Ep.4

1544 Words
Ep.4 Sixthsence talk. 3วันต่อมา ผมเดินผิวปากเข้ามาในบ้านของตัวเองอย่างอารมณ์ดี แต่จริงๆ ก็ไม่ได้อารมณ์ดีขนาดนั้นหรอก แค่ไม่อยากทำตัวเครียดเท่านั้นเอง และนี่ก็เป็นการกลับมาบ้านในรอบสามสัปดาห์ของผมเลยก็ว่าได้ จริงๆ ผมกลับบ้านบ่อยนะ แต่ช่วงนี้ผมมีปัญหากับที่บ้านนิดหน่อยผมก็เลยไม่ค่อยกลับ และจริงๆ วันนี้ผมก็ไม่ได้ตั้งใจอยากจะกลับหรอก แต่แม่ของผมน่ะสิ ท่านโทรมาบ่นคิดถึงแล้วบอกให้ผมกลับบ้านบ้าง วันนี้ผมก็เลยแวะเข้ามาหาท่านสักหน่อย เพราะผมเองก็คิดถึงแม่เยอะอยู่เหมือนกัน "จิน ม๊าล่ะ ?" ผมเอ่ยถามน้องสาวตัวเองที่นั่งทาเล็บอยู่ในห้องนั่งเล่น แล้วจินก็ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ หรอกครับ จินเป็นหลานสาวของยายจันทร์ที่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านหลังนี้ ผมกับจินก็ค่อนข้างที่จะสนิทกันในระดับหนึ่งเลยล่ะ เพราะเราโตมาด้วยกัน พ่อของจินที่เป็นลูกชายของยายจันทร์ พาจินมาไว้กับยายจันทร์ที่บ้านผมตั้งแต่จินยังแบเบาะ เพราะพ่อของจินต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศ พอพ่อของจินไปได้ไม่นานยายจันทร์ก็เสีย บวกกับติดต่อพ่อของจินไม่ได้ พ่อกับแม่ของผมก็เลยรับจินมาเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งพ่อผมนี่ดูดีใจมากที่ได้ลูกสาวอีกคน เพราะท่านอยากมีลูกสาวมาตั้งนานแล้วแต่แม่ก็ไม่ยอมมีให้พ่อสักที "ไม่รู้ น่าจะอยู่หลังบ้านมั้ง" จินเงยหน้าขึ้นมาตอบผมเล็กน้อยแล้วหันกลับไปสนใจเล็บมือตัวเองต่อ "แล้วนี่จะไปไหนเราอะ มีทาลงทาเล็บ" ผมเดินเข้าไปผลักหัวน้องสาวจอมแสบของตัวเองเบาๆ ก่อนจะนั่งลงโซฟาพร้อมกับมองจินทาเล็บไปด้วย "จิ๊! ก็ทาตามประสาผู้หญิงปะ ไม่ได้จะไปไหนสักหน่อย" "อย่าซ่าให้มันมากนัก เบาๆ หน่อยเรื่องเที่ยวอะ อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ" ผมบอกออกไปอย่างดุๆ จินเป็นผู้หญิงที่เที่ยวเก่ง เก่งแบบเก่งมากๆ แล้วแม่ก็ไม่ห้ามด้วยนะ ท่านบอกว่าท่านเข้าใจว่าการอยากเที่ยวแล้วโดนห้ามไม่ให้เที่ยวมันเป็นยังไง เพราะท่านเคยอยู่ในจุดนั้นมาก่อน แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเลยนะครับ เวลาจินจะไปเที่ยวก็จะมีคนคอยไปส่งและรับกลับบ้านทุกครั้ง ซึ่งข้อนี้พ่อเป็นคนกำชับและห้ามโดยเด็ดขาดเลยว่า ถึงจะเมาแค่ไหนก็ต้องกลับมานอนที่บ้าน พ่อค่อนข้างที่จะหวงจินมาก เพราะเป็นเด็กผู้หญิง ทั้งหวงทั้งห่วงแถมยังเอาใจมากเป็นพิเศษเลยล่ะ "อะบ่นๆ ทีตัวเองหิ้วผู้หญิงขึ้นคอนโดไม่ซ้ำหน้ายังไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลย" "ก็พี่เป็นผู้ชาย..." "แล้วที่ขึ้นคอนโดไปกับพี่ก็ผู้หญิงปะ ?" "ก็ใช่ แต่มันไม่เหมือนกัน" "อะแล้วไม่เหมือนยังไง บอกจินมาดิ" จินเลิกทาเล็บแล้วหันมาจ้องหน้าผมอย่างรอฟังคำตอบ "เฮ้อ! โอเคๆ ก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนั่นแหละ" "ชิ๊! แล้วตอนแรกบอกไม่เหมือน" จินจิ๊ปากใส่ผมเล็กน้อยแล้วหันกลับไปตั้งใจทาเล็บตัวเองต่อ "ป๋าเป็นห่วงเรามาก เรารู้ใช่มั้ย ?" ในเมื่อผมบอกแล้วน้องมันไม่เชื่อฟังผม ผมก็เลยต้องยกพ่อขึ้นมาอ้าง เพราะจินก็น่าจะเชื่อฟังพ่ออยู่บ้างแหละ "รู้ ก็ป๋าบอกจินอยู่ทุกวัน" อ้อ! แล้วที่พวกเราเรียกพ่อว่า 'ป๋า' ก็เพราะว่าตอนเล็กๆ พ่อนี่สายเปย์ที่แท้ทรูเลยล่ะ อยากได้อะไรคือได้หมด ผมกับจินก็เลยเรียกพ่อว่าป๋ามาตั้งแต่ตอนนั้น จนตอนนี้เรียกจนติดปากไปแล้ว "นั่นแหละ รู้แล้วก็อย่าเที่ยวบ่อย ป๋าเป็นห่วง" "ที่พูดนี่...คือกลัวจินทำตัวเหมือนผู้หญิงที่พี่ชอบหิ้วขึ้นคอนโดใช่ปะ ?" จินหันหน้ากลับมาถามผมอีกครั้งอย่างรู้ทัน "แล้วเราได้ทำแบบนั้นปะล่ะ ?" ถึงผมกับจินจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่ด้วยความที่เราโตมาด้วยกัน มันก็ทำให้เราผูกพันกันมาก ก็ผมเลี้ยงจินมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นจินอายุแค่ 1 ขวบ ส่วนผมก็ 5 ขวบ เลี้ยงมาจนตอนนี้จินเรียนปี 1 จะขึ้นปี 2 แล้ว จะไม่ให้ผมหวงน้องที่ผมเลี้ยงมากับมือได้ยังไง "จินดูแลตัวเองได้น่า" "จิน!" ผมเผลอขึ้นเสียงใส่จินเล็กน้อย เมื่อจินพูดแบบนั้นออกมา ซึ่งก็ทำให้จินสวนผมกลับมาทันทีเหมือนกัน "นี่พี่กะจะไม่ให้จินมีแฟนเลยเหรอ" "ไม่จำเป็นต้องมี น้องสาวคนเดียวพี่เลี้ยงได้" ถ้าหาได้ไม่ดี หรือที่รวยไม่ได้เท่าป๋า ผมก็จะไม่ยอมให้จินมีแฟนจริงๆ ด้วย "โห่ พี่ก็พูดไปเรื่อยเลยนะ พี่จะมาเลี้ยงอะไรจิน อีกหน่อยพี่ก็ต้องมีแฟนปะ" "พี่ไม่มี" "หมายถึงอีกหน่อย ตอนนี้ไม่มี เดี๋ยวอนาคตก็ต้องมี" "ไม่มี และจะไม่มีเด็ดขาด" การมีแฟนคือการหาบ่วงมาคล้องคอตัวเองชัดๆ เพราะฉะนั้นผมจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด "เดี๋ยวคุณตาก็หามาให้พี่เอง ตอนนี้พี่ก็พูดได้หมดนั่นแหละ" คุณตาผมท่านเป็นนักการเมืองเก่า และท่านก็มักจะพาลูกๆ หลานๆ ของเพื่อนท่านมาแนะนำให้ผมกับจินรู้จักอยู่เป็นประจำ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ ก็เลยปฏิเสธคุณตามาตลอด "ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วนี่ว่าพี่ไม่ได้สนใจใครเลย" "เพราะมันยังไม่ถึงขั้นเด็ดขาดต่างหากล่ะ" "อะไร เราไปรู้อะไรมาอีกล่ะทีนี้" พูดเหมือนไปรู้อะไรที่ผมไม่รู้มาเลย ซึ่งมันก็ทำให้ผมต้องหันไปขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย "กะ..." "ไงเด็กๆ ทะเลาะอะไรกันอีก" ยังไม่ทันที่จินจะได้ตอบอะไรผม แม่ก็เดินเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน แล้วที่แม่ใช้คำว่าอีกแล้ว ก็เพราะว่าผมกับจินมักจะทะเลาะกันเป็นประจำ จริงๆ ก็รักกันนะครับแต่ก็ชอบทะเลาะกันด้วย "ไม่ได้ทะเลาะกันครับ เราออกจะรักกันมาก...ใช่มะ?" ผมพูดกับแม่ก่อนจะกันไปถามจิน แต่น้องสาวตัวแสบผมกลับไม่เล่นด้วยแถมยังแลบลิ้นใส่ผม ก่อนจะหันหน้ากลับไปฟ้องแม่ "ไม่ใช่ค่ะม๊า เมื่อกี้พี่เซ้นส์ดุหนูว่าหนูเที่ยวบ่อย" "ก็บ่อยจริงๆ นี่" ผมพูดไป "ไม่บ่อยสักหน่อย" "สัปดาห์ละ 4 วันเนี่ยนะไม่บ่อย ?" "ทีตัวเองยังไปทุกวันเลย" ยอกย้อนก็ที่หนึ่ง ไม่มีใครเกินจริงๆ "แต่เราเป็นผู้หญิงไง" "เป็นผู้หญิงแล้วเที่ยวไม่ได้ ?" "จะ..." "พอๆ เลิกเถียงกันได้แล้วพี่น้องคู่นี้ ปล่อยให้อยู่ด้วยกันไม่ได้เลยจริงๆ" แม่พูดพร้อมกับส่ายหน้าให้เราสองคนอย่างเอือมระอา "ก็พี่เซ้นส์อะเริ่มก่อนอ่ะม๊า กลับมาทีไรบ่นหนูทุกที" "ที่บ่นก็เพราะเป็นห่วงมั้ย ?" "ไม่ได้ขอให้เป็นห่วงสักหน่อย" "จิน" ผมเรียกจินออกไปเสียงแข็งอย่างคนที่กำลังจะโมโหแล้วจริงๆ จนแม่ต้องเริ่มห้ามเราสองคนไม่ให้ทะเลาะกันอีกครั้ง "เอาล่ะๆ ทั้งพี่ทั้งน้องเลยเที่ยวเก่งพอกันทั้งคู่นั่นแหละ เราเองก็เหมือนกันจะอะไรกับน้องนักหนา เวลาน้องไปเที่ยวน้องก็ไปแต่ผับลุงคิง เราเองก็ไปที่นั่นบ่อยๆ น้องก็อยู่ในสายตาเราตลอดไม่ใช่เหรอ" แม่หันมาพูดกับผม ก็เพราะว่าน้องมันอยู่ในสายตาผมตลอดนี่แหละ ผมถึงต้องคอยบ่น ถ้าพูดอย่างหยาบๆ เลยนะ น้องผมนี่แรดตัวแม่เลยล่ะ แต่แค่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปต่อกับใครที่ไหนเฉยๆ "ให้ท้ายกันตลอด" ผมบ่นออกมาเสียงเบา ก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ตัวแสบอย่างคาดโทษเอาไว้ก่อน "แล้วอีกอย่างนะ มันไม่เกี่ยวหรอกว่าน้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะมันก็เหมือนกันนั่นแหละ อยู่ที่ใครจะคิดยังไงมากกว่า" ม๊าผมท่านมีแต่เพื่อนผู้ชายไง ท่านก็เลยจะเข้าใจมุมมองของผู้หญิงที่ถูกมองว่าต่างจากผู้ชาย ซึ่งผมเองก็เข้าใจนะ แต่ถ้าให้ผมเห็นน้องตัวเองมาทำตัวแบบผู้ชายอย่างผม ผมก็คงรับไม่ได้อยู่ดี "ใช่ค่ะม๊า" จินพูดออกมาอย่างกระดี๊กระด๊าทันทีที่ม๊าพูดให้ท้ายตัวเอง เหอะ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะยัยตัวแสบ รอพี่ดีกับป๋าเมื่อไหร่ เจอดีแน่! เดี๋ยวจะเสี้ยมให้ป๋าหวงหนักๆ เลยคอยดู!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD