บทที่ 5 ไม่ท้องหรอก

1472 Words
“ท้องใช่ไหม” ภิภักดิ์ลุ้นอย่างตื่นเต้น แล้วตัวเองที่ไร้เสื้อผ้าปิดบังร่างกายก็ผุดลุกขึ้นทันที โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะเห็นว่าเขาโป๊หรือเปล่า เพราะมากว่านี้ก็ทำกันมาแล้ว แต่เมื่อแย่งไปกลับเห็นมีขีดเดียว นั่นทำให้เขาค่อนข้างผิดหวัง “ไม่ท้องค่ะ” วารุณีพูดเสียงสั่นเล็ก ๆ คล้ายเสียใจทำให้เขาเริ่มจับผิดเธออีกครั้ง “บางทีที่ตรวจอาจจะไม่ใจในผล ผมว่าเราไปโรงพยาบาลกันดีกว่า” เธอคิดว่าเขาโง่หรือไง “ไม่...ไม่ต้องฉันแค่เป็นโรคกระเพาะ” เธอบ่ายเบี่ยงไม่อยากไปตรวจโรงพยาบาลก็ยิ่งชัดในคำตอบ เขาไม่บีบบังคับเธอ แต่เลือกเดินเข้าห้องน้ำ “ตามใจคุณผมล้างหน้าก่อน” เขาซื้อที่ตรวจมาหลายอัน หากตรวจทุกอันผลมันก็คงยังอยู่ เขาเดินไปในห้องนำรื้อเอาถังขยะออกมา แล้วเห็นที่ตรวจหลายอันขึ้นสองขีด แต่ว่าอันที่เธอให้เขาดูมีขีดเดียว เช่นนั้นก็ชัดเจนแล้วว่าเธอตั้งใจปกปิดเขา เขาก็จะเล่นตามน้ำไปก่อนสักสองสามวัน เมื่ออาบน้ำเสร็จเขาก็เลือกหยิบเอาเสื้อผ้าชุดเก่ามาใส่แล้วก็คว้ากุญแจรถขับออกไป นั่นทำให้วารุณีโล่งใจ “เห้อ...ไปได้สักทีเนอะ” เธอไม่อยากให้เขาต้องมารับผิดชอบเธอ เพราะเราไม่ได้รักกัน วันจันทร์เธอต้องลางานแล้วไปหาหมอ ตามที่เขาพูดไว้แต่แรก เรื่องอื่นค่อยว่ากัน และอีกอย่างเธอต้องลาออก เมื่อคิดวางแผนแล้ว เธออาบน้ำแล้วก็เดินมาทอดไข่ดาวกับเบคอนกินเป็นมื้อเช้า แม้ว่ามันจะมีกลิ่นคาวแต่ก็ต้องฝืน เพราะตัวเองคิดว่าประจำเดือนเธอก็มาบ้างไม่มาบ้าง จนลืมนึกไปว่าชายแข็งแรงอย่างเขาเชื้ออาจจะแรงแล้วเธออาจจะท้องได้ “คนบ้าอะไรคืนเดียวก็ท้อง” เธอกระเง้ากระหงอดเล็กน้อยแล้วก็เดินขึ้นเตียงไปนอนพักผ่อน ยิ่งรู้ว่าท้องร่างกายก็ต้องการนอนอย่างเดียว คนที่กลับไปจัดการบ้านในเรียบร้อย เตรียมให้เมียของตัวเองย้ายเข้ามา จัดการสั่งคนงานให้ดูเรื่องโต๊ะเตียงตู้ แล้วก็โทรหาบริษัทออกแบบให้ออกแบบห้องเด็กอ่อน แล้วก็ห้องเด็กโตไว้ในบ้าน คนงานในบ้านต่างงุนงงว่าเจ้านายไปมีลูกตอนไหน ถึงสั่งให้จัดแจงทุกอย่างราวกับว่าพรุ่งนี้ลูกชายจะคลอด “คุณอบร่ำครับ ผมอยากให้จัดงานแต่งอยากเร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนนี้ที่บ้านของผม งานเป็นแบบงานเลี้ยงเล็ก ๆ มีคนร่วมงานราว 50 คน ธีมไทย ๆ ดอกไม้สดรอบบ้านครับ” คุณอบร่ำออแกไนซ์สาวสองที่ขึ้นชื่อเรื่องเนรมิตงานแต่งได้รวดเร็วทันใจ พร้อมกับธีมงานตามเจ้าของงานต้องการ รับสายเจ้าของโชว์รูมวรภักดิ์ด้วยใบหน้าเบิกบาน ‘งานใหญ่แบบนี้รวยล่ะ’ ออแกไนซ์มือทองอมยิ้ม เมื่อจัดการทุกอย่างจนถึงตอนเย็นแล้ว เขาก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบกลางรวมทั้งของจำเป็นขึ้นรถ มุ่งหน้าไปบ้านของวารุณีทันที ‘ใครจะปล่อยให้ลูกกับเมียอยู่คนเดียว’ เขาคิดด้วยรอยยิ้ม น้ำเธอปิดฉันไม่ได้หรอกนะ ฉันกินข้าวไม่ได้กินหญ้าถึงเชื่อคำโกหกตื้น ๆ ของเธอ “ยิ่งเธอหนีฉันยิ่งตาม และยัดเยียดความเป็นสามีให้กับเธอ” วารุณีนอนหมดวันตื่นขึ้นในตอนบ่ายสาม เป็นเวลาที่แดดส่องเข้ามาในบ้าน เธอจึงเดินไปปิดม่านแล้วก็นั่งสูดยาดมหอมสดชื่น ใจมองไปที่ตู้เย็นอยากได้น้ำเย็น ๆ แต่ขาไม่อยากจะก้าวเสียอย่างนั้น แต่ก็กลั้นใจเดินไปหยิบน้ำผลไม้ที่ซื้อติดตู้ไว้ เทลงจิบพร้อมกับน้ำเย็นอีกขวด เดินมาที่โซฟา เธอยังเวียนหัวจึงล้มตัวนอนลงไปแล้วก็หลับไปอีกครั้งโดยไม่รู้ว่ามีเสียงรถของภิภักดิ์เข้ามาจอดในโรงรถ เขาเดินมาพร้อมกับกระเป๋าหนึ่งใบกับถุงอาหารที่บำรุงร่างกายของว่าที่คุณแม่ แต่เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นเธอนอนซมอยู่ที่โซฟา “ดื้อจริง ๆ” เขาบ่นแล้วก็จัดการเอากระเป๋าไปเก็บ แล้วเดินออกมาอุ่นกระเพาะปลาเจ้าดังเอามาให้เธอ กลิ่นอาหารหอมคลุ้งทำให้วารุณีลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ แล้วก็เห็นว่าช้อนที่ตักอาหารมาจ่อที่ปากแล้ว “คุณกลับมาทำไมอีก” เมื่อเธออ้าปากเขาก็ป้อนเข้าปากทันที ทำให้วารุณีพูดต่อไม่ได้จนต้องเคี้ยวมันให้หมดก่อน “ยังไม่ได้...” แล้วเขาก็ป้อนมาอีกคำ แล้วก็อีกคำเรื่อย ๆ ไม่ได้ตอบคำถามเธอ จนวารุณีคิดว่าเขาสมองกลับแล้วหรือไง ก็บอกว่าไม่ท้องยังจะมาดูแลอะไรอีก เขาไม่ต้องรู้สึกผิดหรือรับผิดชอบอะไรสักหน่อย วารุณีกินจนหมดถ้วยแล้วเขาก็ยังไม่ยอมพูดอะไร แล้วยกน้ำให้เธอดื่ม “พอแล้วฉันดื่มเองได้” “น้ำเปล่าสดชื่นดีว่าไหม” เมื่อเธอดื่มไปครึ่งขวดเขาก็แย่งมาดื่มอีกครึ่งขวดจนหมด จนตัวเองละเลยการดื่มน้ำไปนานแค่ไหนกันแล้วนะ หญิงสาวมองอย่างตื่นตะลึง เขาไม่รังเกียจว่าเป็นน้ำของเธอหรือไง แล้วยัง... “นั่นน้ำของฉันนะ” เธอเตือนเขา แต่กลับได้สายตากรุ้มกริ่มกลับมา “แล้วถ้าเป็นน้ำของคุณ ผมดื่มไม่ได้เหรอ” แววตาแบบนี้มันใช่น้ำเปล่าในมือของเขาแน่หรือ ทำไมเธอรู้สึกเหมือนความหมายลึกซึ้งกว่านั้นนะ นี่เขาต้องการอะไรกันแน่ “น้ำ...น้ำฉันอะไรเล่า น้ำเปล่าในตู้เยอะแยะ อยากดื่มก็ไปดื่มสิ” เธอหลบหน้าเขาไม่กล้าสู้หน้า แต่เหมือนคนเจ้าเล่ห์จะรู้ทันช้อนใบหน้าเธอขึ้นพร้อมกับวาจาลามก “ผมอยากยกซด...ได้ไหม” วารุณีมองบน เชื่อแล้วว่าเขาคิดอยู่เรื่องต่ำสะดือเรื่องเดียวเท่านั้น แต่ทว่าก็ช่างเขาเถอะ เธอจะทำเป็นไม่เข้าใจความหมายก็แล้วกัน “คุณกลับมาทำไมอีก ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ท้อง” “ไม่ได้ท้อง แต่คุณก็เป็นเมียผมนะ มาดูแลเมียผม ผิดตรงไหน” คำก็เมียสองคำก็เมีย นี่เขาคิดจริงจังกับเรื่องคืนนั้นขนาดนี้เชียว แล้วถ้าหากว่าเขารู้เรื่องที่เธอกำลังท้องล่ะ จะทำยังไง แค่คิดรู้สึกขมับเต้นตุบ ๆ จนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย “เรื่องคืนนั้น...แค่คิดว่าฝันไปก็พอ” “แต่มันไม่ใช่ความฝัน ผมได้เป็นผัวคุณจริง ๆ” โอ๊ย...ผัว...เมีย...นี่มันอะไรกันเนี่ย ยายน้ำเธอจะทำอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี “คุณอย่าเพ้อเจ้อ เลิกล้อเล่นได้แล้ว ฉันอยากพักขอใช้วันหยุดให้คุ้มค่าหน่อยเถอะ” เธอนอนน้อยติดกันมาหลายวันแล้ว เขาควรเห็นใจเธอบ้าง ไม่ใช่มาก่อกวนเธออยู่แบบนี้ นี่มันรบกวนกันชัด ๆ “ไม่ล่ะ ผมจะมานอนกับคุณ ในเมื่อคุณไม่สบายผมก็จะดูแลคุณเอง” หญิงสาวไล่เขาทุกทางแล้วจริง ๆ จนเชื่อได้ว่าเขาหน้าหนามาก แล้วชีวิตเสาร์อาทิตย์ที่แสนสงบของเธอถูกรบกวนด้วยเขา ทั้งบังคับเธอกินข้าว ดื่มนม แล้วก็พาเธอเข้านอนราวกับเด็ก ๆ ที่สำคัญเขาเอาเสื้อผ้ามาแขวนในตู้เสื้อผ้าของเธอโดยไม่ขอสักคำ แต่เมื่อหันกลับมาเจอสายตาวาววับเธอก็ไม่พูดอะไร กลัวจะเข้าตัวอีก เขาใช้คำว่าผัวกับเมียเปลืองมาก คล้ายสะกดจิตเธอให้รู้ว่าเขาเป็นผัวแล้วเธอจงเป็นเมียเสียเถิด จนเกือบเคลิ้มไป จนเมื่อมีสายเรียกเข้าสำคัญของเขา สายตาอยากรู้ขยับไปมองเห็นว่าชื่อที่ตั้งไว้คือหยาดฟ้าคนสวย วารุณีแบะปากให้หนึ่งทีแล้วก็ปล่อยให้มันดังจนเขามารับ “ครับ...ได้ครับ...ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้” อีกคนที่ทำเป็นอ่านนิตยสารแต่หูกลับฟังเสียงที่เขาสนทนากัน แล้วเขาก็กลับออกไป ทำเอาเธอแอบน้อยใจเล็ก ๆ “โทรมาก็ออกไปทันทีเลย” เธอหงุดโดยมีเขาคือสาเหตุแล้วก็ไม่สนใจเขาอีก...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD