อยากเป็นโรคหัวใจ

1262 Words
ตอนที่ 6 อยากเป็นโรคหัวใจ เมลินญาน์มาทำงานที่บ้านคุณยายได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว งานที่ทำก็เริ่มเข้าที่ หญิงสาวไปเก็บเงินที่ตลอดทั้งสามแห่งจากนั้นก็กลับมาทำบัญชีที่ห้องทำงาน ในระหว่างที่ทำงานนั้นคุณยายราตรีก็จะให้เธอนั่งทำงานตามลำพังและท่านจะเข้ามาชวนคุยบ้างเป็นครั้งคราวหรือบางครั้งเมลินญาน์ก็จะออกมาชวนท่านคุย หญิงสาวรู้สึกว่าคุณยายราตรีเป็นผู้ใหญ่ใจดีและเธอก็รู้สึกนับถือท่านเหมือนกับเป็นคุณยายแท้ๆ เนื่องจากตอนนี้หญิงสาวไม่มีญาติที่ไหนเลย บ่ายวันนี้หลังจากทานอาหารกลางวันแล้วเมลินญาน์ก็กลับเข้ามาทำงานในห้องเหมือนกับทุกวัน หญิงสาวกำลังมีสมาธิกับตัวเลขตรงหน้าเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ “เข้ามาได้เลยค่ะ” “เมลิน ยุ่งอยู่ไหม” “ไม่ค่ะพี่ปัท มีอะไรหรือเปล่าคะ” “ออกไปดูคุณท่านหน่อยสิ เหมือนท่านจะไม่สบายเลย” หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกมาจากห้องทำงานก็เห็นคุณยายกำลังนั่งดมยาดมและน้าประนอมกำลังพัดให้ท่านอยู่ “คุณยายเป็นอะไรคะ” เมลินญาน์ถามด้วยความร้อนใจ “ยายเวียนหัวนิดหน่อยจ้ะ” “หนูว่าไปหาหมอดีกว่านะคะคุณยาย” “น้าก็ชวนแล้วแต่คุณยายท่านไปยอมไป หนูเมลินช่วยน้าหน่อยนะ” น้าประนอมรีบฟ้อง “คุณยายคะ ทำไมถึงไม่อยากไปโรงพยาบาลล่ะคะ” “ก็ยายไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยแค่เวียนหัวแล้วก็มีใจสั่นอีกนิดหน่อย” “หนูว่าไม่หน่อยแล้วนะคะ ไปหาหมอเถอะค่ะ นะคะเดี๋ยวหนูจะไปกับคุณยายด้วย น้าประนอมคะบอกน้าเดชเตรียมรถเลยค่ะ” น้าประนอมวิ่งไปบอกสามีส่วนเมลินญาน์และปัทมาก็ช่วยกันประคองคุณยายไปที่รถ ระยะทางจากบ้านมาที่โรงพยาบาลใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีรถของคุณยายราตรีก็มาถึง “คุณยายคะให้หนูเข้าไปด้วยเพื่อนมั้ยคะ” เมลินญาน์ถามเมื่อพยาบาลหน้าห้องตรวจเรียกชื่อคุณยายราตรี “ไม่เป็นไรจ้ะ ยายเข้าไปคนเดียวได้ ถ้ามีอะไรยายจะให้พยาบาลออกมาตามนะ” “ได้ค่ะคุณยาย” พยาบาลหน้าห้องตรวจประคองคุณยายเข้าไปด้านในห้องตรวจส่วนเมลินญาน์นั้นนั่งรออยู่หน้า เธอค่อนข้างเป็นกังวลเพราะไม่รู้เลยว่าคุณยายจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า “สวัสดีครับคุณยาย” คุณหมออำนาจทักทายอย่างเป็นกันเองเขาเป็นแพทย์ประจำตัวของคุณยายราตรีมานานหลายปีซึ่งรับช่วงต่อมาจากบิดาที่ท่านเกษียณไปแล้ว “คุณยายไม่สบายตรงไหนครับ ทำไมไม่โทรให้ผมไปตรวจที่บ้านจะลำบากมาเองทำไมล่ะครับ” “ยายก็อยากจะออกมาสูดอากาศนอกบ้านบ้างสิหมอ” “คุณยายครับที่โรงพยาบาลอากาศไม่น่าสูดหรอกนะครับ ว่าแต่วันนี้คุณยายเป็นอะไรมาครับ” “ยายไม่เป็นอะไรหรอกจะหมอ” “แต่พยาบาลลงในประวัติว่าคุณยายเวียนหัว แล้วก็ใจเต้นแรงนะครับ นอกจากที่บอกพยาบาลแล้วมีอาการอย่างอื่นอีกไหมครับ” “ถ้ายายไม่บอกแบบนั้นแล้วเขาจะให้ยายเข้ามาตรวจกับหมอไหมล่ะคะ” “คุณยายหมายความว่ายังไงครับ” “ยายอยากจะให้หมอช่วยอะไรยายสักหน่อย” “อะไรครับคุณยายหรือว่ายายอยากตรวจสุขภาพชุดใหญ่เดี๋ยวผมจะดูให้นะครับว่าคุณยายต้องตรวจอะไรบ้าง แต่คุณยายเพิ่งตรวจสุขภาพไปไม่กี่เดือนเองนะครับ สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงดีทุกอย่างแข็งแรงกว่าคนอายุเท่ากันตั้งเยอะ” คุณหมอดูประวัติของคุณยายจากหน้าจอแล้วก็ถามด้วยความสงสัย “ไม่ต้องตรวจให้เสียเวลาหรอกค่ะหมอ ตอนนี้ยายป่วยเป็นโรคหัวใจ” “อะไรนะครับ คุณยายไปตรวจที่ไหนมา ผมขอฟังเสียงหัวใจหน่อยนะครับ” หมออำนาจมีท่าทางตกใจเขารีบจับหูฟังขึ้นมาจากนั้นก็ฟังเสียงหัวใจของคุณยายอย่างละเอียด “คุณยายครับเท่าที่ผมฟังดูไม่มีอะไรผิดปกติเลยแต่เพื่อความมั่นใจเดี๋ยวผมจะส่งคุณยายไปทำตรวจเพิ่มนะครับ” คุณหมออยากจะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนจะวินิจฉัย “ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอกยายไม่ได้เป็นอะไร” “แต่เมื่อกี้คุณยายบอกผมว่าเป็นโรคหัวใจ” “ยายก็แค่อยากเป็นโรคหัวใจค่ะคุณหมอ” “คุณยายกำลังเล่นอะไรอยู่ครับนี่” คุณหมอก็แค่ช่วยไปบอกหลานชายของยาย ว่ายายเป็นโรคกำลังเป็นโรคหัวใจและอาการไม่ดีเท่าไหร่ เพื่อให้เขาทำตามที่ยายต้องการ ถ้าเขาขัดใจอาการของยายจะกำเริบและเกิดหัวใจวายตายได้” “คุณยายจะทำแบบนั้นไปทำไม” “ยาก็แค่อยากให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ยายหาให้” คุณยายบอกความจริงกับคุณหมอเพราะอยากจะให้เขาช่วย “ผมขอโทษนะครับคุณยาย ผมคงช่วยคุณยายไม่ได้ มันผิดจรรยาบรรณครับคุณยาย ผมว่าคุณยายลองคุยกับหลานชายดีก่อนไหมเผื่อเขาจะทำตามที่คุณยายบอก” “ยายผิดหวังมานะที่หมอปฏิเสธแบบนี้ ยายนึกว่าที่ผ่านเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันเสียอีก แต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องแค่นี้หมอก็ช่วยยายไม่ได้” “คุณยายครับ” คุณยายราตรีทำหน้าผิดหวังและนั่นก็ทำให้คุณหมอเองก็รู้สึกหนักใจ “คุณยายกำลังบังคับผมอยู่นะครับ” “มีตรงไหนบ้างที่ยายบังคับ ยายก็แค่ขอร้อง ช่วยยายหน่อยได้ไหมคะ” “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะครับคุณยายและคนเป็นโรคหัวใจมันต้องมียานะ” “หมอก็จัดยาบำรุงแล้วก็เขียนหน้าซองให้ยายว่าเป็นยาโรคหัวใจสิ เรื่องแค่นี้ยายคิดว่าคนเก่งอย่างหมอทำได้อยู่แล้ว ยายเชื่อใจหมอ” “เอาอย่างนั้นก็ได้ เรื่องยาเดี๋ยวผมจะเอาไปส่งที่บ้านครับ แล้วจะผมโทรบอกคุณอัลเฟรโด้เลยไหม” “ถ้าจะให้โทรตอนไหนยายจะโทรมาบอกหมอนะ ขอบคุณหมอมากที่ช่วยยาย” เมื่อคุยกับคุณหมอแล้วคุณยายราตรีก็ปรับสีหน้าให้เรียบเฉยก่อนจะเดินออกมาด้านนอกซึ่งตอนนี้เมลินญาน์เดินกระวนกระวายใจอยู่ “หมอว่ายังไงบ้างคะคุณยาย” “เดี๋ยวเรากลับไปคุยกันที่บ้านนะ” “คุณยายคะแล้วไม่มียาเหรอคะ” “เดี๋ยวคุณหมอจะเอายาไปส่งให้ที่บ้านเองนะ เพราะยาที่ยายใช้ที่โรงพยาบาลนี้ไม่มีมันเป็นยาชนิดพิเศษ” “คุณยายไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ” “ไม่หรอกจ้ะเรากลับบ้านกันก่อนนะ” กว่าเมลินญาน์และคุณยายราตรีจะถึงบ้านก็เกือบจะเป็นเวลาเย็นแล้ว “คุณยายท่าทางเหนื่อยมากๆ เลยนั่งพักก่อนนะคะ” หญิงสาวพาคุณยายมานั่งที่ห้องรับแขกจากนั้นเดินเข้าไปในครัวหยิบน้ำส้มกับองุ่นที่อยู่ในตู้เย็นเอามาให้คุณยาย “ขอบใจนะเย็นนี้อยู่ทานข้าวกับยายได้ไหม” “ได้ค่ะ” เพราะเห็นว่าคุณยายไม่ค่อยสบายเมลินญาน์เลยอยากอยู่ทานข้าวกับท่านแล้วค่อยกลับบ้านตอนหัวค่ำก็ได้ ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นคุณยายราตรีนอนดูทีวีห้องรับแขกส่วนเมลินญาน์ก็นั่งอยู่บนพื้นพรมคอยนวดให้คุณยายด้วยความเป็นห่วง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD