- ภายในรถสปอร์ตหรู -
“ ทำหน้าให้มันดีๆยัยแมวน้อย ”
“ ยุ่ง! ”
“ มาทำไมที่นี่..? ”
“ ยุ่ง! ”
เอี๊ยด!!
เมื่อถามดีๆแล้วคนข้างๆยังไม่ยอมพูดดีด้วยมือหนาตบไฟเลี้ยวหักพวงมาลัยเข้าไปจอดข้างทาง
” จอดทำไม “
” ถามว่ามาทำไม ตอบ ”
“ ก็มาชื่อลูกชิ้นไง เอาของทับทิมทิ้งทำไม!!!!! ”
ฝ่ามือเรียวเล็กทาบลงบนใบหน้าหล่อของคนขับแล้วออกแรงผลักจนร่างหนาเอนไปชิดติดกับประตูรถ เธอทั้งโกรธ ทั้งโมโหกับอีกคนที่เอาลูกชิ้นทอดของเธอโยนทิ้งถังขยะไป
หมับ!
“ หือ…ยัยแมวน้อย ”
มือหนาจับหมับเข้าที่ข้อมือเรียวเล็กและเอ่ยเรียกอีกคนด้วยความหมั่นเขี้ยวตาคมจ้องมองใบหน้าสวยยิ้มๆ
“ ฟ้องแม่รินแน่คอยดูว่าเพลิงกับสายแอบมาสัก โดนแน่ ” เธอพูดใส่หน้าเขาและยู่หน้าใส่เล็กน้อย
“ แก่นนัก ขี้ฟ้องก็ไม่หาย ” นิ้วเรียวยาวบีบไปที่จมูกเล็กๆกรามหนาบดเข้าหากันด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ โอ้ย…ไอ้หมาเพลิงจะฆ่ากันหรือไง ”
เมื่อรู้สึกหายใจไม่ออกอีกคนก็ร้องโวยวายออกมา
“ เออ…ฆ่าให้ตายไปเลย ”
ปัก! ปัก! ปัก!
“ ไม่หล่อทีนึงแล้วยังจะใจร้ายอีก ”
“ นี่ยังไม่หล่ออีกเหรอ แบบไหนถึงจะหล่อ หืม... ”
มือหน้าจับไปที่ปลายคางเล็กให้หันมามองหน้าตัวเองดวงตาคู่สวยจ้องมองไปในตาคมที่ด้านในมันมีภาพสะท้อนตัวเธออยู่ในนั้น
“ ตอบมาถ้าเพลิงไม่หล่อแล้วแบบไหนถึงเรียกว่าหล่อ ”
เขาเอ่ยถามคนตรงหน้าขึ้นอีกครั้ง คิ้วคมเลิกขึ้นสูงเพื่อรอฟังคำตอบ
“ เออ….เออ…กะ ก็สายฟ้าไงหล่อ สายหล่อ ”
เธออ้ำๆอึ้งๆก่อนจะตัดสินใจตอบออกมา
“ หึ…เหรอ ”
เพลิงทำเพียงหัวเราะเบาๆในลำคอและเอ่ยถามคนตรงหน้ายิ้มๆ รอยยิ้มที่ทำให้สติอันน้อยนิดของหญิงสาวเหมือนจะล่องลอยหายไป
“ ออกรถสิยิ้มอยู่ได้ ชิ! ”
“ ไปกินข้าวก่อน หิวข้าว ”
“ แต่ทับทิมไม่หิว “
” เงียบแล้วนั่งเฉยๆ “
“ คนเอาแต่ใจ เอาแต่ใจที่สุดเลย ฟ้องแม่รินแน่ ”
เพลิงได้แต่อมยิ้มน้อยๆให้กับคนด้านข้างและขับรถออกไปทันทีจนมาถึงห้างหรูย่านใจกลางเมือง
รถสปอร์ตหรูสีดำขลับขับเข้ามาจอดยังช่องจอดรถ vip ของห้างที่แม่ของฟาโรเป็นหุ้นส่วนใหญ่
“ ลงมา ”
“ ไม่! ทับทิมไม่หิว ”
เขาเดินมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับแต่คนดื้อก็ยังนั่งกอดอกนิ่งไม่ยอมลงมาจากรถ
” จะลงมาดีๆหรือจะให้อุ้มลงมา “
ร่างหนาโน้มตัวลงไปพูดใกล้ๆใบหูเล็กลมหายใจอุ่นร้อนรินรดลงข้างๆใบหูทับทิมรีบย่นคอหนีทันที
ทับทิมที่รู้ตัวเองดีว่าคนอย่างเพลิงไม่เคยพูดเปล่าเขาทำจริงกับทุกคำพูดของเขาแน่นอนรีบลงจากรถจนกระโปรงตัวสั้นที่ใส่อยู่ร่นขึ้นสูงเผยให้เห็นต้นขาขาวๆ
“ กระโปรงอะไร ชอบใส่นักไอ้ตัวสั่นๆเสื้อผ้าหมาแมวเนี่ย ”
มือหนาจัดเสื้อผ้าของคนตรงหน้าให้เข้าที่ก่อนจะก้มลงไปดึงกระโปรงลงให้ปากก็เอาแต่พร่ำบ่น ทับทิมได้แต่ยืนมองการกระทำของอีกคนเงียบๆแม้เพลิงจะอายุห่างจากทับทิม 2 ปีแต่เขาก็ยังมีความเป็นผู้ใหญ่ มีเหตุมากกว่าตัวเธอเองเสียอีก
“ ไปเถอะเพลิงหิวข้าวมากจะกินอะไรเลือกมา ”
“ อะไรก็ได้ ”
“ งั้นเดี๋ยวโทรถามเฮียก่อนอะไรก็ได้มันขายตรงไหน ”
มือหนาล้วงมือถือราคาแพงออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนแบรนด์ดังที่สวมใส่อยู่และกดโทรออกทันที..ไม่นานปลายสายก็กดรับสาย
“ เพลิงว่าไง ”
“ เฮียห้างเฮีย อะไรก็ได้ มันขายตรงไหน…? “
” อะไรวะ…? “
ฟาโรเมื่อกดรับสายก็ได้ยินคำถามชวน งง
” ก็ อะไรก็ได้ มันขายตรงไหนผมพาทับทิมมากินข้าวบอก อะไรก็ได้ ผมก็เลยโทรมาถาม ”
“ กวนตีนมากไอ้สัส! กูประชุมอยู่ก็ต้องมานั่ง งง กับคำถามของมัน เวรกรรมของกูจริงๆ ”
ฮ่า…ฮ่า…ฮ่า
เพลิงระเบิดหัวเราะเสียงดังออกมาเขาแค่อยากตั้งใจจะแกล้งคนข้างๆแต่ดูเหมือนจะได้แกล้งฟาโรซะมากกว่า
“ ไม่มีขายโว้ย อะไรก็ได้ แต่ละคำถามของมันทำกูเกือบตกเก้าอี้ ”
“ ไม่มีขาย งั้นก็แค่นี้นะครับ ”
“ เดี๋ยวเพลิง “
” ครับ…? “
” ฝากดูน้องด้วยนะเดี๋ยวพ่อตากูจะบ้าซะก่อน เฮียน่าจะกลับพรุ่งนี้ ”
“ ได้ครับ เดี๋ยวก่อนกลับจะแวะไปรับ ”
“ ขอบใจมากแค่นี้นะกูประชุมอยู่ อะไรก็ได้ ไม่มีขายด้วยไอ้สัส! ”
ฟาโรกดวางสายไปทันทีเพลิงและเด็กๆทุกคนเรียกฟาโรว่าเฮียตามพราวฟ้าและทุกคนก็สนิทสนมกับมาเฟียหนุ่มเป็นอย่างมาก
“ อะไรก็ได้ ไม่มีขายกินอะไรว่ามา ”
” ….. “
เงียบ…ความเงียบมันกระตุ้นให้เพลิงอยากที่จะแกล้งอีกคนขึ้นมาอีกร่างหนาเดินต้อนคนตรงหน้าทำให้สองขาเรียวค่อยๆถอยหลังหนีจนแผ่นหลังบางชนเข้ากับกำแพงปูนที่ลานจอดรถ
” บอกมากินอะไร…? “
ร่างหนายืนแนบชิดกับอีกคนจนได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเขา
” ห้ามตอบอะไรก็ได้ “
” เนื้อย่างเกาหลี “
” ก็แค่นั้น “
ทับทิมที่รู้สึกกลัวสายตาของอีกคนจำต้องเอ่ยบอกออกไป สายตาที่เพลิงมักจะใช้ข่มขู่เธออยู่บ่อยครั้งเวลาที่เธอดื้อ ทับทิมนอกจากจะปากจัด เถียงเก่งแล้วเธอก็ยังดื้อมากๆเวลาที่อยู่กับเพลิง
มือหนาจูงมือเรียวเดินเข้ามาในห้างที่ในช่วงเที่ยงของวันมีคนค่อนข้างเยอะและร้านอาหารคนแน่นทุกร้านจนมาถึงร้านอาหารเกาหลี
“ 2 ท่านนะคะ ”
พนักงานของร้านเอ่ยถามลูกค้าอย่างมีมารยาท
“ ครับ ”
“ ทางนี้ค่ะ ”
พนักงานเดินนำทั้งสองเข้าไปโต๊ะที่ว่างอยู่ 2 ที่นั่งตั้งผงาดอยู่กลางร้าน ทุกคนในร้านเอาแต่มองตามทั้งสองบางโต๊ะก็เอาแต่พูดถึงเอ่ยชมเพลิงจนทับทิมได้ยิน
” นั่นคุณอคินเจ้าของผับนี่ “
” ใช่ หล่อเน๊าะ ส่วนผู้หญิงที่มาด้วยญาติเขาใช่ไหมลูกสาวเพื่อนสนิทพ่อเขา “
” เหรอ ผู้หญิงก็สวยนะ “
” อือ รวยทั้งสองคนเลย ครอบครัวนี้มีแต่รวยๆ “
“ เชอะ! ไปไหนก็มีแต่คนชมนะจะอ้วก ”
ทับทิมเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินโต๊ะที่เพิ่งเดินผ่านมาเอ่ยชมเพลิง
“ หึ…ทำไมหึง..? ”
“ หึงทำไมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ”
“ งั้นเหรอ “
” พูดมากจริง “
” อยู่กับคนที่มีปากเหมือนนกแก้วนกขุนทองแบบนี้ลองไม่พูดสิ “
” ไอ้หมาเพลิงใครเป็นนกแก้ว นกขุนทอง “
” ก็ยัยนี่ไงยังจะถามอีก “
มือหนายกขึ้นมาโยกหัวคนตัวเล็กด้านข้างเบาๆก่อนจะเดินลงไปนั่ง
ทั้งสองสั่งอาหารหลายอย่างไม่นานพนักงานก็ยกออกมาเสริฟ์ เพลิงกำลังตั้งใจย่างเนื้อให้อีกคนทว่าในขณะนั้นเอง…
” ทับทิม “
เสียงแหบห้าวของใครบางคนเอ่ยเรียกทับทิม
” มากินข้าวเหรอ ดีใจจังที่เจอทับทิมที่นี่ “
” ออ..อือ ตรินกลับมาจากต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ “
“ มาถึงเมื่อคืนนะ ”
ตรินเพื่อนร่วมคณะที่ชอบพอทับทิมมาตั้งแต่เรียนปี 1 แต่ทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ทับทิมจะเจอซันและสกายที่คอยขัดเขาตลอดจนเรียนปี 3 ชายหนุ่มก็ย้ายตามครอบครัวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพิ่งจะกลับมาถึงเมื่อคืนนี้ตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นู้นก็พยายามติดต่อทับทิมทางไอจีมาตลอดแต่แปลกที่ทับทิมอ่านข้อความของเขาและไม่เคยตอบกลับเขาเลย
“ ตรินส่งข้อความหา ทับทิมเปิดอ่านทำไมไม่ตอบเลยละ“
” หือ..ตรินทักมา ? “
” อือ แทบทุกวันอะแต่ทับทิมไม่เคยตอบเลย “
เพลิงได้แต่ยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินคำถามนั้นของตริน ด้านทับทิมก็เอาแต่ทำหน้า งง เพราะเธอไม่เคยเห็นหรืออ่านข้อความของเขาเลย
“ไปนั่งกับตรินไหมจะได้คุยกันไง ”
ปัง!
มือหนาวางที่คีบอาหารในมือลงอย่างแรงเมื่อได้ยินประโยคนั้นของผู้มาใหม่ ตรินทำราวกับไม่เห็นเพลิงที่นั่งอยู่
“ ขอโทษที่พี่ลืมทัก สวัสดีครับน้องเพลิง ”
ตรินเอ่ยทักทายเพลิงเขาเคยเห็นเพลิงอยู่บ่อยครั้งในมหาลัยและจะเป็นเพลิงเนี่ยแหละที่จะชอบอยู่กับทับทิมบ่อยๆเวลาที่ซันกับสกายมีเรียน
“ ไปทับทิมไปนั่งด้วยกัน ”
“ มากับกูทำไมต้องไปนั่งกับมึง… ? ”
เพลิงเอ่ยเสียงเย็นออกมาตาคมจ้องมองไปยังชายหนุ่มรุ่นพี่อย่างเอาเรื่อง
” ขอโทษนะคะขอเสริฟ์น้ำค่ะ “
พนักเอ่ยบอกตรินที่ยืนขวางทางเพื่อจะเสริฟ์น้ำให้ลูกค้า
พรึบ !
” คิดเงินเลยครับ “
มือหนาส่งบัตรแบล็กการ์ดให้พนักงานไปเพื่อจะชำระค่าอาหารก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง
“ แต่ลูกค้ายังไม่ได้ทานเลยนะคะ ”
“ ผมรู้สึกไม่ชอบบรรยากาศในร้านครับ ”
“ ค่ะ ค่ะ “
พนักงานรีบรับบัตรและเดินไปยังเคาว์เตอร์คิดเงินทันที
“ เพลิงแต่เรายังไม่ได้กินเลยนะ ”
“ ไปกินร้านอื่น ”
มือหนาจับไปที่มือเรียวแล้วพาเดินออกจากโต๊ะไปทันที
“ ทับทิมเดี๋ยวสิ ”
ตรินที่ไม่คิดยอมเดินตามทั้งสองออกมานอกร้านเพราะเขายังพูดธุระของเขายังไม่จบ
“ ทับทิมตรินของเบอร์ทับทิมเอาไว้หน่อยสิไว้นัดเจอกัน ”
“ ทำไมต้องเจอ…? ”
“ เกี่ยวอะไรกับน้องครับ..? ”
“ เกี่ยวกับกูแน่ ”
“ เป็นแค่น้องก็อย่ามากักสิวะ! ”
ตรินเอ่ยขึ้นเพราะหลายปีที่ผ่านมาคนรอบตัวของทับทิมเอาแต่กักเขาอยู่แบบนี้เสมอ
“ อ๊ะ…อือ ”
ทั้งสองยืนถกเถียงกันอยู่หน้าร้านอาการเกาหลีมือหนาจับท้ายทอยเล็กล็อกไว้แน่นก่อนจะก้มลงไปจูบที่เรียวปากสวยของทับทิมท่ามกลางสายตาคนทั้งห้าง
“ แบบนี้เขายังว่าเรียกว่าน้องอยู่ไหม…? อย่ามายุ่งกับคนของกูอีกหรือแม้แต่คนในครอบครัวกู ”
เพลิงชี้หน้าตรินและเอ่ยบอกเสียงลอดไรฟันมีเพียงทับทิมที่ยังยืนอึ้งอยู่ที่เดิมเธอ งง และตกใจกับการกระทำของเพลิงทุกครั้งเขาทำเพียงแค่ขู่ไม่เคยจูบเธอจริงเลยสักครั้ง
^^