านั่นแหละครับ คงได้ทะเลาะกันก่อนผับปิดแน่ๆ "ว้า น่าเสียดายจังเลยนะครับ พี่นัดเพื่อนเอาไว้แล้วน่ะสิ" ผมหันไปพูดกับเพื่อนของจินพร้อมกับทำหน้าเสียดาย "น่าเสียดายจัง" "เอาไว้พี่จะแวะลงมาชนแก้วด้วยละกันนะครับ" "ไม่ต้องมา" จินพูดขึ้นมาทันทีหลังจากที่ผมพูดจบ "ไอ้นี่!" ผมยื่นมือออกไปผลักหัวจินเบาๆ อย่างหมั่นไส้ กับพี่ชายนี่ไล่จัง พอกับผู้ชายอื่นล่ะชอบฉิบหาย "=_=" "พี่ไปก่อนนะครับทุกคน" พูดจบผมก็หันไปทำสีหน้าดุๆ ใส่จินอีกครั้งเพื่อเตือนให้ทำตัวดีๆ ก่อนที่ผมจะแยกตัวออกมาแล้วเดินขึ้นมายังโซน Vip ที่เป็นโต๊ะประจำของพวกผม "ไงมึง มึงมาช้านะวันนี้" ไอ้วินเซนต์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเงยหน้าขึ้นมาทักทายผมทันทีที่ผมนั่งลงตรงข้ามมัน "เออดิ รอน้องกูแต่งตัว นานฉิบหาย!" พูดจบผมก็หันไปยกมือเรียกพนักงานให้มาชงเหล้าให้ ปกติพนักงานที่นี่ก็จะรู้หน้าที่ตัวเองแหละ แต่วันนี้มัน friday night ไง คนก็จะเยอะมากกว่าปกติ และอาจจะทำให้ดูแลลูกค้าได้ไม่ทั่วถึง "ปกติป๋ามึงก็ให้คนมารับมาส่งน้องมึงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ ?" "เออ แต่วันนี้กูกลับไปกินข้าวกับม๊าที่บ้านไง ก็เลยมาด้วยกันเลย" "คืนดีกับป๋าแล้วสิมึง ?" ไอ้วินเซนต์มันหันมาเลิกคิ้วถามผมพลางอมยิ้มนิดๆ อย่างล้อเลียนผมเล็กน้อย "ดีเหี้ยไรล่ะ ก็ยังตึงใส่กันเหมือนเดิมแหละ" พูดเรื่องนี้มาแล้วก็เซ็งเลยครับ ปกติผมกับพ่อจะสนิทกันมาก พ่อจะตามใจผมกับจินแบบสุดๆ เลยล่ะ แต่พอผมโตขึ้นและช่วงหลังๆ มา มันก็มีเรื่องที่เข้ามาทำให้ผมกับพ่อไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ แล้วเรื่องที่ว่านั้นก็คือเรื่องงานนี่แหละครับ พ่ออยากให้ผมเข้าไปทำงานที่ K.group ที่เป็นธุรกิจของครอบครัวผม แต่ผมดันไม่ชอบและไม่ได้สนใจที่จะเดินไปในทางนั้น เพราะผมชอบและรักในการทำขนมมากกว่า ผมก็เลยจะเปิดร้าน Cafe เป็นของตัวเอง ผมกับพ่อก็คุยกันไม่ลงรอยมาสักพักใหญ่ๆ จนถึงเมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผมกับพ่อก็ทะเลาะกันอย่างหนัก เมื่อผมเข้าไปบอกพ่อว่าผมจะเลือกทำงานที่ผมรัก และผมก็ได้สารภาพกับพ่อไปว่าผมแอบไปซื้อที่ดินและทำร้าน Cafe จนเกือบจะเสร็จแล้ว พอผมพูดจบพ่อก็โกรธผมมาก โกรธจนถึงขั้นระงับบัตรเครดิตหรือบัตรต่างๆ ของผมทุกใบ อีกทั้งยังสั่งระงับการสร้างร้านของผมอีก ซึ่งก็ทำให้การทำร้านของผมต้องหยุดชะงักไป "แล้วมึงจะเอาไงถ้าป๋ายังไม่ยอมอยู่แบบนี้ ?" ไอ้วินเซนต์ถามผมขึ้น "ก็คงจะหาวิธีทำร้านให้เสร็จก่อน คงจะไปกู้เงินมาทำต่อ" ผมบอกได้เลยว่าผมดื้อพอที่จะดั้นด้นไปต่อ ต่อให้สิ่งที่ผมทำมันจะขัดใจพ่อแต่ผมก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว อะไรก็หยุดผมไม่ได้หรอก "กูให้มึงคิดใหม่ ป๋ามึงไม่ใช่คนธรรมดาๆ ที่จะปล่อยมึงไปกู้เงินที่ไหนได้ง่ายๆ หรอก" ผมลืมคิดไปเลย พ่อผมท่านเป็นคนกว้างขวางและใหญ่โตพอสมควรเลยนะ ป่านนี้ท่านคงจะสั่งห้ามทุกสถาบันการเงินว่าห้ามไม่ให้ผมกู้แล้วล่ะมั้ง อ้อ! ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่ไปกู้กับเฮียเจ้าขุนกับเฮียกัส หรือใครสักคน คำตอบก็คือผมไม่อยากทำให้พวกเฮียๆ มีปัญหากับพ่อของผมไง ถึงพวกเฮียๆจะพร้อมช่วยผมก็เถอะ "ก็จริงแฮะ...หรือมึงว่ากูควรไปอ้อนขอเงินคุณตาดีวะ ?" บอกเลยว่าคุณตาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผมมีตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่า... "ก็ดีนะ แต่อย่าลืมหาเมียไปแนะนำกับคุณตาของมึงด้วย" นี่แหละครับ ติดอยู่แค่ตรงนี้นี่แหละครับ คุณตาท่านอยากให้ผมมีแฟนมาก และคอยหาผู้หญิงมาให้ผมดูตัวอยู่บ่อยๆ เจอหน้าทีไรก็ถามหาแต่หลานสะใภ้ ผมก็เลยขอเก็บตัวเลือกนี้ของผมเอาไว้ก่อนละกัน "วุ้ว! พูดมาแล้วก็เซ็งว่ะ" พูดจบผมก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่มแก้เซ็ง ทำไมทางที่ผมเลือกมันต้องมีอุปสรรคด้วยวะ จะให้เดินสะดวกๆ หน่อยไม่ได้เลยหรือไง จากนั้นผมกับไอ้วินเซนต์ก็เปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อคลายความเครียด ผมกับมันก็ชนแก้วกันแล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ ตามประสาชายโสด อ้อ! แล้วที่มากันสองคนก็เพราะว่าเหลือกันอยู่แค่นี้ คนอื่นๆ ก็หนีไปมีเมียกันหมดละ แต่ละเฮียทราฟไว้หนึ่งคน เพราะว่ารายนั้นเฮิร์ตหนักมาก ตอนนี้ก็น่าจะกินเหล้าย้อมใจอยู่ที่คอนโดนั่นแหละ ก็ปล่อยๆ ไป "..." "...มึงมองอะไรวะ ?" ผมถามไอ้วินเซนต์ออกไปอย่างสงสัย หลังจากที่สังเกตว่าสายตาของมันกำลังจ้องอยู่ที่อะไรสักอย่างมาได้สักพักแล้ว "ผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าบาร์ ใช่เด็กมึงปะวะ ?" มันหันมาถามผมก่อนจะหันกลับไปยังบาร์เครื่องดื่มอีกครั้ง ผมก็เลยมองตามมันไปบ้าง...!!! แล้วก็ทำให้ผมต้องเห็นคนที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเจอได้! จะใครซะอีกล่ะ!...ก็ยัยบ้าน้ำขิง น้ำตะไคร้อะไรนั่นไง! "เด็กกูบ้าอะไร มึงอย่ามั่ว!" พอผมรู้ว่าคนที่มันหมายถึงคือใครผมก็รีบหันมาปฏิเสธมันทันที "จะไม่ใช่ได้ยังไงวะ ก็วันไปทะเลมึงนอนด้วยกัน" ไอ้วินเซนต์หันมามองหน้าผม "แล้ว ?" เออไอ้นอนด้วยกันผมไม่เถียงหรอก แต่นอนด้วยกันแล้วมันยังไงวะ ? และพอผมถามออกไปแบบนั้น ไอ้วินเซนต์มันก็เริ่มหรี่ตาลงแล้วมองผมอย่างจับผิด ก่อนจะพูดขึ้นมา... "เฮ้! อย่ามาทำตัวเป็นเสือไม่มีเล็บแถวนี้ นอนห้องเดียวกันขนาดนั้น แถมผู้หญิงก็สวยซะด้วย เรียกมึงนี่เซ้นส์อย่างนั้นเซ้นส์อย่างนี้ ดูสนิทสนมกันออก มึงคงไม่นอนเฉยๆ หรอก กูพูดถูกมั้ย ?" "...ไอ้วินเซนต์มึงฟังกูดีๆ นะเว้ย คืนนั้นกูบอกเลยว่ากูทำไปเพราะไอ้จีโน่มันขอมาล้วนๆ กูไม่ได้พิศวาสยัยนั่นเลยแม้แต่น้อย แล้วคืนนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น!" ที่ผมยอมเอายัยนั่นมานอนด้วยก็เพราะว่าไอ้จีโน่ มันอยากนอนกับแฟนมันที่เป็นเพื่อนกับยัยน้ำขิงอะไรนี่ มันก็เลยยื่นข้อเสนอหนึ่งมาให้ผม ซึ่งผมก็สนใจในข้อเสนอของมัน ผมก็เลยต้องยอมนอนกันยัยนั่น และผมก็จะย้ำอีกทีว่าคืนนั้นระหว่างผมกับยัยนั่นไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น! "มองหน้ากูแล้วสาบานสิ ว่ามึงไม่ได้ทำอะไรยัยนั่นจริงๆ" ไอ้วินเซนต์ก็คือไอ้วินเซนต์นั่นแหละ ไม่ยอมเชื่อใครง่ายๆ มันมองหน้าผมและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง "อะไรของมึง ไม่เชื่อกู ?" "กูไม่เชื่อว่ามึงจะไม่ทำอะไรเลย" "..." "เงียบ ? หมายความว่าไง" "ถ้ามึงรู้แล้วจะได้อะไรวะ !?" ผมขมวดคิ้วถามมันไปอย่างไม่เข้าใจ ว่ามันจะอยากรู้ไปทำไมขนาดนั้น "พูดแบบนี้แสดงว่าไม่ได้แค่นอนเฉยๆ สินะ..." "..." "...กูพูดถูกมั้ย ?" มันถามผมออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างรอฟังคำตอบจากผม "กูยังยืนยันคำเดิม...ว่าคืนนั้นกูไม่ได้ทำอะไรยัยนั่นจริงๆ...ถึงจะแค่เกือบๆ ก็เถอะ" ผมบอกมันไป ก่อนจะพูดประโยคหลังเบาลง "หึ" "แค่เกือบ แต่ไม่ได้ทำก็แปลว่าไม่ได้ทำปะวะ ?" จะว่ายังไงดีล่ะ คืนนั้นมันเกือบจริงๆ นะ เกือบจะได้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ ยอมรับเลยว่าผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีความอดทนเรื่องแบบนี้ต่ำมากๆ แล้วการที่ต้องไปอยู่กับผู้หญิงสองต่อสองแบบนั้น มันก็ต้องมีอารมณ์กันบ้างแหละ แล้วผมก็ปฏิเสธเลยว่ายัยนั่นเป็นผู้หญิงที่สวย แถมยังสวยมากๆ อีกต่างหาก มีเหรอที่ผู้ชายจะไม่คิดอะไรด้วย โอเค! และผมจะยอมรับและบอกทุกคนตรงนี้เลยก็แล้วกันว่า คืนนั้นถ้ายัยนั่นไม่สลบไปก่อน ผมกับเธอก็คง...มีอะไรกันไปแล้วจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD