แพขนตางอนยาวขยับเคลื่อนไหวราวกับปีกของผีเสื้อ เปลือกตาสีไข่มุกลืมขึ้นแม้ว่าผู้เป็นเจ้าของจะยังอยู่ในอาการง่วงงุน
แรงสั่นจากโทรศัพท์ทำให้มือขาวปัดป่ายไปมาข้างตัวอย่างนึกรำคาญ บลูพรูลมหายใจออกมาเมื่อแรงสั่นนั้นหายไป เขาหลับตาลงอีกครั้ง พร้อมจมสู่ห้วงนิทราแสนหวานอีกหน แต่ทว่า…
“อื้อ”
คนตัวเล็กครางเครือในลำคอด้วยความรำคาญ เขาได้นอนยังไม่ถึงห้าชั่วโมงด้วยซ้ำเพราะเมื่อวานกลับบ้านไปทานข้าวกับครอบครัว ถึงแม้ว่าบลูจะแยกออกมาอยู่คอนโดเพราะมันเดินทางไปมหาวิทยาลัยสะดวกกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังกลับไปทานข้าวกับพ่อแม่บ่อยๆ ดังนั้นบลูเลยตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะนอนจนถึงบ่าย ไม่คิดว่าต้องมาถูกปลุกให้ตื่นเพราะแรงสั่นของโทรศัพท์แบบนี้เลย
ครืด~
บลูยกมือขึ้นนวดขมับน้อยๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยายามควานมือหาเจ้าโทรศัพท์เครื่องสีขาว จนสุดท้ายก็ได้มันมาอยู่ในมือจนได้ มีแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับจากพี่วุ้นถึงสามสาย โดยปกติเรามักจะแชตหากันมากกว่า หากโทรมาแบบนี้บางทีอาจจะมีเรื่องด่วน เรียวนิ้วสวยขยี้ตาเล็กน้อย เพื่อหวังว่ามันจะขับไล่ความง่วงงุนให้ออกไปได้ บลูเตรียมจะกดโทรกลับหาพี่วุ้น ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายรัวแชตเข้ามาหากันเสียก่อน
“หืม?”
w: ยัยคนสวยทำไมไม่รับโทรศัพท์เจ๊ล่ะลูกกก T^T
w: มีลูกค้าด่วน เขาบอกว่าขอคนที่หน้าเหมือนแมวที่สุดในสังกัดเจ๊ แล้วที่สำคัญขอคนที่ดื้อๆ หน่อย มันก็ต้องเป็นหนูเท่านั้นแหละลูก แค่งานกินข้าวๆ ไม่มีนอกเหนือจากนี้ เขาเสนอเงินมาหกหลัก!
blue: แล้ว?
w: เจ๊เคาะให้เป็นบลูนะ เพราะคนอื่นไม่ตรงตามรีเควสต์เลย งานง่ายเงินดี ที่เจ๊รีบโทรหาเพราะอันนี้งานเร่ง งานแทรก งานด่วน!!
w: งานเริ่มเที่ยงนี้
บลูกะพริบตาปริบๆ อ่านทวนแชตของพี่วุ้นอีกรอบ น้อยมากๆ ที่จะมีการแทรกคิวเกิดขึ้น หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะงานนี้มีข้อเสนอเป็นเม็ดเงินหกหลักแลกกับการไปเป็นเพื่อนกินข้าว บลูไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็จริง เขาจะปฏิเสธงานนี้ก็ได้ แต่ว่านะ… ไหนๆ ก็ตื่นมาอ่านแชตพี่วุ้นแล้ว เขาคงหลับต่อไม่ได้แล้วล่ะ
Rrr Rrr
อาจจะเป็นเพราะบลูไม่ยอมตอบแชตพี่วุ้นสักทีซ้ำยังกดอ่านแชตเรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายเลยโทรมาเสียเลย
[บลูเอ้ยยยยย]
“ว่าไงคะ”
[หนูอ่านแชตแล้วทำไมไม่ตอบเจ๊ ใจเจ๊จะขาด เงินหกหลักเลยนะ อีกอย่างไม่มีใครหน้าเหมือนแมวเท่ายัยคนสวยตัวท็อปของเจ๊แล้ว]
บลูเบ้ปากเพราะพี่วุ้นอวยกันเกินไป แบบนี้คนในสังกัดพี่วุ้นจะหมั่นไส้เขาไหมนะ พวงแก้มนุ่มแนบลงยังหมอนใบโต แว่วเสียงของพี่วุ้นจากโทรศัพท์ไม่หยุด อวยเก่งจริงๆ
“ลูกค้าหล่อไหม”
ข้อตกลงในการรับบริการลูกค้าของบลูหลักๆ เลยคือหน้าตา
ก็เขามารับจ้างเป็นอีหนูเพราะอยากแซ่บกับพี่ผู้ชายสุดหล่อไง อ้อ อีกข้อที่สำคัญเลยคือลูกค้าที่รีเควสต์บลูต้องไม่มีพันธะใดๆ ด้วย ไม่ใช่มีเมียอยู่แล้วยังจะมาแกว่งจู๋หาเย็ดไปทั่ว แบบนี้ไม่ไหว ชอบพี่ชายแท้ที่ไม่มีสันดานชายแท้ค่ะ
[เขามาจ้างให้เราไปกินข้าวเป็นเพื่อนของเพื่อนเขาอีกทีอ่า แต่คนมาจ้างหล่อมาก เจ๊รู้จักๆ]
เป็นทุกที่ไหมนะที่แก๊งพี่กะเทยมักจะรู้จักแทบทุกคนราวกับถือทะเบียนราษฎร์ในมือ ยิ่งคนหล่อๆ ยิ่งไม่มีทางหลุดรอดสายตาไปได้ แต่เทสต์พี่วุ้นดี ถ้าพี่วุ้นบอกว่าหล่อ
[ส่วนเพื่อนเขาที่หนูต้องไปกินข้าวด้วยก็หล่อ เห็นหน้าไม่ชัดแต่หล่อแบบกะเทยกรี๊ด เดี๋ยวเจ๊ส่งรูปกับรายละเอียดให้ในแชตนะ ถ้าหนูโอเค หนูตอบเจ๊แบบด่วนๆ จุ๊บๆ ยัยคนสวย]
ก็คงจะหล่อจริงๆ
สายตัดไปแล้ว บลูพลิกกายขึ้นนอนหงาย ใช้เท้าถีบผ้าห่มผืนหนาออกจากกาย แล้วเพียงแค่เขากะพริบตาไม่กี่ครั้ง ก็มีแจ้งเตือนแชตจากพี่วุ้น บลูใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์แล้วกดเข้าไปยังหน้าแชตของคนที่เพิ่งคุยโทรศัพท์กันเมื่อกี้
มีข้อมูลของลูกค้าที่ติดต่อมาว่าต้องการให้บริการด้านใดบ้าง รวมถึงรูปของลูกค้าที่บลูต้องไปให้บริการ ถ้าเขาตอบตกลงรับงานนี้
ริมฝีปากสวยขบเม้มแน่น ดวงตากลมโตสีน้ำตาลวูบไหวทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ เป็นอย่างที่พี่วุ้นบอกจริงๆ รูปที่ส่งมาในแชตเห็นหน้าอีกฝ่ายไม่ชัดเจน เหมือนเป็นรูปที่ถูกแอบถ่ายอย่างรีบๆ จนกล้องสั่น แต่ถึงอย่างนั้นก็พอจะเดาออกว่าเป็นผู้ชายรูปร่างดี เหมือนพวกนายแบบเลยด้วยซ้ำ ไหล่และแผ่นหลังกว้างมากๆ เสี้ยวหน้าด้านข้างที่เห็นไม่ชัดนั้นทำเอาบลูใจสั่นเล็กน้อย
เรือนกายบอบบางลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะใช้นิ้วซูมดูบางอย่างให้ชัดๆ
“พี่หมาป่าเหรอ”
เขาเอ่ยเสียงแผ่วเบา ปกติถ้าไม่เห็นหน้าลูกค้าบลูจะไม่รับงานเลย แต่พ่อหมาป่าคนนี้น่าสนใจชะมัด ดวงตากลมจดจ้องแผ่นหลังกว้างที่สักรูปหมาป่าเอาไว้
blue: หนูรับงานนี้ค่ะพี่วุ้น
บ้านหลังสีขาวสองชั้นขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากคือสิ่งที่อยู่ในสายตาบลูตอนนี้ เขาก้มลงดูที่อยู่ที่พี่วุ้นส่งมาในแชตอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ อืม ก็ถูกแล้วนะ แต่ทำไมบ้านเงียบจัง
จากข้อมูลที่ได้รับคือคนที่ติดต่อมาต้องการจ้างใครสักคนที่หน้าเหมือนแมว นิสัยดื้อๆ มาเป็นเพื่อนกินข้าวของเพื่อนเขาอีกที พี่วุ้นบอกว่าถ้าถึงที่หมายแล้วให้กดกริ่งหน้าบ้านได้เลย
มือขาวเอื้อมไปกดกริ่งบริเวณประตูรั้วหนึ่งครั้ง ยืนรออยู่เกือบห้านาทีเมื่อเห็นว่าไม่มีใครออกมาเขาจึงเอื้อมมือไปกดมันอีกครั้ง และครั้งนี้มันได้ผล