“แต่แม่ของคุณคงรับได้สินะถ้าเป็นเรื่องของเรา”
วิคเตอร์ถือโอกาสนั้นวาดวงแขนโอบไหล่บางของหญิงสาว อิงธารหน้าตื่นเมื่อแขนแกร่งตวัดโอบไหล่บางและดันตัวหล่อนจนชิดตัวเขาอีกครั้ง แววตาของวิคเตอร์ตอนนี้ทั้งน่ากลัวและคุกคามด้วยสายตา ที่มองหล่อนเหมือนขนมหวาน หญิงสาวเย็นวาบและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ถึงเขาจะร้ายกาจแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามหาเศรษฐีหนุ่มผู้นี้มีอะไรบางอย่างสะกดความรู้สึกของหญิงสาวแม้เพียงชั่วเสี้ยววินาทีหากก็ทำให้หล่อนเริ่มหวั่นไหวอย่างประหลาด
ไม่นะอิงธาร!
ให้เขาหล่อ ให้เขารวยแค่ไหนแต่หล่อนต้องเตือนสติตัวเองไว้ว่าลมหายใจของวิคเตอร์มีแต่ความเคียดแค้นและเอาคืนเท่านั้น หญิงสาวแค่นเกร็งปากเป็นรอยยิ้ม
“มะ...ไม่จะเป็นต้อง...กอดฉันแบบนี้ก็ได้ค่ะ แม่อาจจะรู้สึกแปลก ๆ ถ้าจู่ ๆ มีผู้ชายที่ท่านไม่รู้จัก...แสดงความรักกับลูกสาวของท่านแบบโจ่งแจ้ง”
“อีกหน่อยท่านจะชิน และแม้แต่คุณก็ต้องทำใจให้ชินถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การแสดง แต่ผมว่าเราน่าจะลองซ้อมกันให้ชินมากกว่านี้ก่อนไปพบท่าน”
“ไม่ต้อง...”
ก็ได้...คำสุดท้ายหลุดหายไปในลำคอเพราะวิคเตอร์ปิดปากหล่อนด้วยปากร้อน ๆ ของเขาอีกครั้ง ลิ้นหนาจาบจ้วงสู่โพรงปากเล็กที่ปิดลงไม่ทัน เขาฉวยโอกาสจูบหล่อนเป็นหนที่สองแต่คราวนี้อิงธารกลับเกร็งตัวนิ่งในอ้อมแขนของชายหนุ่มที่เปลี่ยนจากโอบไหล่เป็นกอดรัดร่างบอบบางจนแน่น หล่อนตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือร่างกายที่เริ่มอ่อนเปียกลงเหมือนขี้ผึ้งถูกไฟลน หล่อนเป็นอะไรไป...แทนที่จะตัวแข็ง แทนที่จะทำเหมือนไม่อยากรับรู้สัมผัสจาบจ้วงไร้มารยาทของผู้ชายแปลกหน้าที่อ้างตัวว่าจะมาเอาเรื่องพี่สาวแต่กลับนั่งนิ่งให้เขาจ้วงจูบหนแล้วหนเล่า และพอเขาถอนปากออกอิงธารก็ยังตกอยู่ในภวังค์ หล่อนคุมสติเกือบไม่อยู่จนเห็นนัยน์ตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นที่จ้องหล่อนนิ่งและเขากำลังจะก้มหน้าลงมาอีกหน
“พะ...พอแล้วค่ะ!”
หญิงสาวป้องปากเขาไว้ด้วยมือเรียวบาง หล่อนกำลังตกอยู่ในอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างตระหนกและตื่นเต้น วิคเตอร์จูบฝ่ามือของหล่อนที่แนบบนปากเขา อิงธารดึงกลับแทบไม่ทัน หล่อนนิ่วหน้า
“คุณนี่มันฉวยโอกาส พวกคนรวยไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือยังไงกันคะ”
“ผมแค่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับคุณเท่านั้น ทำให้ชินว่าเราสองคนน่ะ...”
“แม่ฉันอยู่ข้างในค่ะ”
อิงธารเปลี่ยนเรื่องแต่พวงแก้มสีระเรื่อของหล่อนที่แดงก่ำมากขึ้นไม่อาจปกปิดความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้ได้เลย เพราะมันมีทั้งความอับอายและเขินอาย ก็หล่อนไม่เคยถูกผู้ชายจูบ หนำซ้ำวิคเตอร์ยังเป็นคนแปลกหน้าเสียด้วย ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเครียดขรึมอีกครั้ง เขาทำเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่อิงธารไม่อาจหยั่งเห็น และในเวลานั้นหล่อนก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก ร่างสูงคลายวงแขนให้ร่างน้อยเป็นอิสระแต่เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถอิงธารกลับรั้งแขนเขาไว้
“วิคเตอร์...เมื่อกี๊คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยนะคะ”
“หืมม์...บอกอะไร”
“คุณยังไม่ได้รับปากฉันเรื่องแม่ คุณต้องไม่บอกท่านเรื่องพี่อร”
“คุณอยากให้ผมรับปากคุณเรื่องนั้นน่ะหรือ...ก็ได้...แต่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกันหน่อยระหว่างข้อตกลงของเรา”
อิงธารย่นคิ้ว “คุณอยากได้อะไร อยากให้ฉันทำอะไรบอกมาเถอะค่ะ”
“ห้ามปิดบังผมถ้าหากว่าเอ็มม่าติดต่อมาเมื่อไหร่ คุณต้องรายงานให้ผมรู้ทันที”
“คุณจะไม่ทำอะไรพี่สาวฉันใช่ไหมคะ?”
“ผมไม่รับปากเรื่องนั้น ตอนนี้ผมแค่อยากรู้ว่าเอ็มม่าอยู่ไหน ผมต้องการให้เธอชดใช้เงินทั้งหมดที่เธอเอาไปจากผม และการที่ผมทำอย่างนี้เพราะผมแน่ใจว่าพี่สาวของคุณต้องกลับมาหาครอบครัวไม่วันใดก็วันหนึ่ง เธอมักพูดถึงครอบครัวและแม่ของเธอเสมอ”
“จริง ๆ แล้วคุณรู้เรื่องของพวกเราดี”
“เพราะผมเคยสนิทกับเอ็มม่า”
“พวกคุณคงเป็น...แฟนกันมาก่อนก่อนสินะคะ”
“แค่คนรู้ใจ”
“คนเรามักโกรธแค้นคนที่ตัวเองรักเสมอถ้าถูกทรยศ”
“ขอโทษนะเอ็มมี่...ผมใช้คำว่าคนรู้ใจไม่ใช่คนรัก”
เสี้ยววินาทีหลังฟังคำตอบนั้นทำให้อิงธารเกิดควมารู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ มีอะไรบางอย่างที่หล่อนสงสัยว่าวิคเตอร์เก็บกักมันไว้ จากคำพูดของเขาที่เริ่มเปิดเผยความจริงออกมา
คนรู้ใจอย่างนั้นหรือ
เขาตามอิงอรมาถึงที่นี่อาจไม่ใช่ด้วยเหตุผลอิ่นใด วิคเตอร์กับพี่สาวของหล่อนอาจไม่ได้แค่มีสัมพันธภาพระหว่างกันในเรื่องธุรกิจ ทั้งคู่อาจเคยรักกันและเขากำลังโกรธแค้นที่ถูกคนรักหักหลัง หญิงสาวเริ่มเป็นกังวลมากขึ้นกับสิ่งที่ได้รับรู้
©©©©©©©©
บทที่ 8
อิงธารเก็บความสงสัยไว้ในใจ แต่เมื่อหล่อนเปิดประตูรถเก๋งคันหรูก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนรอหน้าบ้านอยู่ก่อนแล้ว
“อิง...ใครมาส่งลูกหรือจ๊ะวันนี้”
เป็นคำถามจากหญิงวัยเกือบหกสิบใบหน้ารูปไข่ใต้กรอบเรือนผมสีดอกเลาที่เกล้าขึ้นเป็นมวย อยู่ในชุดเสื้อลูกไม้นุ่งผ้าซิ่นสีสวยซึ่งมองหญิงสาวที่พึ่งก้าวลงจากรถที่ไม่คุ้นตาหน้าประตูบ้าน อิงธารชะงักเล็กน้อยจึงเอ่ยออกมาว่า
“แม่คะ...เอ้อ...คือว่า”
“สวัสดีครับคุณแม่”