7

1254 Words
“เป็นยังไงบ้างครับแพตตี้ ผมตั้งใจว่าถ้าวันนี้คุณยังไม่มาทำงานผมจะแวะไปเยี่ยมที่บ้าน อีกอย่างผมก็คิดถึงหนูมาลีด้วย เมื่อวานผมเจอตุ๊กตาแมวที่ศูนย์การค้าเลยแวะซื้อมาฝากเธอด้วย” “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ” สายตาลุ่มลึกของแพทย์หนุ่มมองผู้ช่วยสาวอย่างมีความหมาย ความห่วงใยที่ทอดมองหญิงสาวนั้นฉาบไว้ด้วยความลึกซึ้ง แม้แต่มิเชลก็พอจะมองออกจึงค่อยๆหลบเลี่ยงออกไปจากวงสนทนาเงียบๆ เพื่อให้คุณหมอเอริคได้มีโอกาสทำคะแนนบ้าง แต่เอริคยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับพิลาสินีก็ได้รับแจ้งว่ากำลังมีคนไข้วีไอพีเดินทางมาพบ ดังนั้นด้วยหน้าที่ของแพทย์และผู้ช่วยเธอกับเขาต่างเร่งรีบแยกย้ายเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง “แพตตี้เลิกงานวันนี้ให้ผมไปส่งนะครับ ผมจะรอกลับพร้อมกับคุณ” เขาไม่รอให้เธอตอบปฏิเสธก็รีบหันหลังกลับ สวมเสื้อกาวน์แล้วเร่งรุดกลับเข้าห้องตรวจเพื่อเตรียมการตรวจรักษา ไทเลอร์นั่งกอดอกอยู่ที่หน้าห้องตรวจของศูนย์สุขภาพชายที่ได้รับที่อยู่มาจากอีธาน เขาเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัทเสร็จแล้วจึงแวะมาหาหมอที่นี่ เขาแจ้งชื่อแล้วก็มานั่งรอตามที่เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์บอก ไทเลอร์ถอนใจ เขาอยากหายขาด ไม่อยากให้อาการป่วยมารบกวนการใช้ชีวิตอีกจึงตัดสินใจมาลองใช้บริการบ้าง แม้ว่าการรักษาที่โรงพยาบาลประจำเมืองพรอวิเดนซ์จะเห็นผลอยู่บ้าง แต่ก็อยากจะหายขาดจากโรคนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อได้ผลการันตีจากเพื่อนที่เชื่อถือได้ ก็ทำให้ไทเลอร์ตัดสินใจง่ายขึ้นที่จะลองมารักษา เสียงทุ้มต่ำของเจ้าหน้าที่เดินมาบอกอย่างสุภาพ เรียกให้ไทเลอร์ออกจากภวังค์ “คุณไทเลอร์ครับ เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดที่ห้องตรวจหนึ่งทางด้านนั้นนะครับ แล้วนอนรอที่เตียงได้เลยนะครับ อย่าลืมปลดกระดุมกางเกงออกด้วย” “ปลดกระดุมกางเกงออก หมายความว่าผมต้องเปลือยช่วงล่างใช่ไหม” “ใช่ครับ” ไทเลอร์ถอนใจ เขาไม่ได้อายแต่ก็ไม่อยากให้ใครมามองดูแล้วจับพลิกคว่ำพลิกหงายอีก เอาเถอะ ขอให้การรักษาที่นี่เป็นที่สุดท้ายเถอะ เมื่อร่างสูงกำยำเดินไปที่ห้องตรวจหนึ่งแล้ว เขาก็เปลี่ยนมาใส่ชุดคนไข้ ไม่ลืมปลดกระดุมกางเกงออกตามที่หมอสั่ง แต่เพราะเขาไม่อายแต่หมอคงอาย เจ้าหน้าที่จึงนำผ้าปิดจมูกขนาดใหญ่มาให้เขาสวม “คุณหมอกำลังมาแล้ว คุณไทเลอร์รอสักครู่นะครับ” เสียงเจ้าหน้าที่ชายบอกแล้วรูดม่านปิดก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป ไทเลอร์ได้ยินเสียงปิดประตู และเปิดประตูตามมาอีกหลังจากนั้นไม่นาน “สวัสดีครับคุณไทเลอร์ วันนี้มีอาการอะไรมาครับ” “อาการน้องชายทนนานเกินไปหน่อยครับ” คุณหมอได้ฟังก็ไม่ได้มีท่าทางตกใจ แต่กลับยิ้มบางๆอย่างเข้าใจ และทำให้ไทเลอร์มั่นใจว่าเขามาถูกทางแล้ว พิลาสินีสูดลมหายใจเข้าลึก สะกดกลั้นความหน่วงในใจที่ตีตื้นขึ้นมาเมื่อหวนคิดถึงเรื่องเก่าในอดีต เธอเป็นหญิงม่ายสามีตาย ต้องทิ้งความฝันที่จะเป็นแพทย์วิชาชีพ ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะมีชีวิตน้อยๆเกิดขึ้นในครรภ์ ชีวิตเธอมาไกลได้ที่สุดแค่ตำแหน่งผู้ช่วยแพทย์ เธอทำงานเข้าขาดีมากกับคุณหมอเอริค ชีวิตในตอนนี้ก็นับว่าเหมือนฟ้าหลังฝน ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วเธอมีงาน ยืนด้วยลำแข้งเองได้ และเธอก็ทำใจกับเรื่องที่ผ่านมาได้แล้ว “แพตตี้ คุณหมอเข้าห้องตรวจแล้ว มัวแต่ยืนเหม่อคิดอะไรอยู่” มิเชลเดินมาสะกิด พิลาสินีหลุดออกจากภวังค์ สีหน้าตื่น “คุณหมอเข้าห้องตรวจแล้วเหรอ” “ก็ใช่น่ะสิ นี่ดีนะว่าเป็นหมอเอริค ถ้าเป็นคุณหมอคนอื่นไม่เห็นผู้ช่วยเข้าไปได้โดนเอ็ดไปแล้ว” ใบหน้าสวยจัดยิ้มแหย “ฉันรู้แล้ว งั้นฉันรีบไปทำงานก่อนนะ” พิลาสินีเดินแกมวิ่งไปที่ห้องตรวจหนึ่ง พอไปถึงก็รีบผลักประตูเข้าไป ยื่นประวัติคนไข้ในมือไปวางบนโต๊ะคุณหมอหนุ่ม เอริคเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ไม่มีวี่แววของความไม่พอใจ “ผมจะออกไปตามคุณพอดี ผมไม่มีแฟ้มประวัติคนไข้เลยยังตรวจไม่ได้” “ฉันขอโทษที่มาช้าค่ะ” “ไม่เป็นไร เดี๋ยวคุณไปเปิดม่านแล้ววัดความดันให้คนไข้ก่อนเถอะ” “ค่ะ” พิลาสินีพยักหน้า ดวงตากลมโตมองไปทางเตียงคนไข้ที่มีผ้าม่านสีขาวรูดปิดไว้แล้วรีบเดินไปทำหน้าที่ของตัวเอง มือเรียวรูดเปิดม่านสีขาวให้เปิดออกฝั่งหนึ่ง เห็นผ่านๆว่ามีร่างกำยำของคนไข้นอนอยู่ก็รีบเดินไปที่โต๊ะข้างเตียง หยิบอุปกรณ์วัดความดันออกมา ผู้ช่วยสาวกำลังมีสมาธิกับงานที่ทำ ทว่าหางตาเหลือบไปมองเสี้ยวหน้าของคนไข้ที่นอนอยู่ก็ทำให้มือเรียวที่หยิบอุปกรณ์วัดความดันไว้ในมือถึงกับสิ้นไร้เรี่ยวแรง อุปกรณ์วัดความดันตกลงกับพื้น โครม! “อะไรกันแพตตี้” เสียงเอริคถามพร้อมกับเดินมาดู “ขอโทษค่ะ ฉันทำอุปกรณ์ตก” เอริคเก็บมายื่นให้แล้วสังเกตความผิดปกติบนใบหน้า “คุณไม่สบายหรือเปล่าทำไมหน้าซีดๆ” “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ” พิลาสินีตอบเอริค แต่ดวงตาอดเหลือบมองไปที่คนนอนบนเตียงไม่ได้ เมื่อครู่เธอมองเห็นร่างคุ้นตาของเขากำลังสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกำยำนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง แล้วหน้าที่ของเธอก็คือวัดความดัน และช่วยให้คุณหมอตรวจคนไข้ให้ได้รับความสะดวกที่สุดเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ เธอไม่เคยเชื่อทฤษฎีโลกกลมมาก่อน จนกระทั่งมาเจอเข้ากับตัวเอง ถึงแม้เขาจะมีผ้าปิดจมูกคาดทับใบหน้าไปกว่าครึ่งแต่แค่เพียงเสี้ยวหน้าด้านบนเธอก็จำเขาได้ ใบหน้าสวยหวานเครียดจัดแต่ต้องขยับตัวเข้าไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังหวาดกลัว ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากัน ยิ่งเห็นดวงตาที่คุ้นเคยมองมาราวกับจะจำเธอได้อย่างไม่วางตา ก็แทบหยิบจับอะไรไม่ถูก แพตตี้ ไทเลอร์ครางออกมา เขาตกใจมากเหมือนกันที่เห็นพิลาสินีที่นี่ เมื่อครู่เขาเดาว่าที่เธอทำอุปกรณ์หล่นจากมือก็คงเพราะตกใจที่เจอเขาเหมือนกัน แต่ไทเลอร์ก็เลือกที่จะเงียบเพื่อดูสถานการณ์ ร่างสูงกำยำแข็งค้างอยู่ท่าเดิม มีเพียงดวงตาสีสนิมเท่านั้นที่มองคนตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย มีคำถามและความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่ในนั้น มือที่จับอุปกรณ์วัดความดันสั่นเทา เธอเพิ่งเห็นชื่อคนไข้ที่พิมพ์อยู่ในแฟ้มประวัติ เพราะมิเชลเป็นคนไปหยิบมาให้ พิลาสินีทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าตั้งสติ แล้วหยิบผ้าปิดจมูกมาสวม เพราะหน้าที่ความรับผิดชอบทำให้เธอปฏิเสธคนไข้ไม่ได้ และต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD