ครืด!~~ ครืด!~~
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงสั่นรัว จนชายหนุ่มที่กำลังนอนคว่ำอยู่ต้องขมวดคิ้ว เขายื่นมือไปคว้าโทรศัพท์โดยที่ยังไม่ลืมตา และพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด
“ครับ”
เขานอนตะแคงแล้ววางมือถือแนบที่หู ทั้งที่ตายังหลับอยู่
{คูเปอร์ ยังไม่ตื่นอีกเหรอลูก}
คูเปอร์หรี่ตามองหน้าจอมือถืออีกครั้งอย่างหงุดหงิด
“เช้าวันหยุดของผมนะครับแม่!”
{แม่รู้ แต่แม่วานไปรับแอลลี่หน่อยได้ไหม น้าจูนโทรมาว่าน้องจะลงเครื่อง9โมง}
เขาชะงักเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น
“แล้วทำไมต้องเป็นผมละ แม่ก็ให้ปอร์เช่ไปสิครับ”
ให้เขาไปรับยัยเด็กปากดีนั่น ฝันไปเถอะ เธอจะไม่มีโอกาสได้นั่งแม้กระทั่งรถเขาแน่นอน
{เอ๊ะ!!ทำไมต้องเกี่ยงกันด้วยเนี่ย นั่นน้องเรานะ}
ปลายสายเริ่มหงุดหงิด เมื่อลูกชายไม่ได้ดั่งใจ
“เหอะ!!บอกว่ายัยนั่นเป็นน้อง เธอเคยคิดว่าผมเป็นพี่รึเปล่าเหอะ”
พูดถึงเด็กแสบนั่นทีไร เขาก็หงุดหงิดขึ้นมาทุกที
{ไม่รู้แหละ แม่รับปากน้าลีโอกับน้าจูนเอาไว้แล้ว ไม่ว่ายังไงอีก1ชม.ลูกต้องถึงสนามบิน”
เฮ้อ!!}
คูเปอร์ถอนหายใจแรง นี่มันเป็นข่าวร้ายของวันเลยก็ว่าได้ ไม่สิ ในชีวิตหาก
“แล้วผมต้องไปส่งเธอไว้ที่ไหนครับ”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วถามผู้เป็นแม่อย่างตัดรำคาญ
{ไม่ไปส่งที่ไหนหรอก พาน้องกลับคอนโดลูกเลย}
“แม่ครับ!!~~อย่าบอกนะว่าแม่จะให้เด็กนั่นมาอยู่กับผม บอกเลยนะครับ หัวเด็ดตีนขาดยังไงผมก็ไม่ยอม ทำไมต้องเป็นผมทำไมแม่ไม่ให้เธอไปอยู่กับปอร์เช่ละครับ”
คูเปอร์รีบปฏิเสธเสียงสูง อาการง่วงตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้ง แค่ได้ยินชื่อก็สยองเต็มทน
{คอนโดปอร์เช่มีแค่ห้องเดียว ของลูกสิมี2ห้องนอน น้องมาอยู่ด้วยได้สบายเลย}
“แต่แม่ครับ!!”
{แม่ตัดสินใจแล้ว น้องเรียนมหาลัยเดียวกับลูก และจะพักอยู่คอนโดลูกด้วย}
“แม่!!!ผมไม่ใช่ศูนย์รับฝากเลี้ยงเด็กนะครับ” เขาขยี้หัวตัวเองแรงขึ้น น้ำเสียงเริ่มแข็งกระด้าง
“ผมอยู่คนเดียวสบายดี แล้วก็ไม่ต้องการใครมาเดินเพ่นพ่านในพื้นที่ของผม ”
{พอเถอะคูเปอร์}
แม่รีบพูดตัดบท
{แม่ไม่ได้โทรมาขอความคิดเห็น แม่โทรมาบอก}
คูเปอร์กัดฟันกรอด หน้าตาหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีก
“ผมไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในชีวิตนะครับ แม่ก็น่าจะรู้ดี”
ทั้งสองคนเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่แม่จะพูดต่อ
{ครอบครัวของแอลลี่ไว้ใจแม่ และแม่ก็ไว้ใจลูก เรื่องแค่นี้ถ้าลูกทำไม่ได้ ต่อไปแม่จะลดเงินเดือนลูก งดโอนกำไรจากหุ้นเข้าบัญชีเงินฝาก และ}
“พอครับ ผมจะไปรับแอลลี่”
คูเปอร์ขบกรามแน่น สายตาหงุดหงิดแต่ก็จนด้วยเหตุผล
{จริงเหรอลูก แม่คิดไว้อยู่แล้วว่าคูเปอร์ไม่ใจร้ายกับน้องหรอก }
เสียงปลายสายแลดูดีใจขึ้นมาทันที จนเขานึกหมั่นไส้
“โดนบังคับครับ แม่ไม่ต้องดีใจขนาดนั้น”
คูเปอร์กลอกตาใส่โทรศัพท์
“นั่นแหละๆ ไม่ว่าตะเต็มใจหรือโดนบังคับ สุดท้ายลูกก็ยอมอยู่ดี}
“เหอะ!!เชื่อเขาเลย”
{ไฟลท์ของแอลลี่ถึงตอนเก้าโมง แม่ส่งรายละเอียดไว้ในไลน์ อย่าไปสาย}
“ครับ”
เสียงปลายสายวางไปเรียบร้อย โดยไม่มีคำลาด้วยซ้ำ
คูเปอร์โยนโทรศัพท์ลงบนเตียงอย่างแรง ก่อนจะทิ้งตัวพิงหัวเตียงแล้วพึมพำอย่างหัวเสีย
“ชีวิตสงบๆของฉัน…จะจบลงตั้งแต่เช้าวันนี้สินะ”
เขาเสยผมลวกๆอย่างนึกหงุดหงิด แต่ถึงกระนั้น
ใบหน้าที่ยังไม่แม้แต่จะอาบน้ำ ก็ยังหล่อเหลาไร้ที่ติ
สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา09.00น
คูเปอร์ในชุดเสื้อยืดสีดำแบรนด์ดัง กางเกงยีนส์สีเข้มเนื้อผ้าอย่างดี ที่ข้อมือยังมีนาฬิการาคา7หลัง สวมแว่นกันแดดสีดำอย่างเท่ สาวๆเดินผ่านไปผ่านมา ก็ได้แต่เหลียวหลังมองเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ แต่เขากลับไม่สนใจสิ่งแวดล้อมโดยรอบ นั่งก้มหน้าเล่นมือถือไม่สนใจว่าเธอจะหาเขาเจอหรือไม่เจอด้วยซ้ำ
“ตรงไหนคะคุณป้า ตอนนี้ลี่อยู่ทางออกแล้ว”
{พี่บอกว่าพี่ถึงนานแล้วนะ บอกนั่งรอตรงที่พักผู้โดยสารนั่นแหละ }
แอลลี่โทรคุยกับป้าผ้าแพร พร้อมกวาดสายตามองหาคูเปอร์โดยรอบ ก่อนจะสะดุดตากับหนุ่มหล่อที่เอาแต่นั่งเล่นมือถือไม่สนโลก อยู่ที่มุมหนึ่งของที่พักผู้โดยสารขาออก
“เฮ้อ!!เจอแล้วค่ะคุณป้า ขอบคุณมากนะคะ”
แอลลี่กัดฟันกรอด นี่มันวิธีมารับคนของเข้ารึไง
ยังอยากแกล้งเธอไม่เลิกใช่ไหม
“นายรอฉันตรงนี้ก่อนนะองศา”
แอลลี่พูดพลางขมวดคิ้วแน่น ก่อนรีบสาวเท้าไปยังร่างสูงที่เธอจำได้แม่นว่าใช่แน่ๆ
เสียงรองเท้ากระแทกพื้นดังกึกๆ ทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น
ตึก ตึก ตึก
คูเปอร์เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่ามีคนมายืนตรงหน้า
แล้ววูบหนึ่งของสายตาเขาก็ชะงัก แค่ไม่เจอกัน2ปีเธอเปลี่ยนไปมาก
หน้าสวยเฉี่ยวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ชุดเรียบแต่ดูดี ผมมัดหลวมๆรับกับรูปหน้า
เธอสวยและดูเป็นสาวเต็มตัวแล้ว
แต่แค่วูบเดียวเท่านั้น
เพราะคำพูดแรกจากเธอ ก็ดึงเขากลับมาสู่ความจริง
“มารับคน ก็ควรยืนรอไหม ”
แอลลี่ยืนกอดอก แล้วถามเขาด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงวีน
“ก็เจอแล้วนี่ไง บ่นอะไรนักหนา”
เขาเลิกคิ้วสูง ถามเธออย่างไม่ใส่ใจ
“เพราะฉันเดินวนอยู่สามรอบแล้วต่างหาก”
ยิ่งเห็นคูเปอร์ไม่เดือดไม่ร้อนอะไร แอลลี่ก็ยิ่งหงุดหงิดเป็นเท่าตัว
คูเปอร์พ่นลมหายใจ ก่อนมองเธอด้วยหน้ากวนๆ
“ก็ไม่ได้อยากมารับหรอก แม่สั่ง”
“แล้วฉันอยากให้พี่มารึไงล่ะ”
เธอสวนทันควัน
คูเปอร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
มองเธอด้วยสายตาที่รำคาญ
“แล้วจะกลับปะ รึจะยืนบ่นตรงนี้ให้คนมอง”
แอลลี่หันไปมองรอบๆ ก็มีคนมองอย่างที่เขาพูด
“กลับสิ แต่ทีหลังถ้าพี่ไม่เต็มใจ ก็บอกคุณป้าไปตรงๆก็ได้หนิ ฉันกลับเองได้”
เธอยังวีนเขาไม่หยุด
“ บังเอิญฉันเป็นลูกชายที่ดี เลยไม่อยากขัดใจแม่”
เขาพูดพร้อมเดินนำเธอออกไป ไม่สนใจว่าเธอจะลากกระเป๋าใบใหญ่ และยังมีใบเล็กอยู่อีก
“เดี๋ยวสิ!! ให้เพื่อนฉันไปด้วย องศายังไม่มีที่อยู่เลย”
แอลลี่รีบเรียกเขาไว้ ฝีเท้าหนักหยุดชะงักทันที
ก่อนหันกลับไปมององศา ผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีที่เธอบอกว่าเป็นเพื่อน