แฟนเก่าอยากเป็นแฟนใหม่

1464 Words
อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ค่อยได้รับความสนใจจากสองหนุ่มสาวเท่าไหร่ มุกไหมเอาแต่ชวนเขาคุยไปเรื่อย ส่วนตัวเขาก็ได้แต่พยักหน้ารับฟังเธอพูดก็เท่านั้น แต่ใจเขาลอยไปไกลแล้ว เขารู้สึกเบื่อที่จะต้องมานั่งฟังคนเธอพูดและพยายามคิดหาทางชิ่งหนีจากเธอ “มุกว่าจะขอมาทำงานที่บริษัทพี่วิชญ์ได้ไหมคะ” คำพูดสั้นๆ เรียกสติของปุณณวิชญ์ให้กลับมา “...” ไม่มีเสียงตอบรับ “ทำไมคะ หรือพี่วิชญ์รังเกียจที่จะร่วมงานกับมุก” เสียงกระเง้ากระงอด “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แต่ตอนนี้ที่บริษัทยังไม่เปิดรับคนใหม่เพิ่มเลย” เขารับอธิบายก่อนที่เธอจะเข้าใจผิดมากไปกว่านี้ “ให้มุกเป็นผู้ช่วยพี่วิชญ์ก็ได้นี่คะ” เธอเอียงหน้าแนบชิดกับแขนของเขาด้วยท่าทางออดอ้อน “งานพี่ต้องออกไซต์งานบ่อย คงไม่เหมาะกับมุกเท่าไหร่ อีกอย่างพี่ก็มีผู้ช่วยอยู่แล้ว” “ไม่รู้แหละ ยังไงมุกต้องไปทำงานที่เดียวกับพี่วิชญ์ให้ได้” ท่าทางแสนงอนที่แสดงออกทำให้ปุณณวิชญ์เริ่มคิดหนักเพราะไม่อยากลับไปยุ่งเกี่ยวกับเธออีกแล้ว แม้แต่ก่อนจะรักเธอมากแค่ไหนก็ตาม “พี่ว่า มุกพึ่งเรียนจบ น่าจะหาเวลาพักผ่อนสักหน่อยดีกว่านะครับ แล้วถ้าที่บริษัทพี่มีตำแหน่งว่างพี่จะรีบบอกมุกเลยดีไหม” เขาเสนอไปอย่างนั้นเพราะคิดว่ายังไงก็คงไม่รับเธอเข้าทำงานเป็นแน่ ระหว่างนี้เขาคงคิดหาทางออกได้ มุกไหมนิ่งเงียบเพราะกำลังใช้ความติด จะให้เธอพักอย่างงั้นเหรอแล้วระหว่างนี้เธอจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย เพราะแฟนเศรษฐีที่เธอเคยคบหาอยู่นั้นก็พึ่งเลิกรากันไป เนื่องจากทางบ้านฝ่ายชายไม่ยอมรับเธอ หาว่าเธอจะมาเกาะลูกชายเขากิน มุกไหมพยักหน้ายอมรับไปก่อนเพราะเธอคิดว่าคนอย่างปุณณวิชญ์ถ้าลองได้ตื้อเข้าหน่อยเขาก็จะยอมเธอเอง เพราะแต่ก่อนนั้นชายหนุ่มทั้งรักทั้งหลงและก็ตามใจเธอเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาอาจจะเล่นตัวไปก็เท่านั้น ร้อยทั้งร้อยถ้าเจอลูกอ้อนของเธอก็ใจอ่อนกันทุกราย จากนั้นหญิงสาวก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำหลังจากทานอาหารบนโต๊ะไปเพียงนิดหน่อยเท่านั้น โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นเรียกให้เจ้าของต้องรีบควักออกมาดู ‘คุณได้รับข้อความใหม่ทางไลน์’ บนหน้าจอโทรศัพท์แสดงข้อความเขารีบกดเข้าไปยังโปแกรมสนทนาทันที หนูดี : น้าวิชญ์คะ แม่ให้ถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ หนูดี : สติกเกอร์รูปเด็กผู้หญิงพร้อมเครื่องหมายคำถาม ปุณณวิชญ์อมยิ้มแล้วรีบพิมพ์ตอบกลับไป น้าวิชญ์ : ฝากขอโทษแม่ด้วยนะหนูดี น้ามีงานด่วนที่บริษัท วันนี้คงไม่กลับไปที่บ้าน อาจอยู่ที่นี่ 2-3 วัน หนูดี : รับทราบคร้า...น้าวิชญ์ หนูดี : สติกเกอร์รูปหัวใจ พร้อมตัวหนังสือ Miss you. น้าวิชญ์ : น้าก็คิดถึงอีก 2-3 วันเจอกันนะครับ น้าวิชญ์ : Bye. ปุณณวิชญ์รีบเก็บโทรศัพท์เข้าที่เพราะมุกไหมเดินออกมาจากห้องน้ำ “ใครโทร.มาคะพี่วิชญ์” เธออดที่จะถามไม่ได้ “เปล่าครับพอดีพี่เช็คเมล์น่ะ” เขาโกหก เพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าตอนนี้เขากลับไปอยู่ที่บ้านกับพี่สาวแล้ว “ไปดูหนังกันไหมคะพี่วิชญ์ หรือจะไปฟังเพลงกันต่อ” มุกไหมเดินเกาะแขนออกมาจากร้านอาหาร เธอยังไม่อยากกลับไปเหงาอยู่คนเดียวที่ห้อง เพราะโดยปกติเธอเป็นคนชอบสังสรรค์การกลับห้องก่อนเที่ยงคืนจึงเป็นสิ่งที่น่าเบื่ออย่างที่สุด “พี่ว่า พี่ไปส่งมุกกลับที่พักดีกว่านะ นี่ก็ดึกแล้ว” “พี่วิชญ์คะ นี่พึ่งจะ 2 ทุ่มเองนะคะ” ปุณณวิชญ์ก้มมองนาฬิกา ก็จริงอย่างที่เธอว่า แต่เขาไม่อยากอยู่กับเธอสองต่อสองแบบนี้ “พี่มีธุระต้องไปทำนิดหน่อย เอาไว้วันหลังเราค่อยไปดูหนังกันก็ได้” ชายหนุ่มพยายามหาทางเลี่ยง “แต่...” “มุกพักที่เดิมเปล่า” ปุณณวิชญ์ก็รีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนยังไม่ทันที่มุกไหมจะพูดจบ มุกไหมรู้สึกหน้าเสียเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะทำเฉยชากับเธออย่างนี้ แต่ก็ต้องยอมๆ ไปก่อนเพราะนี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น อย่างน้อยวันนี้ชายหนุ่มก็ยังยอมออกมาทานข้าวกับเธอ “มุกย้ายแล้วค่ะ แต่พี่วิชญ์ส่งมุกที่หน้าร้าน.....ก็ได้ค่ะ มุกนัดเพื่อนไว้” เธอบอกชื่อร้านที่นัดเพื่อนไว้ ปุณณวิชญ์ขับรถไปจอดยังหน้าร้านอาหารกึ่งผับโดยไม่ได้ลงไปส่งเธอ จากนั้นเขาก็รีบขับรถกลับออกมาทันที “อ้าว! ยายมุก ไหนว่าจะพาพี่วิชญ์มาด้วย” ลดาเพื่อนของเธอเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินเข้ามาในร้านเพียงคนเดียว “ง้อไม่สำเร็จล่ะสิ” วิราณีก็รีบถามทันทีเพราะก่อนที่จะไปหาปุณณวิชญ์เธอบอกกับเพื่อนไว้ว่าจะกลับไปหาคนรักเก่าที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก็สร้างที่เป็นเจ้าของโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการ “วันนี้ไม่สำเร็จ แต่พรุ่งนี้ก็ยังมี” มุกไหมมั่นใจอย่างนั้นเพราะรู้ดีว่าแฟนเก่าคนนี้เป็นคนจิตใจดีและเธอก็รู้ว่าเขาเองยังไม่คบใครแบบจริงจังตั้งแต่เลิกกับเธอไปเมื่อ 2 ปีก่อน “ว่าแต่ เธอแน่ใจนะว่าพี่วิชญ์รวยจริง” มุกไหมถามวิราณีเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง เพราะถ้ารวยจริงทำไมเขายังขับรถคันเก่าบุโรทั่งคันนั้นอยู่อีก “จริงสิมุก รุ่นพี่ที่ฉันรู้จักบอกว่าพี่วิชญ์ถือหุ้นใหญ่สุดในบริษัท ปีที่แล้วบริษัททำกำไรเป็นหลักร้อยล้านเลยนะแก อย่างหมู่บ้านที่ฉันอยู่แค่โครงการเดียวนี่ก็เกือบ 50 หลังคาเรือน แกคิดดูสิ ถ้ากำไรหลังละสัก 5 แสนก็ 25 ล้านแล้วนะแก” “แต่ที่ฉันเห็นวันนี้พี่วิชญ์ของแกยังขับรถคันเดิมเมื่อ 2 ปีก่อนเลยนะแก” ลดาเริ่มไม่แน่ใจข้อมูลที่วิราณีได้ทราบมา “นั่นสิ ฉันก็ชักสงสัย” มุกไหมเริ่มคล้อยตาม รถคันนี้เป็นรถมือสองที่เขาเคยใช้รับส่งเธอตั้งแต่เธอยังเรียนไม่จบ ตอนนี้ก็ผ่านมาถึงสองปี เขาก็ยังทนใช้อยู่ “โอ๊ย! แก่ไม่คิดบ้างเหรอ ว่าพี่วิชญ์อาจจะอยากลองใจแกก็ได้เพราะเท่าที่รู้พี่วิชญ์ของแกมีคอนโดฯ ให้เช่าอีกตั้งหลายที่ วันนั้นที่ฉันเจอพี่วิชญ์ของแกเค้าขับออดี้สีขาวย่ะ ไม่ใช่ฮอนด้าคันนี้” วิราณีนั้นเจอกับชายหนุ่มโดยบังเอิญที่ทางออกของห้างสรรพสินค้า เธอจำเขาได้ตั้งแต่ทีแรกที่เห็น เพราะแฟนเก่าของเพื่อนคนนี้ทั้งหล่อทั้งสูงเป็นที่สะดุดตา เธอเองยังเคยคิดที่จะจีบเขามาเป็นแฟนถ้าไม่ติดว่าเขามาจีบเพื่อนเธอก่อน “งั้นพรุ่งนี้ฉันต้องไปดูให้เห็นกับตา” มุกไหมคล้อยตามเพื่อน “ว่าแต่ แกคิดยังไงของแกถึงอยากจะกลับมาคบพี่วิชญ์อีก” ลดาถามไปอย่างนั้นเพราะไม่เข้าใจการกระทำของเพื่อนสักเท่าไหร่ “ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีใครที่ถูกใจ ถ้าพี่วิชญ์รวยจริง มันก็น่าสนใจอยู่นะฉันจะได้ไม่ต้องหางานทำอย่างทุกวันนี้ งานก็หายากเหลือเกินนะ แกว่าไหม” เธอหันไปถามเพื่อน เพราะตอนนี้เธอเองเรียนจบและไปยื่นในสมัครไปก็หลายที่แต่ไม่มีที่ไหนเรียกเธอไปทำงานเลย อาจเป็นเพราะเกรดเฉลี่ยที่เธอทำได้นั่นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก 2.09 สำหรับคนอื่นมันคงดูน้อยนิด แต่สำหรับสาวสายปาร์ตี้อย่างเธอก็ถือว่าเยอะมาก มุกไหมไม่ค่อยตั้งใจเรียนมากนักเพราะคิดว่าคนสวยๆ หางานทำไม่น่าจะยาก แต่มันกลับตรงกับข้ามเพราะความสวยไม่ได้ช่วยเธอเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังโดนดูถูกจากพวกผู้ชายที่มักจะใช้เงินซื้อความสุขอีกด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD