ห่วงสวัสดิภาพไข่

1378 Words
พรึ่บพับ! พรึ่บพับ! "เฮ้อ~" ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเปลี่ยนเวลาเข้านอนเพื่อปรับสมดุลร่างกายให้ดีขึ้นจากอาการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ปาเข้าไปตีหนึ่งแล้วมิเชลก็ยังข่มตาหลับลงไม่ได้ "ทำไมการเข้านอนเร็วมันยากเย็นแสนเข็ญอย่างนี้เนี่ย" ร่างสวยในชุดนอนผ้าซาตินบางเบาเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปโกรทฮอร์โมนไม่มีโอกาสได้หลั่งแน่ๆ โครกคราก~ แต่สักพักก็เจอสาเหตุของการนอนไม่หลับ เมื่อเสียงท้องร้องคำรามดังขึ้นอย่างน่าหงุดหงิด สุดท้ายก็ต้องจำนนต่อเหตุผลที่ว่า หิว จนได้ "พรุ่งนี้ค่อยลดก็ยังทัน" เธอบอกตัวเองเป็นการปลอบใจ อันที่จริงมิเชลไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเลยสักนิด แต่เมื่อหลายวันก่อนถูกทักว่าจ้ำม่ำขึ้นเลยรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง โดยเฉพาะคนที่ทักคือคนเดียวกันกับคนที่เธอแอบชอบมาตั้งหลายปี เมื่อไม่มีอะไรยับยั้งความหิวของเธอได้ เจ้าของหุ่นทรงลูกแพร์ก็ย่างกรายเข้าไปในครัวของคอนโดหรูทันที บรรยากาศด้านนอกกำลังมีฝนตกปรอยๆ ถ้าได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนๆ สักถ้วยก็ไม่เลวเหมือนกัน แม้ในสมองจะบอกว่ามันโซเดียมสูงแค่ไหนก็เถอะ แต่ถ้าได้กิมจิมาเพิ่มนะ โซเดียมสูงแค่ไหนก็ยอมพลีชีพ ท่าพิลาทีสมีในหัวตั้ง12ท่ามีอะไรให้กลัวกันแค่พุงย้อย ทว่าพอเปิดตู้ลอยออกมากลับไม่พบของที่ต้องการเลยสักกล่อง "อ้าว~ หมดตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เอาไงดีทีนี้" เปิดตู้ค้างอยู่อย่างนั้นพลางใช้ความคิด สักพักก็ปิดมันเอาไว้ตามเดิมจากนั้นก็เดินไปหยิบโทรศัพท์และคีย์การ์ดของห้องข้างๆ ด้วยความเคยชิน ฟังไม่ผิดหรอก เพราะห้องข้างๆ เป็นห้องของแทนไท เพื่อนสนิทของเธอเอง ถึงแม้หมอนั่นจะมาพักแค่อาทิตย์ละวันสองวันแต่ในห้องของเขามีของกินเยอะกว่าร้านขายของชำเสียอีก แกร๊ก! "ขอโทษนะเฮีย หนูจำเป็นต้องทำจริงๆ กระเป๋าตังค์ๆ อยู่ไหนเนี่ย" แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องออกไปมิเชลก็พบกับหญิงร่างบางในชุดเดรสสีแดงสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง เธอคนนั้นกำลังทำบางอย่างกับแทนไท ซึ่งชายหนุ่มหมดสตินั่งพิงอยู่กับประตูห้อง ส่วนแม่คนนั้นกำลังรื้อค้นกระเป๋าสตางค์ของแทนไทอย่างลุกลี้ลุกลน "นั่นเธอจะทำอะไรเพื่อนฉัน หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!" "ว้าย! หนูปะ...เปล่านะคะ หนูแค่หาคีย์การ์ดแล้วจะพาเฮียไปขึ้นสวรรค์" สาวชุดแดงตัวสั่นงันงก โดยที่มือของเธอนั้นยังถือกระเป๋าสตางค์ของแทนไทอยู่ มิเชลก้าวขาฉับๆ ไปประชิดตัวเธออย่างรวดเร็ว รีบคว้าข้อมือเล็กของหล่อนเอาไว้จากนั้นก็ล้วงเข้าไปในหน้าอกของเธอ พรึ่บ! "แล้วนี่อะไร" ธนบัตรสีเทาหลายใบถูกกระชากออกจากชุดชั้นในของผู้หญิงชุดแดง ทำเอาอีกฝ่ายหน้าซีดเผือดเมื่อถูกจับได้คาหนังคาเขา "นะ...นี่เงินหนูนะ เอาคืนมา" เธอพยายามยื้อแย่งแต่พอเห็นมิเชลทำหน้าดุใส่ก็ไม่กล้าต่อสู้อีก "ฉันเห็นหมดแล้วย่ะ นี่หล่อนไม่แหกตาดูเหรอยะว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดกี่ตัว ถึงได้กล้าทำกับคนเมาแบบนี้ ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับเธอข้อหาลักทรัพย์เพื่อนฉัน" กดโทรศัพท์โทรออกหาตำรวจที่รู้จักทันที "ยะ...อย่านะคะคุณผู้หญิง อย่าแจ้งตำรวจเลยนะคะ หนูทำไปเพราะจำเป็นจริงๆ" เด็กสาวทรุดลงกอดขามิเชลอีกทั้งร้องห่มร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ดีที่ชั้นนี้มีเพียงห้องพักของเธอกับแทนไทไม่อย่างนั้นลูกบ้านคนอื่นคงได้แตกตื่นกันกลางดึก มิเชลกลอกตาเซ็งๆ แล้วสะบัดเรียวขาออกอย่างแรง แต่เด็กนั่นยังไม่ยอมปล่อย "แม่ของหนูกำลังป่วยบ้านก็ถูกยึดหนูต้องการหาเงินไปรักษาแม่เลยมาทำงานกับพี่มิ้วกี้ จริงๆ นะคะ หนูขายจริงๆ แต่...แต่..." "แต่อะไรยะ!" มิเชลตวาดเสียงดังพร้อมลดโทรศัพท์ลงเพราะเธอวางสายไปก่อนที่ตำรวจจะรับสาย ดูจากอายุเด็กคนนี้แล้วไม่น่าจะเกิน18ปี ทำไมกล้ามาทำงานแบบนี้ ไอ้คนที่มันเมาหมดสภาพอยู่นี่ก็ยังไง จับไปไม่มีหางก็จะเอามาระบายราคะหมดเลยงั้นเหรอ มันน่าจับตัดตอนนัก ตอนนี้มิเชลเหมารวมไปหมดไม่รู้จะโมโหให้ใครกันแน่ระหว่างเด็กขายบริการหรือแทนไท "หนูไม่กล้าค่ะ นี่เป็นครั้งแรกหนูกลัวเลยมอมเหล้าเฮียจนกลายเป็นสภาพแบบนี้ ตั้งใจจะพาเฮียมาส่งแล้วแอบหนีไปเลย แต่..." "แต่เห็นว่าเพื่อนฉันเมาเลยจะรูดทรัพย์เขาใช่มั้ย" "ก็หนูกลัวไม่ได้ค่าตัวนี่คะ" เธอเอ่ยด้วยน้ำตานองหน้า "เธอมันพวกมิจฉาชีพชัดๆ เห็นทีจะปล่อยไว้ไม่ได้ซะแล้ว" "น่ะ...นั่นคุณจะทำอะไร โทรหาตำรวจไม่ได้นะ" รีบกอดขามิเชลอ้อนวอนไว้อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยกโทรศัพท์ขึ้นกดหาอะไรบางอย่าง "ก่อนจับส่งตำรวจฉันต้องโทรหายัยมิ้วกี้นั่นก่อน แล้วไปร้องสคบ. ข้อหาเอาเปรียบผู้บริโภค" "อย่านะคะหนูขอร้อง ไม่อย่างนั้นพี่มิ้วกี้ต้องให้คนมาฆ่าหนูแน่ๆ แล้วแม่ของหนูจะอยู่กับใคร ฮือ..." เด็กสาวก้มลงกราบเท้าของมิเชลพลางร้องไห้ไม่หยุดจนคนถูกกราบตกใจ เอาจริงมิเชลแค่จะขู่ไม่ได้จับกุมเอาไว้ ไม่คิดว่าเด็กนั่นจะกลัวขนาดนี้ แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะหลบหนีอีก "อายุเท่าไหร่แล้ว เอาบัตรประชาชนมาดูซิ! " เด็กสาวรีบเปิดกระเป๋าสะพายข้างแล้วหยิบบัตรประชาชนออกมายื่นให้มิเชลทันที "นี่จ้ะ" "อายุสิบเก้าย่างยี่สิบ งานมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่รู้จักไปหาทำ มาขายตัวทำไม" เห็นอายุแล้วมิเชลยังตะคอกใส่ด้วยความโมโห "หนูไม่ได้มีทางเลือกขนาดนั้นหรอกค่ะ คิดว่าทำอะไรแล้วได้เงินเร็วๆ ก็ทำเลย ฮึก! พี่สาวอย่าบอกพี่มิ้วกี้เลยนะคะ อย่าแจ้งความด้วย" คุกเข่ายกมือไหว้มิเชลด้วยน้ำตานองหน้าไม่หยุด "ฉันไม่บอกก็ได้แต่ต้องยึดบัตรเธอเอาไว้ก่อน ถ้าพรุ่งนี้เพื่อนฉันตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีอะไรหายไปมากกว่าเงินสามพันในกระเป๋าฉันตามไปกระทืบเธอถึงคลับยัยนั่นแน่" "ละ...แล้วหนูจะติดต่อขอรับคืนได้เมื่อไหร่คะ หนูต้องใช้ตอนไปทำงานพิเศษต่อนะ อีกอย่างหนูยังไม่ได้เอาอะไรเฮียไปด้วยซ้ำ" "ใครจะไปเชื่อผู้หญิงอย่างเธอ ยังไงก็ต้องยึดไว้ก่อน เพราะถ้าเกิดเพื่อนฉันฟื้นขึ้นมาแล้วไข่แหว่งไปใครจะรับผิดชอบ" "มันจะแหว่งได้ยังไง หนูยังไม่ได้จับหรรมเฮียเลยด้วยซ้ำ พี่ก็ห่วงสวัสดิภาพหรรมเฮียเกิ๊น" "ไม่รู้ล่ะ เอาไว้ตรวจสอบแล้วถ้าเพื่อนฉันปกติฉันจะเอาบัตรนี่ไปฝากไว้กับนิติข้างล่างให้ก็แล้วกัน ไสหัวกลับไปได้แล้ว! ไป!" "ค่ะๆ" เด็กสาวลุกขึ้นจากนั้นก็รีบวิ่งไปเข้าลิฟต์ทันที ทิ้งเอาไว้เพียงมิเชลที่ยืนหอบหายใจด้วยความโมโหและแทนไทที่เมาจนไม่ได้สติ สุดท้ายก็เป็นเธอที่หิ้วปีกแทนไทเข้ามาในห้อง ดีที่เขายังพอมีสติลุกเดินได้บ้าง แต่กว่าจะลากกันเข้ามาได้ก็เซล้มหน้าฟาดพื้นไปหลายที "จะตายไหมเนี่ยแทน เมาเหมือนหมาขนาดนี้ มีเรื่องทุกข์ใจอะไรหนักหนา ถึงได้ทำร้ายตับไม่เว้นแต่ละวัน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD