1
ค่ำคืนนี้ ท้องฟ้าสีนวลด้วยแสงจากพระจันทร์เหมือนเช่นเคย สวรรค์ของคนที่รักการปาร์ตีสังสรรค์ช่วงเวลายามค่ำคืนคงแทบจะกลายเป็นเวลาทองให้พวกเขาได้ออกมาเฉิดฉาย ในขณะที่บางคนแม้ว่าไม่ได้ชอบการปาร์ตีสังสรรค์มากนัก แต่การออกมานั่งดื่ม ปล่อยตัวสบายๆ จากปัญหาที่เจอมาทั้งวันก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวเลย
และแน่นอน คนที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นบุคคลโชคร้ายแห่งปีอย่างหนุ่มหล่อ ‘ปริญ เดชะพิทักษ์’ CEO โรงแรมริเวอร์ ที่มีสาขามากกว่า 10 สาขาทั่วประเทศ ก็ต้องออกมานั่งดื่มในสถานบันเทิงเช่นกัน
ปริญเคยเป็นบุคคลที่มั่นใจในตัวเองพอสมควรโดยไม่จำเป็นต้องให้ใครบอก ถ้าพูดถึงรูปร่างหน้าตาภายนอก เขาจัดได้ว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีจัดคนหนึ่ง ผิวขาว ตี๋ รูปร่างสูงโปร่งและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งกำยำ หน้าที่การงานรวมถึงหน้าตาทางสังคมก็จัดว่าดีงามหาตัวจับยาก จนมีสาวๆ ทั้งแวดวงธุรกิจ หรือแม้แต่สาวๆ ที่พบเจอตามสถานที่บันเทิงเข้าหาไม่เคยขาด
แต่สิ่งที่ทำให้ปริญเสียความมั่นใจนั่นคือ แม้ว่าจะมีคนเข้าหามากมาย แต่ผู้หญิงที่ตัวเขาสนใจอยากคบหากล้าปฏิเสธการสานสัมพันธ์อย่างไม่มีเยื่อใย และมันไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่ CEO หนุ่มหล่อถูกผู้หญิงที่ตัวเองให้ความสนใจปฏิเสธ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาเองก็เพิ่งถูกหญิงสาวอีกคนปฏิเสธเช่นกัน ถ้าไม่เรียกว่าเป็น ‘ผู้ชายโชคร้ายแห่งปีง แล้วจะเรียกว่าอะไร…
ปริญได้แต่คิดสมเพชดวงความรักของตัวเองอยู่ลึกๆ ผู้ชายหน้าตาดี โปรไฟล์ยอดเยี่ยมแบบตนเองนี่หรือที่ถูกผู้หญิงปฏิเสธ หรือเขากำลังรับกรรมที่หักอกสาวๆ ไว้มากมายก่อนหน้านี้ที่คิดอยากจะมีใครสักคนแบบจริงจัง ชายหนุ่มดื่มบรั่นดีอย่างหนักเพื่อระบายความรู้สึกทั้งหมดหลังจากที่เพิ่งผิดหวังเสียใจจากเรื่องของ ‘เขมมิกา’ และเข้าใจเหตุผลทั้งหมดที่หญิงสาวให้สถานะเขาได้แค่พี่น้อง...
แม้จะฟังดูช่างน่าปวดร้าว ทว่าลึกๆ ปริญเองก็รู้สึกดีใจ แกมโล่งอกที่เขมมิกากับเขาไม่ได้สานสัมพันธ์ต่อกัน และนี่ก็คือสาเหตุหลักที่ทำให้ชายหนุ่มต้องมานั่งดื่มอย่างไม่คิดชีวิต เพราะว่าไม่เข้าใจความรู้สึกสับสน ลังเลของตัวเอง
ใบหน้าสวยของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่เขมมิกาลอยวนอยู่ในห้วงความคิด
“ทำไมถึงไม่มีใครแทนเธอได้สักทีนะพาย”
ปริญรำพึงกับตัวเอง ก่อนกระดกแก้วเหล้ารวดเดียวหมดราวกับต้องการย้อมใจและลบความรู้สึกโหยหาใครบางคนที่พยายามลืมเลือนมาตลอด โดยการมองหาผู้หญิงที่สวยและแตกต่างจากเธอคนนั้น แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ไม่สมหวัง แถมยังไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจที่เป็นแบบนั้น
มันคงเป็นเพราะว่า แท้จริงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาเองก็คงยังไม่ลืมเธอสินะ…
“สวัสดีค่ะ มาคนเดียวเหรอคะให้เมย์นั่งด้วยได้ไหม”
สาวสวยชุดเดรสเกาะอกสีดำ เดินใส่รองเท้าส้นสูงห้านิ้วเข้ามาทักทายด้วยความมั่นใจ แลดูมีเสน่ห์และสวยเสียจนผู้ชายหลายคนในร้านต้องให้ความสนใจ หากเป็นช่วงเวลาปกติ ปริญก็อาจจะถูกใจเธอคนนี้ แต่คงเป็นเพราะว่าตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาปกติ มันเลยทำให้ชายหนุ่มแทบไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย
“ถ้าคุณอยากนั่งก็ได้ครับ” เขายิ้มรับอย่างสุภาพ ก่อนจะถือแก้วเหล้าของตนเองทำท่าจะเดินจากไป
“เดี๋ยว! แล้วนั่นคุณจะไปไหนคะ” สาวชุดดำมองร่างสูงด้วยความตกใจ
“ก็เห็นว่าคุณอยากนั่งตรงนี้ ผมเลยจะไปหาที่อื่นนั่ง” พูดเสียงเรียบพร้อมกับเดินจากไปอย่างไม่หันไปมองสาวชุดดำอีก
ปริญรู้ดีว่าตนเองดูใจร้ายเกินไปเสียหน่อยที่ปฏิเสธสาวสวยแบบนั้นได้ลงคอ แต่ทำไงได้ ในเมื่อเขาเองไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสผู้หญิงสาวสวยได้ทุกคนเสมอไป
“บ้าจริง!” สาวชุดดำหลุดปากออกมาอย่างรู้สึกหงุดหงิด แถมเสียหน้าที่ถูกปฏิเสธด้วยการเดินหนี แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเสียดายที่ยังไม่ทันอ่อย ผู้ชายหล่อกระแทกสายตาก็ลุกหนีไปก่อน
“รับอะไรเพิ่มดีครับ” บาร์เทนเดอร์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าแขกวีไอพีอย่างปริญเปลี่ยนที่นั่งจากโต๊ะส่วนตัว มานั่งที่บริเวณหน้าบาร์แทน แถมยังทันเห็นที่ CEO หนุ่มไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่ดูท่าจะเข้ามา ‘อ่อย’ เสียด้วย
“เอาอะไรก็ได้ที่เมาที่สุด”
ปริญพูดออกไปตามจริง คืนนี้ เขาอยากจะเมาให้ลืมทุกเรื่องที่เกิดขึ้น และเช้าวันต่อมาจะต้องเป็นคนใหม่ เริ่มต้นที่จะลืมเธอคนนั้นให้ได้อีกครั้ง
“นี่ครับ”
บาร์เทนเดอร์ทำหน้าที่บริการปริญได้เป็นอย่างดี โดยจัดสรรเครื่องดื่มที่เรียกได้ว่าทำให้ปริญรู้สึกเบลอมองภาพซ้อนกันได้เพียงไม่กี่แก้วเท่านั้น
“เอามาเพิ่มอีก”
CEO หนุ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แม้จะรู้สึกมึนได้ที่แล้วแต่ด้วยความสนุก และความติดลมทำให้ยังไม่อยากจะหยุดดื่มมันตอนนี้
“ไม่ต้อง! ไม่ต้องทำเครื่องดื่มให้เขาแล้วค่ะ”
เสียงของผู้หญิงที่ปริญรู้สึกคุ้นเคยที่สุดดังขึ้น แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองคงจะคิดถึงเจ้าหล่อนมากเกินไปจนเก็บเอามาเพ้อในยามที่ร่างกายไม่มีสติแบบนี้ เธอไม่มีทางมาอยู่ตรงหน้าเขาได้จริงๆ…
ปริญยิ้มกริ่มกับตัวเอง นี่เขาคงจะเมาเอามากแล้วสินะ ถึงได้หลอนจนหูฝาดไปแบบนี้ เสียงของเธอ ยัยแม่มดตัวร้ายที่หลอกหลอนเขาอยู่ทุกคืนวัน
“พาย เธอนี่ไล่ยังไงก็ไม่ยอมออกไปจากหัวฉันจริงๆ นะ ถ้ายังยืนยิ้มให้ฉันอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวคืนนี้จับปล้ำอีกหรอก” ปริญยิ้มพรายเต็มหน้า น้ำเสียงยานคาง ดวงตาเริ่มหรี่ปรือเต็มที ทว่ายังฝืนหัวเราขบขันออกมา “คืนนี้ ฉันก็จะส่งเธอไปถึงฝั่งฝันเหมือนทุกคืนอีกนั่นแหละคนสวย”
“พูดอะไรของนายน่ะ ปริญ ฉันว่านายเมามาก และสมควรกลับไปนอนได้แล้ว มา ฉันพากลับ”
“อืม...”
ณ เวลานี้ เสียงของภาพหลอนนั้นแทบไม่เข้าหูปริญเสียแล้ว สติรับรู้ยังคงประคองร่างยืนได้แต่ก็ออกอาการโงนเงนไม่น้อย และสัมผัสได้ว่ามีใครสักคนเข้ามาประคองร่างตนเอง