EP.6
เสียหาย
ร่างสูงเดินนำเธอไปที่มุมเงียบ ๆ ข้างตึก ก่อนจะทิ้งตัวพิงกำแพงกอดอกไว้ ลดาใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เขายังคงไม่มีท่าทีจะแสดงอารมณ์อะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย
“คือ...ขอโทษนะ ที่แอบอ้างไปแบบนั้น...”
ลดาตัดสินใจพูดออกไปก่อน ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ
“หมอนั่้นใคร แฟน?”
“ไม่ใช่นะ!”
เธอรีบโพล่งออกไปอย่างลืมตัว ชาญวิทย์เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ลดารีบอธิบายด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“อืมม ไม่ใช่หรอก! ก็แค่แฟนเก่าที่ทั้งตามตื้อและสลัดไม่หลุดเหมือนเห็บหมาก็เท่านั้น”
“แล้วคุณเลิกเพราะกับเขาเพราะอะไร”
“เขาเหมือนลิงมากไปหน่อย”
“ลิง?”
“ลิงชิมแปนซีน่ะ เวลาติดสัตว์มันจะส่ำส่อนเอากับตัวเมียไม่เลือกหน้า นายคนนี้ก็เป็นแบบนั้นแหล่ะ”
“อุ๊บบ ฮ่า ๆ ๆ เข้าใจเปรียบเทียบนะ”
ชาญวิทย์หัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้น เธอเปรียบเทียบแฟนเก่าได้ซะเขาเห็นภาพเลย
“ขำอะไรขนาดนั้นกัน เอาเป็นว่า คุณรับคำขอโทษใช่ไหม งั้นขอตัวก่อนนะ”
ลดาเห็นว่าเขาหัวเราะไม่หยุด เลยตั้งท่าจะเดินออกไป ทว่ามือหนาก็คว้าแขนเธอไว้ซะก่อน
“จะรีบไปไหนล่ะ คุยกันก่อนสิ”
“อะไรอีกเนี่ย ฉันมีเรียนนะ!”
เธอหันมาแว้ดใส่เขาอย่างอารมณ์เสีย จากตอนแรกที่รู้สึกผิดที่แอบอ้างเขา แต่ตอนนี้ชักจะหงุดหงิดแล้ว!
“อย่ามาหงุดหงิดใส่กันนะ คุณอ้างว่าผมเป็นแฟน คุณทำให้ผมเสียหายก็ต้องรับผิดชอบสิ”
“ฉันก็ขอโทษไปแล้ว ไง จะเอาอะไรอีกล่ะ”
เธอพยายามแกะมือที่จับอยู่ออก แต่มันกลับเหนียวกว่าที่เธอคิด
พ่อเป็นคีมหนีบหรือไง มือถึงได้เหนียวขนาดนี้!
“คุณจะเอายังไงก็พูดมาเถอะ ฉันมีเรียนจริง ๆ ”
ในมือใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล เธอเลยลองใช้ไม้อ่อนดู และมันก็เหมือนจะได้ผล เขาผ่อนแรงที่จับแขนลง ก่อนจะพูดสิ่งที่ต้องการออกมา
“อืมมม งั้นขอเป็นไปสำรวจที่พักคุณก็แล้วกัน”
“จะบ้าหรือไง!!”
“ไม่บ้า ผมขอเข้าไปแค่ชั่วโมงเดียวพอ ถ้าไม่ตกลงก็อยู่กันแบบนี้ล่ะ ผมบรรยายเสร็จแล้ว ไม่รีบ”
ชาญวิทย์พูดด้วยน้ำเสียงสบายใจเฉิบต่างจากร่างเล็กที่พยายามแกะมือเขาไม่หยุด คนรอบ ๆ เริ่มหันมองด้วยความสนใจ
“เออ! ก็ได้! แค่ชั่วโมงเดียวนะ ปล่อยได้แล้ว”
ชาญวิทย์ปล่อยแขนที่จับอยู่ก่อนยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ ลดาได้แต่ข่มอารมณ์เอาไว้แล้วรีบเดินกลับไปเข้าเรียนโดยมีสายตาของเขามองไปจนสุดสายตา
“มองอะไรขนาดนั้นว่ะเพื่อน”
ไทเกอร์ที่เพิ่งจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นเสร็จเดินมากอดคอชาญวิทย์ไว้แถมยังเอ่ยแซวเบา ๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหมอปากหมาสุดเย็นชาคนนี้จะสนใจคนอื่นเป็นด้วย
“เสือก...”
ชาญวิทย์ปัดมือที่กอดคอเขาไว้ออก ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไปโดยไม่สนเสียงโวยวายของเพื่อนแม้แต่น้อย
“ไอ้เวรนี่ กูหมดประโยชน์แล้วทิ้งกูเลยน่า แม่งงงง”
ไทเกอร์ได้แต่ด่าตามท้ายรถที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว แต่นิสัยเย็นชากับสกิลปากของชาญวิทย์เพื่อนทุกคนต่างรู้ดีรวมถึงตัวเขาเองด้วย เขาเลยไม่ได้ถึงสาสักเท่าไหร่นัก
“ลดา..งั้นเหรอ นี่พวกเราจะเก็บเพื่อนกลุ่มน้ำชาหมดเลยหรือไงว่ะเนี่ย”
ไทเกอร์บ่นพึมพำเบา ๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา สงสัยจะมีเรื่องสนุกให้ตามดูแล้วสิ น่าสนใจจริง ๆ ว่าคู่นี่จะลงเอยกันได้ยังไง
»»»»««««
ฟุ่บบบ
ลดาทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างไร้เรี่ยวแรง วันนี้มันวันซวยหรือไงถึงได้มีแต่เรื่องแต่ราวไม่หยุดหย่อน
“เฮ้อออ”
เสียงถอนหายใจยาวเรียกความสนใจจากเจ้าก้อนส้ม มันกระโดขึ้นมาบนเตียง ก่อนจะมาคลอเคลียข้างแขนเธอ
“อะไร ปลอบฉันเหรอเซชิล”
“เมี๊ยวว”
“ขอบใจนะ ช่วยได้เยอะเลยล่ะ”
เธอกอดเจ้าก้อนส้มไว้ในอ้อมแขนก่อนจะหลับตาลง ตั้งใจจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไป ทว่าความเพลียที่เจอมาทั้งวันก็ทำให้เธอเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น
‘อย่าเข้ามานะ!’
‘จะหนีไปไหนล่ะ ยอมเถอะน่า’
‘ไม่ ปล่อยหนูนะพ่อ!’
‘อย่าให้ต้องเจ็บตัวเลยนะ หน้าสวย ๆ จะช้ำหมด’
“อย่าเข้ามานะ”
ร่างบางลุกพรวดพราดจากที่นอนจนแมวที่หลับอยู่ข้าง ๆ ตกใจกระโดดลงเตียงไป ลดาหายใจหอบถี่ ดวงตาทั้งสองสั่นระริก
ฝันแบบนั้นอีกแล้ว
ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนมานานหลายปี
“เฮ้ออออ”
เธอฟุบหน้าลงกับฝ่ามือทั้งสอง เก็บซ่อนอารมณ์ที่ปะทุออกมาให้กลับเป็นปกติก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา
“เพิ่งตีหนึ่งเองงั้นเหรอ”
เธอพึมพำออกมา ก่อนจะเลื่อนดูแจ้งเตือนที่ค้างอยู่ หนึ่งในนั้นมีแชทจากหมอสุดการประสาทเธออยู่ด้วย แม้จะไม่อยากอ่าน แต่มือเจ้ากรรมดันกดเข้าไปซะอย่างนั้น
‘อย่าลืมกินยา’
เขาส่งมาแค่นั้นไม่มีข้อความอะไรเพิ่มเติมอีก เธอพิมพ์ตอบกลับไปก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างหมอน ดวงตาเหม่อลอยมองเพดานห้อง
ครืดด
เสียงข้อความเข้าดึงสติเธอกลับมา และคนที่ส่งมาก็ไม่ใช่ใคร ก็คนที่เธอเพิ่งตอบกลับไปนั่นล่ะ
LINE : Dr.chan
Dr.chan : ทำไมยังไม่นอน?
Lada : เพิ่งตื่นค่ะ เผลอหลับไป
Dr.chan : กินยาหรือยัง?
Lada : ยังค่ะ
Dr.chan : คุณนอนตื่นเวลานี้บ่อยแค่ไหน?
เธอชะงักไปนิดด้วยความสงสัย เขาอยากรู้ไปทำไมกัน?
Lada : นี่คุณจะซักคนไข้ตอนตีหนึ่งเนี่ยนะ ไม่หลับไม่นอนหรือไงกัน!
Dr.chan : ทีคุณยังไม่นอนต่อเลย เอาล่ะ จะตอบได้หรือยัง หรือจะให้ไปหา?
Lada : ไม่ต้องค่ะ ตอบแล้ว ๆ ตื่นเวลานี้ค่อนข้างบ่อยค่ะ พอตื่นแล้วก็นอนไม่หลับ
เขาเงียบหายไปพักใหญ่ก่อนจะตอบกลับมา
Dr.chan : งั้นกินยาแล้วลองนอนอีกที พรุ่งนี้ถ้าว่างก็แวะมาหาผมหน่อย ผมจะจะถามอะไรคุณสักหน่อย
Lada : ได้ค่ะ ช่วงบ่ายฉันว่าง จะแวะไปค่ะ
ลดากดปิดหน้าจอ ก่อนจะลุกไปหยิบยามากินตามที่เขาบอก ไม่รู้หรอกว่ามันจะได้ผลไหม แต่ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนัก
แน่นอนว่ายาที่เขาจัดให้ทำให้เธอหลับสนิทได้จนถึงเช้า ลดาตื่นมาด้วยความงุนงง นานมากแล้วที่ไม่ได้หลับต่อหลังจากตื่น
“ยานี่มันยานอนหลับหรือเปล่า”
เธอหยิบซองยามาพลิกดู ก่อนจะเอาชื่อยาไปหาข้อมูลในเน็ตก็พบว่ามันเป็นยาต้านเศร้าชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ยานอนหลับแบบที่เธอคิดเลยวางใจไปได้เปราะหนึ่ง
“คิดบ้าอะไรกัน คิดว่าเขาจะวางยาหรือไงนะเรา”
ลดาบ่นกับตัวเอง เธอเชื่อว่าเขาคงไม่ทำเรื่องแย่ๆแบบนั้น เพราะดูแล้ว เขาเป็นคนที่มีจรรยาบรรณของแพทย์พอสมควรเลย คงไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน
“ค่อยไปถามแล้วกัน”
ลดาพูดพร้อมกับลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน มาถึงเพื่อนเพียงคนเดียวก็เดินปรี่เข้ามาหาด้วยสีหน้าร้อนใจ
“มึง อีฟ้ามันมาดักหาเรื่องอีกแล้ว เลี่ยงไหม?”
ลดาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะถอดหูฟังเก็บเข้ากระเป๋าไว้ ถอดเครื่องประดับออกด้วยเผื่อต้องออกกำลังกายรอบเช้า
“ไม่ล่ะ มึงเลี่ยงเลย กูไปเอง”
ไม่บ่อยนักที่ลดาจะใช้คำพูดแบบนี้แต่นี่เธอรำคาญสุด ๆ แล้ว ทิพย์ขยับมายืนข้าง ๆ พร้อมกับส่ายหน้าปฎิเสธ
“ไม่ ถ้าจะบวก ก็บวกด้วยกัน”
สองสาวเดินเข้าไปหาฟ้าใสที่ลงทุนมาดักถึงหน้าตึก เธอพาเพื่อนสนิทมาด้วย ตอนนี้เท่ากับสองต่อสอง ถ้าอยากมีเรื่องนักลดาก็พร้อมที่จะจัดให้
“มึงนี้แรดจริง ๆ มีแฟนใหม่แล้วทำไมไม่ปล่อยรามไป”
ฟ้าใสพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันปนโกรธ เธอรู้เรื่องที่รามถูกอธิการบดีลงโทษแล้ว และโกรธตัวต้นเรื่องอย่างลดามาก จนทนไม่ไหวต้องมาดักเคลียร์กัน
ลดายิ้มเหยียดออกมา แอบเอากันเป็นเดือน ๆ ยังจะมาหน้าด้านด่าเธอว่าแรดอีก
“ลิงตัวนั้นกูปล่อยเข้าป่าไปแล้ว แต่แม่งเสือกวิ่งกลับมาเอง ถ้าอยากได้นักทำไมไม่ล่ามไว้ดี ๆ ล่ะ พันธุ์เดียวกันน่าจะอยู่กันได้นะ”
ฟ้าใสทำหน้างง ลิงอะไร? ลิงที่ไหน?
ลดายิ้มเยาะออกมาก่อนจะเดินเข้ามากระซิบข้างหูคู่อริเบา ๆ
“มึงรู้ไหมว่าลิงชิมแปนซีแบบพวกมึงมันสำส่อนแค่ไหน ถ้าไม่รู้ก็ไปหาข้อมูลดูนะ จะได้ไม่โง่”
“กริ๊ดดด มึง! มึงด่ากูเป็นลิงงั้นเหรอ อีลดา!!”
ฟ้าใสพุ่งเข้ามาหมายจะตบคนตรงหน้า ทว่าเธอไวกว่าอีกฝ่ายเลยเบี่ยงตัวหลบจนฟ้าใสเสียหลักลงไปกองกับพื้น
ตุบ
“โอ้ย”
เธอหันมองลดาด้วยความโกรธ เพื่อนของพวกเธอยืนดู ห่าง ๆ ไม่กล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้
“อ้าว เมื่อยแล้วเหรอ ยังไม่เริ่มเลยนะ”
ลดาเยาะเย้ยอีกฝ่ายที่จ้องมองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน ฟ้าใสรีบลุกขึ้นก่อนจะพุ่งเข้ามาหาลดาอีกรอบ
ทว่ารอบนี้ร่างบางไม่ได้หลบ เธอแค่เบี่ยงตัวออกก่อนจะจับแขนของอีกฝ่ายบิดไปข้างหลังอย่างแรงแล้วดันอีกฝ่ายเข้าไปจนติดกับผนังตึก
ปั่ก!
“ปล่อยกูนะ แน่จริงอย่าโกงสิว่ะ”
ลดาออกแรงกดแขนอีกฝ่ายแรงขึ้นไปอีกจนฟ้าใสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ลดาจะพูดเตือนเป็นครั้งสุดท้าย
“จะบอกอะไรให้นะ กูเลิกกับรามไปเป็นชาติแล้วและจะไม่มีวันกลับไปดีกับมันเด็ดขาด ถ้าอยากได้นักก็เอาไปจะไปสมสู่ที่ไหนกันก็เชิญแต่อย่ามายุ่งกับกูอีก”
“ฮือออ ขะ เข้าใจแล้ว ปล่อยกูเถอะ กูเจ็บ”
ฟ้าใสขอร้องทั้งน้ำตา เธอสู้อะไรลดาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่วิงวอนของความเมตตาเท่านั้น
“อย่าเสนอหน้ามาหาเรื่องกูอีก”
พลั่ก!
ลดาผลักฟ้าใสให้กับเพื่อน ก่อนจะเดินขึ้นอาคารเรียนไปกับน้ำทิพย์ทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งหมดสภาพอยู่แบบนั้น
อยากมาหาเรื่องเธอก็ต้องโดนแบบนี้ล่ะ!