เช้าวันต่อมา...
ฤทธิ์ยานอนหลับสองเม็ดแรงเอาเรื่อง ขวัญนรียังไม่หายง่วงดี แต่ก็ต้องฝืนลืมตาตื่นอย่างสะลึมสะลือ เพราะโดนนิด สาวใช้คนสนิทของวิมาลามาปลุก บอกว่าพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ
"เรื่องอะไรเหรอคะพี่นิด"
"นิดจะไปตรัสรู้ได้ยังไงคะ ในเมื่อนิดไม่ใช่พ่อง...อุ้ย พ่อคุณของขวัญสักหน่อย" ที่นิดกล้ายอกย้อนและหลอกด่าลูกติดเจ้านาย ก็เพราะมีวิมาลาคอยให้ท้าย
"นั่นสิคะ ขวัญก็ลืมไปว่าพี่นิดเป็นแค่ คน-รับ-ใช้" ขวัญนรีสวนกลับนิ่มๆ
"นี่คุณขวัญกำลังดูถูกนิดอยู่เหรอคะ"
"เปล่านี่ ขวัญก็แค่พูดความจริง แต่ถ้าพี่นิดไม่ชอบ งั้นเปลี่ยนเป็นเรียกว่าขี้ข้า ขี้ครอกแทนดีไหมคะ"
"นิดจะฟ้องคุณผู้หญิงว่าคุณด่าคุณผู้หญิง”
“ตรงไหนคะ ขวัญยังไม่ได้เอ่ยชื่อคุณผู้หญิงของพี่สักคำ”
“โบราณว่าตีหมาก็ควรดูเจ้าของ นิดเป็นคนของคุณวิ คุณด่านิดก็เหมือนคุณกำลังด่าคุณวิด้วย"
“อ่อ ที่แท้พี่นิดก็เป็นหมานี่เอง ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ขวัญเข้าใจผิดมาตลอดว่าพี่เป็นคน”
“คุณขวัญ! ปากคอเราะร้ายเหลือเกินนะคะ”
"เชิญฟ้องเจ้านายพี่นิดได้ตามสบายเลยค่ะ ขวัญไม่กลัว" เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในวันวานอีกแล้ว สาวใช้ของวิมาลาก็ฮึดฮัดหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกจากห้องนอนเธอไป
"พอกันทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง" นิสัยดูถูกคน เชื่อเถอะว่าถ้าไม่เหลืออดจริงๆ ขวัญนรีไม่คิดจะหยิบมันมาใช้กับใครทั้งนั้น โดนกับตัวมานับครั้งไม่ถ้วน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าฟังแล้วมันเจ็บปวดแค่ไหนเวลาที่ศักดิ์ศรีถูกตีนคนพวกนั้นเหยียบย่ำ
ขวัญนรีเลิกอ้อยอิ่งแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวลงมาพบบิดาบังเกิดเกล้าที่ห้องทำงาน เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง เธอก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศมาคุ คมสันต์เงยหน้าจากหนังสือตวัดสายตามองหน้าลูกสาวดุๆ
“มัวทำอะไรอยู่ ไม่รู้รึไงว่าฉันรอ”
"ขอโทษค่ะ คุณพ่อมีอะไรจะคุยกับขวัญเหรอคะ"
"ฉันจะให้แกแต่งงานกับเขมราช"
"เขมราช? เขมราชไหนคะ" ขวัญนรีทำท่านึก
"ตำรวจที่ไปช่วยแกเมื่อคืน"
หือ เขาชื่อเขมราชเหรอ ฟังดูยิ่งใหญ่ดีจังแฮะ อยากรู้ชะมัดว่ามันแปลว่าอะไร
"ขวัญไม่แต่ง พ่อหาผู้ชายคนอื่นมาแต่งกับขวัญเถอะ" เสียงที่เขาบอกว่ามีแฟนแล้วและกำลังจะแต่งงานยังก้องอยู่ในหัวเธออยู่เลย แม้จะเข็ดหลาบกับการหาไม้กันหมาแล้ว ทว่าเขมราชก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลย ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนไม่ดีนะ เห็นโหดๆ เปิดโหมดปากหมาใส่เธอตลอดเวลาแบบนั้น ยังไงเสียเขาก็คือผู้มีพระคุณของเธอ บุญคุณท่วมหัวขนาดนี้ จ้างร้อยล้านพันล้าน เธอก็หักหลังเขาไม่ลงหรอก เขมราชควรได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก มีลูกๆ ที่น่ารัก ครอบครัวที่แสนอบอุ่น
"แกต้องแต่ง ฉันบอกทางนู้นไปแล้วว่าให้มารับผิดชอบ"
"รับผิดชอบ? พ่อพูดเรื่องอะไร ขวัญไม่เข้าใจ"
"คิดว่าฉันดูไม่ออกเหรอว่าที่แกสลบคาอกเขมราชมันเป็นเพราะอะไร แกไปนอนกับมันมาใช่ไหม"
"ไม่ใช่ ขวัญไม่เคยมีอะไรกับเขา" หญิงสาวเถียงคอเป็นเอ็น
"ไม่ต้องมาโกหก ยังไงซะฉันก็จะให้แกแต่งกับมัน ไม่เกินสองอาทิตย์แกเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลย"
"ทำไมพ่อไม่เชื่อใจขวัญบ้าง ในสายตาพ่อขวัญดูเป็นผู้หญิงใจง่ายขนาดนอนกับผู้ชายที่ไม่รู้จักได้ง่ายๆ มากเลยเหรอ” พ่อทำให้เธอผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะชินชา
"โชคยังเข้าแกที่ผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าเขม ไม่งั้นแกไม่ได้มายืนเฉียงฉันฉอดๆ อย่างนี้หรอก"
"แล้วเรื่องหนี้ล่ะคะ พ่อจะทำยังไง จะยอมปล่อยให้บ้านถูกยึดจริงๆ เหรอ เมียพ่อเขาโอเคหรือไง" เขมราชรับราชการกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ต่อให้ยศใหญ่คับฟ้า แต่เงินเดือนเขาก็ไม่ทางพอให้ครอบครัวเธอล้างผลาญแน่ๆ
"เจ้าเขมมันไม่ได้กระจอกอย่างที่แกเห็นหรอก ไม่ต้องห่วง นอกจากมันจะมีเงินใช้หนี้ให้ฉันแล้ว แกก็จะได้เสวยสุขสบายไปทั้งชาติด้วย"
อีกฟากฝั่งของบ้านบูรพาพัฒน์
"ปัง! ผมไม่แต่ง! หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่แต่ง!" เขมราชตบโต๊ะเสียงดังปัง ประกาศกร้าวอย่างไม่พอใจ เมื่อมื้อเช้าของวันนี้ บิดาบังเกิดเกล้าเริ่มต้นด้วยการเกริ่นว่าคมสันต์ต้องการให้เขาแต่งงานกับขวัญนรีเพื่อรับผิดชอบเรื่องเมื่อคืน เพราะคิดว่าเขาได้เสียกับเธอแล้ว
"แล้วมึงไปนอนกับลูกสาวเขาทำไม"
"ผมไม่ได้นอน"
"แต่ไอ้สันต์มันบอกกูว่ามึงมีอะไรกับของขวัญแล้ว"
"ลุงสันต์จะมารู้ดีกว่าตัวผมได้ยังไง"
"เกินเลยสักนิดก็ไม่มี?" ธวัชชัยจี้ต่อ คมสันต์เป็นคนฉลาด ถ้าสายตาไม่เฉียบแหลมจริง มีเหรอจะปีนป่ายขึ้นไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ได้ แล้วเรื่องผู้หญิงลูกชายเขามันเป็นสองรองใครซะที่ไหน ขวัญนรีในรูปที่คมสันต์ส่งมาให้ดูน่ารักปานนั้น ตัวจริงคงงามแฉล้มอีกหลายเท่า มันก็ต้องมีอดใจไม่ไหวบ้างแหละ
เขมราชชะงักไปที่พ่อรู้ทัน โทนเสียงเข้มกลับมาราบเรียบ "แค่สีกันจนยัยนั่นน้ำแตกเฉยๆ แต่สาบานได้ว่าผมไม่ได้สอดใส่เข้าไปแม้แต่ปลายถอก"
"บ๊ะ! อย่างนี้มันต่างอะไรกับการล่วงละเมิดทางเพศ ทำไมมึงยังมีหน้ามาบอกกูอีกว่าไม่ได้ทำอะไรลูกสาวเขา" ธวัชชัยยัวะ
"แล้วพ่อจะให้ผมทำไงวะ ยัยนั่นโดนวางยาปลุกเซ็กซ์ กำลังจะโดนไอ้เดนนรกข่มขืน ผมไปช่วยทันก็ดีถมเถแค่ไหนแล้ว แล้วยัยนั่นก็เป็นคนเริ่มก่อนด้วย จะว่าไปแล้วเป็นผมต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียหาย”
"เขมใจเย็นๆ ก่อนลูก" มณีจันทร์ปราม พ่อลูกคู่นี้เหมือนน้ำมันกับไฟ เจอกันทีไรบ้านแทบจะวายวอดทุกที สาเหตุก็มาจากที่เขมราชขัดใจคนเป็นพ่อเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยแทนที่จะเรียนบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยดังทั้งที่สอบติดแล้ว แล้วกลับมาบริหารธุรกิจโรงแรมของที่บ้าน
"คุณก็ด้วย นานๆ ที ลูกอุตส่าห์กลับมากินข้าวที่บ้าน อย่าทำให้บรรยากาศดีๆ เสียสิคะ"
"คุณก็ดูมันพูดแต่ละคำสิ เป็นผู้ชายซะเปล่า อย่าไปบอกใครเชียวว่าเป็นลูกกู”
“พ่อก็เหมือนกัน อย่าไปอวดใครนะว่ามีผมเป็นลูก”
มณีจันทร์ส่ายหัวอย่างอ่อนใจ "ที่พ่อพูดก็ถูกนะ ยังไงหนูขวัญเธอก็เป็นผู้หญิง เขมควรจะเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติน้องมากกว่านี้"
"ผมขอโทษครับ แต่ผมแต่งงานกับยัยน้องขวัญอะไรนี่ไม่ได้จริงๆ ผมมีคนที่อยากแต่งงานด้วยแล้ว เธอชื่อปรายฟ้าครับแม่ เราคบกันมาได้สามปีแล้ว"
"จริงเหรอ แล้วทำไมเขมไม่พาแฟนมาให้แม่รู้จักเลยล่ะ" มณีจันทร์ยิ้มหน้าบาน ความฝันที่จะได้เลี้ยงหลานอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว
"ผมอยากรอให้แน่ใจก่อนครับว่าจะหยุดที่ปรายจริงๆ แล้วค่อยพาเข้าบ้าน" เขาเคยเจ้าชู้ เปลี่ยนผู้หญิงบ่อย ก่อนคบหากับปรายฟ้าก็เคยคิดจริงจังกับผู้หญิงคนหนึ่ง พาเข้าบ้านตั้งแต่สามเดือนแรกที่คบกัน ทว่าสุดท้ายก็เขาก็หยุดที่เธอคนนั้นไม่ได้ จะพาผู้หญิงมาไหว้พ่อแม่ไม่ซ้ำหน้าก็กระไรอยู่
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมพาปรายมาเจอแม่นะครับ” เขมราชเล่าให้มารดาฟังต่ออีกว่าได้คุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเจอหน้าที่ว่าที่ลูกสะใภ้ เขาก็อยากให้แม่ไปสู่ขอเธอให้เป็นเรื่องราว งานแต่งจัดเร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี
“แหม ทีอย่างนี้ทำมาเป็นใจร้อน” มณีจันทร์หมั่นไส้ลูกชายเลยเอามือฟาดเบาๆ ที่ต้นแขนแกร่งไปที
"แล้วเรื่องหนูขวัญแกจะให้พ่อทำยังไง เพื่อนพ่อมันไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะ"
"เดี๋ยวผมจัดการเอง พ่ออยู่เฉยๆ ไปเถอะ" ให้ปฏิเสธคนที่เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เดี๋ยวผู้ใหญ่จะบาดหมางใจกันเปล่าๆ ในเมื่อเรื่องบ้าบอคอแตกนี้ขวัญนรีเป็นคนผูก เขาก็จะให้เธอเป็นคนแก้