ตอนที่ 1 พี่คนนั้น

1746 Words
ตอนที่ 1 พี่คนนั้น ถนนสายหนึ่งที่ไร้แสงไฟริมทาง ก็อาจไม่มืดมิด เท่ากับชีวิตของเธอที่จมลงสู่เหวลึก มองไม่เห็นอนาคต ไม่เห็นที่พึ่ง ไม่เห็นแม้หนทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ มิรินเดินไปตามซอยเดิมที่เธอเคยเดินเข้าเดินออกมาช่วงหนึ่ง ก่อนหน้านี้ถนนสายนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกลัวเลย ทว่าวันนี้เธอกลับรู้สึกว่ามันเปลี่ยวเหลือเกิน แม้จะมีแสงไฟจากบ้านเรือนริมทาง แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันเงียบเกินไป เงียบจนเธอรู้สึกว่าบนโลกนี้มันมีเพียงตัวเธอที่ยังมีลมหายใจ ในย่านนี้เธอไม่มีคนรู้จัก คนที่นี่ต่างคนต่างอยู่กันทั้งนั้น และมันก็ไม่ได้น่าอยู่นักสำหรับเธอเลยในเวลานี้ เธอไม่มีบ้านให้อยู่แล้ว ไม่มีที่ไป ไม่มีใครให้ปรึกษาแม้แต่คนเดียว ผู้หญิงที่เคยเลี้ยงดู อยู่ข้างกายเธอมาตลอดก็จากกันไปเมื่อหลายวันก่อน จากไปไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ทิ้งให้เธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ แม้แต่พ่อแท้ ๆ ที่แยกทางกับแม่ตั้งแต่เธอยังเด็ก ในตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาเขาจากที่ไหน แม่ไม่เคยบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องของพ่อเลย สิ่งที่เธอพอจำได้ก็แค่ว่าพอเคยมาหาเธอเมื่อสิบปีที่แล้ว หลังจากนั้นก้ไม่เคยได้เห็นเขา ไม่เคยรับรู้เรื่องของเขาอีกเลย มิรินเดินไปตามทางที่เงียบสงบ มีเสียงผู้คนดังแว่วมาเป็นระยะ แต่แทนที่เธอจะรู้สึกดีขึ้นหัวใจเธอกลับรู้สึกสั่นหวิวด้วยความกลัว เหตุผลที่เธอไม่รู้จะพึ่งพาใครก็เพราะเธอย้ายที่อยู่บ่อยตั้งแต่เด็กจนโต แม่ของเธอพาเธอเปลี่ยนที่อยู่มานับครั้งไม่ถ้วน เพราะถูกตามรังควานจากอดีตพ่อเลี้ยง บ้านหลังสุดท้ายที่เธอเคยอยู่แม่ก็ทำเรื่องผ่อนตรงกับเจ้าของบ้านเดิม พอแม่ของเธอจากไปพวกเขาก็ไม่ให้เธออยู่ต่อแล้ว เพราะเพิ่งจ่ายค่างวดไปไม่ถึงปี และพวกเขาคงคิดว่าเธอไม่มีปัญญามาจ่ายค่างวดแล้วถึงไล่เธอออกมา “น้องคนสวย จะไปไหนครับ” เสียงเข้มของพวกผู้ชายหลายคนตะโกนแซวออกมาจากห้องแถวหลังหนึ่ง เธอรู้ดีว่าที่แห่งนี้มีพวกวัยรุ่นที่ชอบทำแต่สิ่งผิดกฎหมาย ไม่ได้อยากเจอแต่มันเป็นทางผ่านที่ต้องออกไปจากซอยนี้ ปกติแล้วเธอไม่เคยมาเดินในเวลายามค่ำคืนจึงไม่รู้ว่ามันจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ มิรินรีบเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น ก่อนที่คนพวกนั้นจะให้ความสนใจเธอมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นเป้าหมายที่พวกมันกำลังให้ความสนใจ หนึ่งในกลุ่มผู้ชายเหล่านั้นเดินตามเธอออกมาก่อนจะคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ “น้องคนสวยที่เพิ่งย้ายมานี่เอง” ชายหนุ่มรูปร่างผอมบาง ขอบตาลึกคล้ำเอ่ยปากพร้อมกับยกยิ้ม “ปล่อย!” มิรินรีบสะบัดมือออกจากการถูกเกาะกุมก่อนจะรีบวิ่งหนีมันสุดชีวิต ไอ้บ้าคนนั้นก็ยังพยายามจะวิ่งตามเธอแต่เหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อมีรถคันหนึ่งผ่านมา มันถึงได้หยุดตามเธอ มิรินออกมาจากซอยนั้นเธอก็มุ่งตรงไปยังถนนที่มีแสงไฟสว่างไสวมากขึ้น ถนนเส้นนี้มีรถราผ่านไปมามากมายเพราะเป็นแหล่งรวมสถานบันเทิงตลอดสาย แม่ของเธอเพิ่งจะวางแผนเปิดร้านขายกับข้าว ตั้งใจลาออกจากงานที่ได้รับค่าจ้างรายวัน เพื่อลองหารายได้ที่ดีกว่าแล้วส่งเธอเรียนต่อมหาวิทยาลัยหลังจากที่เธอสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ แต่ตอนนี้ท่านกลับไม่อยู่กับเธอแล้ว ไม่มีแม้แต่คำบอกลาให้กันด้วยซ้ำ ทิ้งให้เธอสู้ชีวิตเพียงลำพังในโลกที่กว้างใหญ่ เธอร้องไห้มาหลายวันแล้ว ร้องไห้จนตาบวม แต่ก็ต้องกลับมาร้องไห้อีกครั้งจนได้ เมื่อต้องพบเจอกับเรื่องแย่ ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด หรือเธอควรจะตายตามแม่ของเธอไปให้มันจบ ๆ ไม่ เธอยังไม่อยากตาย มันอาจจะยังมีหนทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรเธอก็ยอม มิรินเลือกเดินมาตามเส้นทางนี้ก็เพื่อที่จะได้เจอกับใครสักคนที่เธอรู้จัก แม้เธอจะไม่ค่อยออกไปไหน ไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกับใครแต่ตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยไปไม่กี่วันนี้เธอก็พอได้เจอผู้คนผ่านหูผ่านตา มีเพื่อนใหม่ที่เพิ่งทำความรู้จักกัน แต่ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่เครื่องมือสื่อสารกับใคร เพราะขายมันไปเพื่อทำศพแม่ตัวเอง เหลือแต่ตัวกับเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุดเท่านั้นที่เก็บใส่กระเป๋ามาได้ตอนที่ถูกพวกนั้นไล่ออกมาจากบ้าน เสียงดนตรีและเสียงเพลงตามร้านเริ่มดังให้ได้ยินชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเธอยิ่งเดินเข้าใกล้ที่แห่งนั้นมากขึ้น มองเห็นแสงสีจากสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยนักท้องราตรีมากมายและส่วนใหญ่เป็นย่านที่นักศึกษามาเที่ยวกัน อย่างน้อยเธอก็อาจจะเจอรุ่นพี่สักคนที่เธอพอจะรู้จัก หญิงสาวปาดน้ำตาตัวเองออกอย่างลวก ๆ เมื่อเดินเข้าใกล้ผู้คนเรื่อย ๆ เธอเห็นใครหลายคนกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าร้าน บางคนยืนสูบบุหรี่ บางคนก็เมามายไม่รู้เรื่อง แม้พวกเขาจะมีพฤติกรรมแบบนั้นแต่มันก็ยังไม่น่ากลัวเท่าพวกวัยรุ่นที่เธอเพิ่งวิ่งหนีมาก่อนหน้านี้ “มึงไม่เอาจริงดิ ถ้าไม่เอากูเอานะ” เธอเดินมาถึงหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ก็ต้องหยุดฝีเท้าลงเพราะเจอคนที่รู้สึกคุ้นหน้ากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่มุมหนึ่ง ครุ่นคิดอยู่นานว่าเคยเจอเขาที่ไหน สุดท้ายเธอก็นึกออก ว่าเขาคือหนุ่มรุ่นพี่ที่เธอเคยเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตอนที่ยังเรียนอยู่โรงเรียนเก่า และเขาเป็นรุ่นพี่มหาวิทยาลัยที่จัดค่ายให้น้องมัธยม แต่เธอนึกชื่อของเขาเท่าไรก็นึกไม่ออก จำได้แค่ว่าเขาฮอตมากและใจดีกับทุกคนจนเพื่อนเธอต่างชอบเขากันหมด “แล้วแต่มึง” “สวยขนาดนี้ เมินได้ไงวะ” “กูไม่ชอบ” เขาคนนั้นบอกเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มึงเลิกพูดเรื่องผู้หญิงก่อนได้ไหม กูรำคาญ” ไอ้ที่มันถามอยู่นี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิง จริงอยู่ว่าเขาเคยพาใครมาแก้เหงาบ้าง แต่คนนี้ไม่ตรงสเปก ถึงจะสวยมากแต่ก็สนใจชีวิตเขามากไป “ครับ ๆ พี่คนหล่อ” ไป๋ เพื่อนสนิทของเขาเอ่ยออกมาอย่างประชดประชัน ก็คนที่มันปฏิเสธไปหมาด ๆ นั่นเป็นถึงอดีตดาวมหาวิทยาลัยที่ใครก็อยากจีบ อยากเป็นแฟน แต่ไอ้ใต้หล้าแม่งบอก ไม่ชอบ ต้องหล่อขนาดไหนถึงจะพูดคำนี้ออกมาได้วะ! เออ ก็หล่อแบบมันไง “มึงจะไปไหนก็ไป กูจะกลับแล้ว” “เออ งั้นก็แยกกันตรงนี้” ไป๋พยักหน้ารับก่อนที่เขาจะหันหลังเดินเข้าไปในร้าน เข้าไปสนุกต่อ แต่อีกคนเลือกที่จะเดินไปทางลานจอดรถเพราะเขาอยากกลับไปพักผ่อนเต็มทน “พี่คะ” มิรินรีบเดินตามหลังเขา ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถสปอร์ตสุดหรูของตัวเองที่บอกถึงฐานะเขาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นเพียงนักศึกษาแต่เขากลับใช้รถราคาแพงแบบที่คนธรรมทั่วไปไม่สามารถซื้อมาขับได้เพราะราคาของมันคงไม่ต่ำกว่าห้าล้านแน่ ๆ ถ้าเธอจะขอความช่วยเหลือจากเขา มันจะพอเป็นไปได้ไหม ในเมื่ออย่างน้อยหลายเดือนก่อนก็เคยได้ทักทายกันในฐานะน้องร่วมค่าย ดวงตาคมกริบตวัดมองเจ้าของเสียงใสที่แอบสั่นเล็กน้อย ใบหน้าสดสวยเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เขาขมวดคิ้วมองเธอด้วยความสงสัย ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาเคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า แถมสภาพเธอตอนนี้ก็ไม่น่าทำความรู้จักด้วยเลยสักนิด มันจะมีใครใส่เสื้อยืดกางเกงขายาวเหมือนกางเกงใส่นอน แบกกระเป๋าเป้ใบใหญ่มาเที่ยวร้านเหล้าวะ “มีอะไร” “พี่จำหนูได้ไหม มิรินที่เคยไปค่ายพี่” เธอถามเขาพยายามยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรแม้ตอนนี้ดวงตาของเธอจะแดงก่ำและบวมช้ำ “พูดอะไรของเธอ” เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างและแน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับตัวเอง แม้เขาจะเป็นเพียงนักศึกษาแต่ชีวิตของเขาพัวพันกับ ธุรกิจ พวกมีอิทธิพล รวมไปถึงมีคู่แข่งและศัตรู การไว้ใจใครง่าย ๆ ไม่ใช่นิสัยของเขา “ขอโทษที่หนูรบกวนนะคะ หนูขอร้องพี่ช่วยหนูหน่อยได้ไหม” เขาจำเธอไม่ได้มันคงไม่เป็นไร แต่เขาคงไม่ใจร้ายเกินไป เธอคิดว่าเป็นอย่างนั้น หญิงสาวประนมมือไหว้กลางอก น้ำตาคลอเบ้า ยกมือไหว้เขาเพื่อให้เขาเห็นใจ “หนูไม่มีที่อยู่ ไม่รู้จะพึ่งใคร แม่หนูเพิ่งโดนรถชนเสียไป พี่ช่วยหนูได้ไหม” “ฉันช่วยเธอไม่ได้หรอก” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ติดรำคาญ พลางคิดในใจว่า มาเล่นตลกอะไรกับกู! ใต้หล้าพ่นลมหายใจออกมาอย่างหน่าย ๆ ถึงจะยืนร้องไห้แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้น และเขาไม่ใช่คนใจดีของสังคมที่ต้องยื่นมือไปช่วยใคร หน้ากูดูเป็นคนดีนักหรือไง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD