หลานกับปู่

1346 Words
หมอเกรียงไกรกลับไปแล้วชานนท์ก็เปิดประตูห้องทำงานเข้าไปหาผู้เป็นปู่ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาสำหรับอ่านหนังสือริมหน้าต่าง สายตาของท่านเหม่อมองไปยังด้านนอกซึ่งเป็นลำคลองขนาดใหญ่ดูท่าทางแล้วคงกำลังเป็นกังวลอะไรบางอย่าง “ปู่ครับ” “อ้าว ตานนท์ วันนี้กลับบ้านเร็วนี่” “ก็ปู่ให้ลุงทศโทรไปตามผมกลับมาไม่ใช่เหรอครับ” “ยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยนายทศเนี่ย เลยทำให้หลานต้องเสียเวลาแทนที่จะได้ทำงานทำการ” มนตรีทำเป็นบ่นแต่เขาเองนั่นแหละที่บอกนายทศให้โทรไปตาม “เมื่อกี้ผมเจออาหมอเกรียงไกรแล้วครับ” “แล้วหมอเขาว่าไงบ้างล่ะ” “อาหมอบอกว่าปู่เป็นโรคหัวใจอะไรสักอย่างนี่แหละครับ ผมฟังไม่ถนัด แต่ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมพาปู่ไปรักษาที่อเมริกาเองรอให้ฝั่งนู้นเช้าก่อนผมว่าจะให้ยัยดาติดต่อหมอเก่งๆ ให้ ส่วนเรื่องวีซ่าผมจะให้เลขารีบจัดการให้ครับไม่เกินสามวันครับ” “ใครบอกว่าปู่จะไปรักษาที่นั่น” “ปู่ครับ ผมรักปู่มาก ผมก็อยากให้ปู่ไปรักษากับหมอเก่งๆ นะครับ หายแล้วเราก็เที่ยวกันต่อ เดี๋ยวผมจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จดีไหมครับ” “หมอไม่ได้บอกเหรอว่าห้ามขัดใจปู่” “อาหมอบอกแล้วครับ แต่เรื่องนี้ผมคงต้องขัดใจปู่” “ไม่ไปยังไงปู่ก็ไม่ไป ปู่จะรักษาที่นี่ตายก็จะตายมันที่เมืองไทยนี่แหละ” “ใครจะปล่อยให้คุณปู่ตายกันละครับ” “ถ้าอย่างนั้นก็ห้ามขัดใจปู่” “ผมยอมจะยอมทำตามปู่ทุกอย่างเลยครับ ขอแค่ปู่ยอมไปรักษาที่นั่น” “หลานจะยอมทำตามที่ปู่บอกทุกอย่างใช่ไหม” “ใช่ครับ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องไปรักษาที่อเมริกา” “เอ๊ะ ตานนท์นี่ยังไง อยากเห็นปู่ตายไวหรือไงถึงได้เอาแต่ขัดใจปู่อยู่แบบนี้” “ปู่ครับ ปู่รู้ไหมว่าผมอายุเท่าไหร่แล้ว” “รู้สิ ปีนี้หลานปู่ก็จะอายุ 30 ปีแล้ว ทำไมปู่จะจำไม่ได้ปู่เลี้ยงเรามากกว่าพ่อแม่ของเราเสียอีก” “ครับ เพราะปู่เลี้ยงผมมา ผมเลยสนิทกับปู่มากกว่าใครในบ้าน เพราะฉะนั้นผมว่าปู่เลิกแสดงเถอะครับ” “เลิกแสดงอะไรตานนท์” “ผมรู้ว่าปู่สบายดี” “หมอก็บอกไปแล้ว” ปู่มนตรีเถียง “ปู่ครับ ผมเพิ่งพาปู่ไปตรวจสุขภาพมาเมื่อสองเดือนก่อนปู่ลืมไปแล้วเหรอครับ เอาล่ะ ผมว่าเราเปิดอกคุยกันตรงๆ ดีกว่าว่าทำไมปู่ถึงทำแบบนี้” “ปู่ป่วยจริงๆ นะ” “ปู่ครับ ถ้าปู่ยังดื้อแบบนี้ผมจะกลับไปทำงานแล้วนะครับ” “ปู่อยากให้แกแต่งงาน” เพราะกลัวหลานชายจะกลับเขาก็เลยรีบบอกไปตรงๆ “แต่งงาน!!” ชานนท์อุทานด้วยความตกใจ “ทำไมแกต้องทำท่าทางตกใจขนาดนั้น อายุอย่างแกเนี่ยควรจะมีลูกมีเมียได้แล้ว ดูอย่างปู่สิ มีลูกตั้งแต่อายุ 15 พ่อแกก็มีแกตอนอายุ 20 ส่วนแกนี่มันลูกไม้หล่นในสวนคนอื่นชัดๆ คนอื่นเขามีแต่หล่นใต้ต้น” “ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งครับปู่ ที่พ่อกับปู่รีบแต่งงานมีลูกก็เพราะพ่อกับปู่เป็นลูกคนเดียวไงครับ ส่วนผมมีพี่น้องอีกตั้งสองคน แล้วตอนนี้พวกเขาก็เหลนให้ปู่แล้วด้วย ปู่จะกังวลอะไรอีก” “ปูแค่กลัวว่านามสกุลของปู่มันจะหายไป ถ้าเป็นแบบนั้นเวลาปู่ตายไปปู่คงไม่มีหน้าไปเจอบรรพบุรุษแน่ เฮ้อ!” คุณปู่ถอนหายใจ ขณะแอบเหล่ตามองใบหน้าหลานชาย “ถ้ากลัวขนาดนั้นก็ขอให้ลูกยัยตากับยัยดามาใช้นามสกุลของเราสิครับ ง่ายนิดเดียว” “หลอกคนอื่นหลอกได้ แต่มันหลอกตัวเองไม่ได้หรอกนะตานนท์” ชายสูงวัยถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อพูดเรื่องนี้เขาก็รู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาทันที แล้วไหนจะคำพูดของตามิ่งที่ว่าเขาจะไร้ทายาทสืบสกุลถ้าพ้นหกเดือนนี้ไป นั้นก็ยิ่งทำให้คิดมากขึ้นไปอีก ชานนท์เห็นสีหน้าและแววตาของท่านแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ แต่จะให้เขาแต่งงาน แล้วเขาจะแต่งกับใครที่ไหนล่ะ สาวๆ มีอยู่ตอนนี้ก็มีคุณสมบัติเหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกสักคน พวกหล่อนก็แค่คู่นอนชั่วคราวก็เท่านั้น “ปู่ครับ” “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว อยากพักสักหน่อย อยากจะกลับไปทำงานก็ไปทำเถอะ” ปู่มนตรีถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหลับตาลง ปู่กำลังงอนเขาอยู่ชานนท์รู้ดี แต่เดี๋ยวเวลาผ่านไปสักพักท่านก็คงจะดีขึ้นเอง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านอยากให้เขาแต่งงาน “ปู่ครับ ไหนๆ ผมก็กลับมาที่บ้านแล้ว ผมว่าเย็นนี้เรามาหาอะไรทำสนุกๆ กันดีกว่าไหมครับ” “ปู่ไม่ใช่เด็กๆ ปู่แก่แล้ว” ชานนท์ยิ้ม ชัดแล้วว่าตอนนี้ปู่กำลังงอนและดูท่าแล้วงานนี้คงจะง้อยากเสียด้วย “ปู่อยากให้ผมอ่านหนังสือให้ฟังไหม” “ไม่ละ เสียงแกฟังไม่รื่นหูเลยสักนิด” “อ้าว ไหนแต่ก่อนปู่บอกว่าเสียงผมเพราะไงครับ” “ก็นั่นมันแต่ก่อน” “ปู่จริงจังใช่ไหมครับเรื่องแต่งงาน” “จริงสิ” ปู่มนตรีรีบหันหน้ามาทางหลานชายอีกครั้ง “แต่ปู่รู้ว่าหลานของปูไม่ค่อยมีเวลาเลยยังไม่มีแฟน ปู่ก็เลยเตรียมสวยๆ ไว้ให้เลือกแล้วนี่ไงดูสิ หนูปิ่น ทั้งสวยทั้งเก่ง” หนูปิ่นที่ปู่ของเขาพูดถึงนั้นเป็นน้องสาวของปกป้องเพื่อนสมัยเรียนของเขา ซึ่งเขากับหนูปิ่นของคุณปู่นั้นรู้ไส้รู้พุงกันดีจึงยากที่จะแต่งงานด้วย “ปู่ครับ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าจะให้มาแต่งงานกันคงไม่ไหวหรอกครับ” “ถ้าอย่างนั้นคนนี้เป็นไง สวยเรียบร้อยดีนะ ลูกคนเล็กของคุณเรวดี” ชานนท์ส่ายหัวเขาเคยเจอเธอตามงานสังคมอยู่บ่อยๆ เจ้าหล่อนใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ละอย่างมันก็สวยอยู่หรอก แต่พอมาใส่รวมกันแล้วมันดูตลกและไม่มีรสนิยมเลยสักนิด “งั้นคนนี้เป็นไง หลานเพื่อนปู่เอง” “ปู่ครับน้องเค้กนี้ยังไม่จบชั้นมัธยมเลยนะครับผมไม่อยากติดคุก” “ก็เพื่อนปู่มันมีลูกกันช้า หลานของมันก็เลยยังไม่โตกันสักคนนะสิ” “ปู่ครับ ผมว่าเรื่องนี้ผมจัดการเองดีกว่าไหม” “จัดการเอง หมายความว่ายังไงหรือว่าแกมีแฟนอยู่แล้วแต่ไม่บอกปู่” “อันที่จริงผมมีเมียแล้วครับปู่” “อะไรนะ อย่ามาหลอกปู่เล่นหน่อยเลย” “จริงครับปู่ ผมมีเมียแล้วจริงๆ” “ลูกเต้าเหล่าใครกันล่ะ ทำไมไม่พามาให้ปู่รู้จักบ้างล่ะตานนท์” “นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมกลัว” ชานนท์ถอนหายใจ “แกจะกลัวไปทำไม ปู่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ดีเสียอีกแกมีเมียแล้วปู่จะได้โล่งใจพามาหาปู่นะ” “ปู่ครับ ที่ผมบอกว่ากลัวก็คือกลัวปู่ไม่ยอมรับเธอ เพราะเธอไม่ใช่ลูกคนมีชื่อเสียง ครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวย” “เรื่องนั้นช่างมัน ขอแค่เขายอมแต่งงานกับแกเร็วๆ ก็พอ” ปู่มนตรียิ้มอย่างมีความหวัง แต่นั่นกลับยิ่งสร้างความหนักใจให้กับชานนท์เป็นอย่างมาก ‘แล้วเขาจะไปหาผู้หญิงที่ว่ามาจากไหนล่ะ’ ชานนท์คิดในใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD