EP.8
ความทรงจำอันเลวร้าย
ร่างบางอดหวนคิดถึงเรื่องในอดีตไม่ได้ เธอเคยเข้ารับการรักษาจากหมอหลายคนแล้ว ทว่าทุกคนต่างอยากรู้เรื่องที่เธอเผชิญมากกว่าสนใจจะรักษาจริง ๆ บางคนไม่ปิดบังเจตนาตัวเองสักนิดด้วยซ้ำไป
คุณช่างน่าสงสารจริง ๆ ผมจะช่วยคุณเองนะ ช่วยเล่าทั้งหมดให้ฟังทีได้ไหม
อ่าา เรื่องราวของคุณน่าสนใจ เล่าอีกได้ไหม?
นี่ก็เพื่อการรักษานะ
คำพูดพวกนี้เป็นสิ่งที่เธอเผชิญหน้ามาหลายปีก่อนจะเจอกับหมอพัฒน์
แรก ๆ เธอก็เชื่อและยอมเล่า แต่พอได้รู้ว่าหมอที่รับฟังเธอใช้ประโยชน์จากเรื่องราวของเธอเพื่อหาผลประโยชน์ เธอเลยเลือกที่จะปิดบังความจริงทั้งหมด
“ถ้าเป็นคุณ ฉันจะสามารถเล่าเรื่องทั้งหมดได้หรือเปล่านะ”
ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากเล่าเรื่องราวพวกนั้นให้ใครสักคนได้ฟังและช่วยให้เธอได้หลุดพ้นเช่นกัน แต่ตัวของเธอเองก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า สำหรับลดาแล้วการเดินออกจากโลกที่ตัวเองสร้างมันยากยิ่งกว่าอะไรดี
“เฮ้อออ เลิกคิดฟุ้งซ่านได้แล้วลดา”
ลดาสลัดความคิดในหัวทิ้งก่อนจะลุกไปอาบน้ำ พรุ่งนี้เธอตั้งใจจะไปเยี่ยมหลุมศพพ่อกับยายที่เสียไป คงต้องตื่นเช้าสักหน่อย
“เซชิล ไปนอนกันเถอะ”
ร่างบางเดินไปอุ้มแมวตัวน้อยขึ้นไปนอนด้วยกัน มันบิดตัวอย่างขี้เกียจก่อนจะนอนลงข้าง ๆ หมอนเธอ
“เมี๊ยวว”
“ฝันดีเซชิล”
วันรุ่งขึ้น
“ทำไมถึงได้รกแบบนี้นะ”
ลดาบ่นออกมาเบา ๆ มองอัฐิคนที่เธอรักทั้งสองด้วยความสงสัย เธอไม่ได้มาที่นี่แค่อาทิตย์กว่าๆ แต่สภาพมันกลับดูรกร้างราวกับไม่ได้มาสักชาติ
“พ่อคะ ยายคะ หนูมาหาแล้วนะ”
เธอกล่าวกับอัฐิของคนทั้งสองก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาด ที่นี่เป็นสถานที่ที่ทำให้เธอสามารถสงบจิตใจได้มากที่สุด
ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะทำความสะอาดเสร็จ ลดาวางดอกไว้ที่เตรียมมาหน้าอัฐิทั้งสองคนก่อนจะนั่งลงเพื่อพูดคุยเฉกเช่นทุกครั้ง
“พ่อกับยายสบายดีไหมคะ หนูคิดถึงทั้งสองมากเลยนะ”
พ่อของเธอเสียไปตั้งแต่เธอยังเด็กเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนยายเสียไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนด้วยโรคมะเร็งลำไส้ทิ้งให้เธออยู่กับแม่ที่เต็มไปด้วยความโลภและพ่อเลี้ยงที่สร้างฝันร้ายให้กับเธอ
“ฉันว่าแล้วว่าแกต้องอยู่ที่นี่”
เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นด้านหลังเธอ ลดาลอบถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นไปเผชิญหน้ากับแขกไม่ได้รับเชิญ
“แม่...มาที่นี่ทำไมกัน?”
“ทักทายได้เย็นชาจริง ๆ ฉันเป็นแม่แกนะ”
ลดาไม่ได้ตอบโต้อะไร ไม่แม้แต่จะยกมือไหว้ด้วยซ้ำ สำหรับเธอแล้วคนตรงหน้าก็แค่ให้กำเนิดมา ไม่ได้มีความผูกพันอะไรอยู่แล้ว
“มีธุระอะไรถึงได้มาถึงที่นี่”
ลดาถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สายตายังคงจ้องมองไปที่รูปถ่ายของคนที่เธอรักทั้งสอง
“อีกไม่กี่วันพ่อแกจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิด แกมางานด้วยล่ะ”
นงนุชพูดเข้าเรื่องทันที มือเรียวปัดฝุ่นที่ฟุ้งกระจายรอบ ๆ อย่างรังเกียจ
“สกปรกจริง ๆ เลยนะที่นี่เนี่ย”
แม้กระทั่งจะให้เกียรติสถานที่ยังไม่มีเลย ลดาเหยียดยิ้มออกมาก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“พ่อไหนคะ หนูจำได้ว่าพ่อตายไปแล้วนะ”
เธอชี้ไปอัฐิที่มีรูปถ่ายพ่อของเธอติดอยู่ นงนุชถึงกับยืนนิ่งเมื่อเจอท่าทีแข็งกร้าวของคนที่ได้ชื่อว่าลูก
“เมื่อไหร่จะเลิกยึดติดกับคนตายมันเลี้ยงแกมาแค่กี่ปี ฉันต่างหากที่เลี้ยงแกมา”
“เลี้ยง? อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย คนที่เลี้ยงหนูมาคือยายต่างหาก ถามจริงเถอะแม่คิดว่าแค่คลอดออกมาก็เป็นการเลี้ยงหรือไงกัน?”
“หยุดก้าวร้าวใส่แม่ได้แล้วลดา พ่อขอล่ะ!”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของนงนุช แววตาของลดาเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าว มือบางกำหมัดข่มอารมณ์ไว้แน่น ก่อนจะเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา
“อย่ามาแทนตัวเองว่าพ่อนะ ฉันมีพ่อคนเดียวคือพ่อกร ไม่ใช่ขยะแบบแก!”
“ลดา มันจะมากไปแล้วนะ พ่อชิตเค้าอุตส่าห์ขอร้องแกแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ ลูกคงยังยอมรับผมไม่ได้ คุณอย่าโมโหสิ”
ชิตหรืออนุชิตรีบปรี่เข้ามาประคองร่างของภรรยาด้วยท่าทีทะนุถนอม ทำท่าทางเป็นห่วงเป็นใยคนรักอย่างน่าสะอิดสะเอียน
เห็นแล้วอยากจะอ้วก
“ขยะแบบแกไม่มีวันได้เป็นพ่อฉันหรอก ต่อให้ตายอีกสิบชาติก็ไม่มีวันนั้น อย่างแกก็เป็นได้แค่แมงดาที่เกาะอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงแค่นั้นล่ะ”
อนุชิตพยายามข่มความโกรธไว้ เขาแสร้งทำหน้าเศร้า ก่อนจะก้าวเข้ามาหาลดาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“พ่อทำอะไรให้เหรอถึงได้โกรธแค้นพ่อแบบนี้ บอกพ่อสิ พ่อจะได้ปรับปรุงตัว....”
ลดาก้าวถอยหลังไปอย่างรังเกียจ ดวงตาเธอฉายแววเคียดแค้นอย่างไม่ปิดบังเลยซักนิด
“งั้นก็ไปตายซะสิ ตายโหงตายห่าไปเลย อย่าได้มาแสร้งทำตัวเป็นคนดีแถวนี้ ฉันขยะแขยง!
“ลดา!”
‘เพี๊ยะ!’
เธอได้ยินเสียงวิ่งตึก ตึก นำมาก่อน ตามด้วยฝ่ามือที่หวดเข้าแก้มนวลเต็มแรงจนหูวิ้งไปหมด ลดาหันไปตามแรงตบของแม่เธอ แก้มขาวแดงเป็นรอยนิ้วชัดเจน
“แกมันไม่รักดี ฉันอุตส่าห์เอาแกมาเลี้ยง แล้วแกตอบแทบฉันแบบนี้งั้นเหรอ!”
ลดารู้สึกได้ถึงรสฝาดของเลือดในปาก ทว่าสีหน้าของเธอก็ไม่ได้แสดงความเจ็บหรือสะทกสะท้านกับคำพูดของแม่เลยแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน
และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน
“หมดธุระแล้วใช่ไหม เชิญค่ะ”
เธอผายมือไล่แขกไม่ได้รับเชิญทั้งสองออกไป นงนุชทำท่ากระฟัดกระเฟียดก่อนจะยอมเดินออกไปแต่โดยดี อนุชิตมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินตามแม่เธอไป ลดาผ่อนลมหายใจลงคลายกำปั้นที่กำไว้แน่นออก
“ซวยจริง ๆ เลยวันนี้”
เธอบ่นพร้อมกับเก็บข้าวของเตรียมกลับที่พัก ก่อนจะออกมาก็ไม่ลืมร่ำลาพ่อกับยายของเธอด้วย
“ไว้หนูจะหาเวลามาหาใหม่นะคะ”
เธอก้าวออกมาจากสถานที่นั้น ก่อนจะขึ้นรถที่เรียกมารับเพื่อกลับคอนโดตัวเอง ทว่าพอกลับมาถึงก็เจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์เรื่องที่สองของวัน
“คุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วขึ้นมาชั้นนี้ได้ยังไง....”
ชาญวิทย์ยืนพิงกำแพงอยู่ข้างประตูห้องเธอ เขามองเธอด้วยสายตาที่ติดจะโกรธนิด ๆ
“คุณลืมนัดผมหรือไง โทรไปก็ไม่รับอีก”
ลดาคลำหาโทรศัพท์ในกระเป๋าก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมมันไว้ในห้อง
“โทษที น่าจะลืมไว้ในห้องน่ะ”
เพราะเมื่อเช้าจดจ่อกับการไปไหว้หลุมศพมากไปเลยทำให้ลืมเรื่องนัดวันนี้ไปซะสนิท
“แล้วสรุปคุณเข้ามาในคอนโดนี้ได้ไง”
เธอถามเขาด้วยความสงสัย เพราะที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูง คนนอกเข้ามาไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอน
“เพราะผมมีห้องที่นี่ไงล่ะ แต่ไม่ค่อยได้มาหรอก”
เขาชี้ไปห้องที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก อะไรจะบังเอิญได้ขนาดนี้กัน...
ตึกเดียวกันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ทำไมถึงอยู่ชั้นเดียวกันล่ะ!
“แล้วก็แมวคุณน่ะ มันร้องมาสักพักแล้วนะรีบไปดูมันดีกว่า”
เมื่อได้ยินแบบนั้นร่างบางรีบกดรหัสเปิดประตูเข้าไปทันที เจ้าแมวน้อยรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับส่งเสียงร้องไม่หยุด
“เซชิล โทษทีฉันลืมเทข้าวงั้นสินะ”
เธอเกาคางให้มันก่อนจะรีบเดินไปจัดการเทอาหารให้ โดยลืมชาญวิทย์ไปโดยสิ้นเชิง ร่างสูงถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้อง เขามองการกระทำของหญิงสาวด้วยความสนใจ
น่าแปลกที่ตอนเขาถามเรื่องราวของผู้คนรอบตัว เธอกลับดูไม่ใส่ใจเท่าเจ้าแมวที่เพิ่งเก็บมาเลี้ยงด้วยซ้ำไป
คิดถูกแล้วที่วันนั้นปล่อยให้เธอพามันมาเลี้ยงงั้นสินะ
“คุณนี่ไม่ระวังตัวเองซะเลยนะ”
ลดาหันควับไปไปตามเสียงพูด เธอลืมเขาอีกแล้ว แถมยังลืมปิดประตูด้วย
“ถ้าเกิดผมเป็นโจร คุณคงตายไปแล้ว ประมาท ไม่รอบคอบ”
น้ำเสียงติเตียนช่างชวนให้หงุดหงิดซะจริง ถึงอย่างนั้นมันก็จริงอย่างที่เขาว่า ทำเอาเธอเถียงไม่ออกเลยทีเดียว แต่จะให้อยู่เฉย ๆ ก็คงไม่ใช่เธอเหมือนกัน
“แล้วทำไมคุณจะต้องมาวุ่นวายกับฉันขนาดนี้ด้วย”
“คุณเป็นคนไข้ของผมนะ ไม่ให้ยุ่งกับคุณแล้วจะให้ยุ่งกับหมาที่ไหน?”
“คุณด่าฉันว่าฉันเป็นหมาเหรอ!”
“คุณเป็นไหมล่ะ ถ้าไม่เป็นก็ไม่ต้องร้อนตัวสิ”
เขาเอาคำพูดที่เธอเคยว่าเขามาย้อนเธอด้วย!
หงุดหงิด
น่าหงุดหงิดเป็นบ้าเลย!
"ถ้างั้นวันนี้รักษาที่นี่แล้วกัน ผมขี้เกียจไปกลับโรงพยาบาล รถติด น่าเบื่อ”
เขาบอกพร้อมสรุปจบโดยที่ไม่ให้เธอได้ปฎิเสธเลยแม้แต่น้อย ลดาได้แต่นิ่งเงียบยอมจำนน เพราะร่างสูงเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกลางห้องเรียบร้อยแล้ว
เอาแต่ใจ
ปากหมา
เย็นชา
หมอนี่มีครบทุกอย่างที่เธอเกลียดเลยล่ะ!