EP.8 ความทรงจำอันเลวร้าย

1701 Words
EP.8 ความทรงจำอันเลวร้าย ร่างบางอดหวนคิดถึงเรื่องในอดีตไม่ได้ เธอเคยเข้ารับการรักษาจากหมอหลายคนแล้ว ทว่าทุกคนต่างอยากรู้เรื่องที่เธอเผชิญมากกว่าสนใจจะรักษาจริง ๆ บางคนไม่ปิดบังเจตนาตัวเองสักนิดด้วยซ้ำไป คุณช่างน่าสงสารจริง ๆ ผมจะช่วยคุณเองนะ ช่วยเล่าทั้งหมดให้ฟังทีได้ไหม อ่าา เรื่องราวของคุณน่าสนใจ เล่าอีกได้ไหม? นี่ก็เพื่อการรักษานะ คำพูดพวกนี้เป็นสิ่งที่เธอเผชิญหน้ามาหลายปีก่อนจะเจอกับหมอพัฒน์ แรก ๆ เธอก็เชื่อและยอมเล่า แต่พอได้รู้ว่าหมอที่รับฟังเธอใช้ประโยชน์จากเรื่องราวของเธอเพื่อหาผลประโยชน์ เธอเลยเลือกที่จะปิดบังความจริงทั้งหมด “ถ้าเป็นคุณ ฉันจะสามารถเล่าเรื่องทั้งหมดได้หรือเปล่านะ” ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากเล่าเรื่องราวพวกนั้นให้ใครสักคนได้ฟังและช่วยให้เธอได้หลุดพ้นเช่นกัน แต่ตัวของเธอเองก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า สำหรับลดาแล้วการเดินออกจากโลกที่ตัวเองสร้างมันยากยิ่งกว่าอะไรดี “เฮ้อออ เลิกคิดฟุ้งซ่านได้แล้วลดา” ลดาสลัดความคิดในหัวทิ้งก่อนจะลุกไปอาบน้ำ พรุ่งนี้เธอตั้งใจจะไปเยี่ยมหลุมศพพ่อกับยายที่เสียไป คงต้องตื่นเช้าสักหน่อย “เซชิล ไปนอนกันเถอะ” ร่างบางเดินไปอุ้มแมวตัวน้อยขึ้นไปนอนด้วยกัน มันบิดตัวอย่างขี้เกียจก่อนจะนอนลงข้าง ๆ หมอนเธอ “เมี๊ยวว” “ฝันดีเซชิล” วันรุ่งขึ้น “ทำไมถึงได้รกแบบนี้นะ” ลดาบ่นออกมาเบา ๆ มองอัฐิคนที่เธอรักทั้งสองด้วยความสงสัย เธอไม่ได้มาที่นี่แค่อาทิตย์กว่าๆ แต่สภาพมันกลับดูรกร้างราวกับไม่ได้มาสักชาติ “พ่อคะ ยายคะ หนูมาหาแล้วนะ” เธอกล่าวกับอัฐิของคนทั้งสองก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาด ที่นี่เป็นสถานที่ที่ทำให้เธอสามารถสงบจิตใจได้มากที่สุด ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะทำความสะอาดเสร็จ ลดาวางดอกไว้ที่เตรียมมาหน้าอัฐิทั้งสองคนก่อนจะนั่งลงเพื่อพูดคุยเฉกเช่นทุกครั้ง “พ่อกับยายสบายดีไหมคะ หนูคิดถึงทั้งสองมากเลยนะ” พ่อของเธอเสียไปตั้งแต่เธอยังเด็กเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนยายเสียไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนด้วยโรคมะเร็งลำไส้ทิ้งให้เธออยู่กับแม่ที่เต็มไปด้วยความโลภและพ่อเลี้ยงที่สร้างฝันร้ายให้กับเธอ “ฉันว่าแล้วว่าแกต้องอยู่ที่นี่” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นด้านหลังเธอ ลดาลอบถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นไปเผชิญหน้ากับแขกไม่ได้รับเชิญ “แม่...มาที่นี่ทำไมกัน?” “ทักทายได้เย็นชาจริง ๆ ฉันเป็นแม่แกนะ” ลดาไม่ได้ตอบโต้อะไร ไม่แม้แต่จะยกมือไหว้ด้วยซ้ำ สำหรับเธอแล้วคนตรงหน้าก็แค่ให้กำเนิดมา ไม่ได้มีความผูกพันอะไรอยู่แล้ว “มีธุระอะไรถึงได้มาถึงที่นี่” ลดาถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สายตายังคงจ้องมองไปที่รูปถ่ายของคนที่เธอรักทั้งสอง “อีกไม่กี่วันพ่อแกจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิด แกมางานด้วยล่ะ” นงนุชพูดเข้าเรื่องทันที มือเรียวปัดฝุ่นที่ฟุ้งกระจายรอบ ๆ อย่างรังเกียจ “สกปรกจริง ๆ เลยนะที่นี่เนี่ย” แม้กระทั่งจะให้เกียรติสถานที่ยังไม่มีเลย ลดาเหยียดยิ้มออกมาก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “พ่อไหนคะ หนูจำได้ว่าพ่อตายไปแล้วนะ” เธอชี้ไปอัฐิที่มีรูปถ่ายพ่อของเธอติดอยู่ นงนุชถึงกับยืนนิ่งเมื่อเจอท่าทีแข็งกร้าวของคนที่ได้ชื่อว่าลูก “เมื่อไหร่จะเลิกยึดติดกับคนตายมันเลี้ยงแกมาแค่กี่ปี ฉันต่างหากที่เลี้ยงแกมา” “เลี้ยง? อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย คนที่เลี้ยงหนูมาคือยายต่างหาก ถามจริงเถอะแม่คิดว่าแค่คลอดออกมาก็เป็นการเลี้ยงหรือไงกัน?” “หยุดก้าวร้าวใส่แม่ได้แล้วลดา พ่อขอล่ะ!” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของนงนุช แววตาของลดาเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าว มือบางกำหมัดข่มอารมณ์ไว้แน่น ก่อนจะเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา “อย่ามาแทนตัวเองว่าพ่อนะ ฉันมีพ่อคนเดียวคือพ่อกร ไม่ใช่ขยะแบบแก!” “ลดา มันจะมากไปแล้วนะ พ่อชิตเค้าอุตส่าห์ขอร้องแกแล้ว” “ไม่เป็นไรครับ ลูกคงยังยอมรับผมไม่ได้ คุณอย่าโมโหสิ” ชิตหรืออนุชิตรีบปรี่เข้ามาประคองร่างของภรรยาด้วยท่าทีทะนุถนอม ทำท่าทางเป็นห่วงเป็นใยคนรักอย่างน่าสะอิดสะเอียน เห็นแล้วอยากจะอ้วก “ขยะแบบแกไม่มีวันได้เป็นพ่อฉันหรอก ต่อให้ตายอีกสิบชาติก็ไม่มีวันนั้น อย่างแกก็เป็นได้แค่แมงดาที่เกาะอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงแค่นั้นล่ะ” อนุชิตพยายามข่มความโกรธไว้ เขาแสร้งทำหน้าเศร้า ก่อนจะก้าวเข้ามาหาลดาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “พ่อทำอะไรให้เหรอถึงได้โกรธแค้นพ่อแบบนี้ บอกพ่อสิ พ่อจะได้ปรับปรุงตัว....” ลดาก้าวถอยหลังไปอย่างรังเกียจ ดวงตาเธอฉายแววเคียดแค้นอย่างไม่ปิดบังเลยซักนิด “งั้นก็ไปตายซะสิ ตายโหงตายห่าไปเลย อย่าได้มาแสร้งทำตัวเป็นคนดีแถวนี้ ฉันขยะแขยง! “ลดา!” ‘เพี๊ยะ!’ เธอได้ยินเสียงวิ่งตึก ตึก นำมาก่อน ตามด้วยฝ่ามือที่หวดเข้าแก้มนวลเต็มแรงจนหูวิ้งไปหมด ลดาหันไปตามแรงตบของแม่เธอ แก้มขาวแดงเป็นรอยนิ้วชัดเจน “แกมันไม่รักดี ฉันอุตส่าห์เอาแกมาเลี้ยง แล้วแกตอบแทบฉันแบบนี้งั้นเหรอ!” ลดารู้สึกได้ถึงรสฝาดของเลือดในปาก ทว่าสีหน้าของเธอก็ไม่ได้แสดงความเจ็บหรือสะทกสะท้านกับคำพูดของแม่เลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน “หมดธุระแล้วใช่ไหม เชิญค่ะ” เธอผายมือไล่แขกไม่ได้รับเชิญทั้งสองออกไป นงนุชทำท่ากระฟัดกระเฟียดก่อนจะยอมเดินออกไปแต่โดยดี อนุชิตมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินตามแม่เธอไป ลดาผ่อนลมหายใจลงคลายกำปั้นที่กำไว้แน่นออก “ซวยจริง ๆ เลยวันนี้” เธอบ่นพร้อมกับเก็บข้าวของเตรียมกลับที่พัก ก่อนจะออกมาก็ไม่ลืมร่ำลาพ่อกับยายของเธอด้วย “ไว้หนูจะหาเวลามาหาใหม่นะคะ” เธอก้าวออกมาจากสถานที่นั้น ก่อนจะขึ้นรถที่เรียกมารับเพื่อกลับคอนโดตัวเอง ทว่าพอกลับมาถึงก็เจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์เรื่องที่สองของวัน “คุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วขึ้นมาชั้นนี้ได้ยังไง....” ชาญวิทย์ยืนพิงกำแพงอยู่ข้างประตูห้องเธอ เขามองเธอด้วยสายตาที่ติดจะโกรธนิด ๆ “คุณลืมนัดผมหรือไง โทรไปก็ไม่รับอีก” ลดาคลำหาโทรศัพท์ในกระเป๋าก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมมันไว้ในห้อง “โทษที น่าจะลืมไว้ในห้องน่ะ” เพราะเมื่อเช้าจดจ่อกับการไปไหว้หลุมศพมากไปเลยทำให้ลืมเรื่องนัดวันนี้ไปซะสนิท “แล้วสรุปคุณเข้ามาในคอนโดนี้ได้ไง” เธอถามเขาด้วยความสงสัย เพราะที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูง คนนอกเข้ามาไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอน “เพราะผมมีห้องที่นี่ไงล่ะ แต่ไม่ค่อยได้มาหรอก” เขาชี้ไปห้องที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก อะไรจะบังเอิญได้ขนาดนี้กัน... ตึกเดียวกันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ทำไมถึงอยู่ชั้นเดียวกันล่ะ! “แล้วก็แมวคุณน่ะ มันร้องมาสักพักแล้วนะรีบไปดูมันดีกว่า” เมื่อได้ยินแบบนั้นร่างบางรีบกดรหัสเปิดประตูเข้าไปทันที เจ้าแมวน้อยรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับส่งเสียงร้องไม่หยุด “เซชิล โทษทีฉันลืมเทข้าวงั้นสินะ” เธอเกาคางให้มันก่อนจะรีบเดินไปจัดการเทอาหารให้ โดยลืมชาญวิทย์ไปโดยสิ้นเชิง ร่างสูงถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้อง เขามองการกระทำของหญิงสาวด้วยความสนใจ น่าแปลกที่ตอนเขาถามเรื่องราวของผู้คนรอบตัว เธอกลับดูไม่ใส่ใจเท่าเจ้าแมวที่เพิ่งเก็บมาเลี้ยงด้วยซ้ำไป คิดถูกแล้วที่วันนั้นปล่อยให้เธอพามันมาเลี้ยงงั้นสินะ “คุณนี่ไม่ระวังตัวเองซะเลยนะ” ลดาหันควับไปไปตามเสียงพูด เธอลืมเขาอีกแล้ว แถมยังลืมปิดประตูด้วย “ถ้าเกิดผมเป็นโจร คุณคงตายไปแล้ว ประมาท ไม่รอบคอบ” น้ำเสียงติเตียนช่างชวนให้หงุดหงิดซะจริง ถึงอย่างนั้นมันก็จริงอย่างที่เขาว่า ทำเอาเธอเถียงไม่ออกเลยทีเดียว แต่จะให้อยู่เฉย ๆ ก็คงไม่ใช่เธอเหมือนกัน “แล้วทำไมคุณจะต้องมาวุ่นวายกับฉันขนาดนี้ด้วย” “คุณเป็นคนไข้ของผมนะ ไม่ให้ยุ่งกับคุณแล้วจะให้ยุ่งกับหมาที่ไหน?” “คุณด่าฉันว่าฉันเป็นหมาเหรอ!” “คุณเป็นไหมล่ะ ถ้าไม่เป็นก็ไม่ต้องร้อนตัวสิ” เขาเอาคำพูดที่เธอเคยว่าเขามาย้อนเธอด้วย! หงุดหงิด น่าหงุดหงิดเป็นบ้าเลย! "ถ้างั้นวันนี้รักษาที่นี่แล้วกัน ผมขี้เกียจไปกลับโรงพยาบาล รถติด น่าเบื่อ” เขาบอกพร้อมสรุปจบโดยที่ไม่ให้เธอได้ปฎิเสธเลยแม้แต่น้อย ลดาได้แต่นิ่งเงียบยอมจำนน เพราะร่างสูงเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกลางห้องเรียบร้อยแล้ว เอาแต่ใจ ปากหมา เย็นชา หมอนี่มีครบทุกอย่างที่เธอเกลียดเลยล่ะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD