EP. 4 ปมแรก : จุดเริ่มต้นของฝันร้าย (TW : เนื้อหาอ่อนไหว)

1761 Words
EP. 4 ปมแรก : จุดเริ่มต้นของฝันร้าย เธอค่อยเล่าเรื่องราววัยเด็กออกมาช้า ๆ ดวงตาคู่สวยหม่นลงเมื่อคิดถึงเรื่องราวในอดีต ลดาเล่าว่า เปรม เป็นพี่ชายข้างบ้านมีศักดิ์เป็นญาติกัน เธอคุ้นเคยกับคนแถวนั้นเพราะไปอยู่ตั้งแต่เกิด เล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ พี่เปรมอายุประมาณสิบหกปี ส่วนเธอก็อายุห้าขวบ วันนั้นเธอก็ไปเล่นที่บ้านพี่เปรมตามปกติแต่ว่าพวกผู้ใหญ่ไม่อยู่ไปธุระข้างนอกกันหมดเหลือแค่เธอกับพี่เปรม ก่อนที่เขาจะชวนเธอไปเล่นบนห้อง ด้วยวัยเพียงห้าขวบเธอเชื่อเขาอย่างไม่มีข้อกังขา “ลดา ไปเล่นบนห้องพี่ไหม” “ไปค่ะ พี่เปรม” ชายวัยสิบหกอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมา พาไปยังห้องนอนของเขา ก่อนจะปิดประตูและล็อคเอาไว้ “รอพี่บนนี้นะ อย่าไปไหน” เขาบอกเด็กหญิงตัวน้อยก่อนจะเดินหายไปในห้องน้ำ สักพักก็ออกมาด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว “พี่เปรม ไม่ใส่เสื้อผ้าเหรอ” “พี่ร้อนน่ะ ลดาร้อนไหม พี่อาบน้ำให้ไหม” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ร้อน” เธอตอบพร้อมหันไปสนใจของเล่นในมือ ไม่รู้เลยว่าภัยร้ายกำลังจะมาถึงตัวในคราบของพี่ชายผู้แสนดี “งั้นมาเล่นอะไรสนุก ๆ ไหม” “อะไรเหรอคะ” “นี่ไง มันนุ่มมากเลยนะ ลองจับไหม” เขาถอดผ้าขนหนูออกเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า แก่นกายหน้าตาหน้าเกลียดปรากฏต่อสายตาเด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เมื่อเห็นเด็กน้อยทำท่ากล้า ๆ กลัวๆ มือหนาก็จับมือเล็ก ๆ นั่นไปกุมเจ้าน้องชายเขาไว้ ก่อนจะจับมือเธอรูดขึ้นลงซ้ำ ๆ “อ่าส์ แบบนั้นล่ะ เด็กดี” เป็นเวลานานพอสมควรที่เขาให้เด็กน้อยไร้เดียงสาคนหนึ่งสำเร็จความใคร่ให้แก่เขา ในตอนนั้นเธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย รู้เพียงแค่เขาให้ทำอะไรก็ทำตามไปโดยไม่ได้คิดมาก จนกระทั่งมีเสียงมาเคาะห้อง เขาเลยหยุดทุกอย่าง ก๊อก ก๊อก ๆ “พี่เปรม อยู่กับลดาหรือเปล่า?” แป้ง น้องสาวแท้ ๆ ของเปรมมาเคาะห้องตามหาตัวเธอ เพราะยายเธอกลับมาแล้ว เปรมสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบใส่เสื้อผ้า พร้อมกับกำชับห้ามเธอพูดเรื่องนี้ออกไป “ลดาห้ามบอกเรื่องนี้กับใครนะ ไม่งั้นเราจะไม่ได้เล่นด้วยกันอีก” เธอทำหน้างงก่อนจะพยักหน้ารับ เปรมเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้น้องสาวเข้ามา “พี่ทำอะไร ทำไมมาเปิดประตูช้าจัง” “เปล่า ๆ เข้าห้องน้ำอยู่ แล้วมีไรถึงได้มาเคาะห้องพี่” “ลดาล่ะ” เขาเปิดประตูกว้างขึ้นเพื่อให้น้องสาวเข้ามา พอเธอเห็นลดาก็ตรงเข้ามากอดและหอมแก้มทันที “ฟอด~ ตัวเล็ก ยายกลับมาแล้วนะ ไปหายายกัน” เด็กน้อยหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหอมอีกฝ่ายคืน “เย้ ๆ ยายจ๋า” แป้งจูงมือลดาเดินออกไปจากห้อง เพื่อพาไปส่งกับยายของเธอ เปรมยืนมองอยู่ห่างๆก่อนจะปิดประตูแล้วไปจัดการตัวเองต่ออย่างอารมณ์เสียนิด ๆ “มาขัดถูกจังหวะจริง ๆ แม่ง” »»»»«««« “ตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหน” เมื่อเธอเล่าจบ ชาญวิทย์ก็เริ่มถามทันที “ฉันอยู่ที่ต่างจังหวัดกับยายค่ะ แม่คลอดฉันแล้วส่งไปอยู่กับยาย” “แสดงว่าคุณไม่ได้อยู่กับแม่ใช่ไหม” “ไม่ค่ะ ฉันเพิ่งมาอยู่ตอนโตแล้ว” “มีคนรู้เรื่องนี้ไหม” “มีแค่เพื่อนฉันไม่กี่คนค่ะ” เขาวางปากกาลง เอนหลังพิงเก้าอี้ ก่อนตัดสินใจหยุดเพียงแค่นี้ก่อน “วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าครับ ผมไม่อยากให้คุณเครียดไปมากกว่านี้” ไม่ใช่แค่นั้น ตัวเขาเองก็รู้สึกโกรธไอ้เวรนั่นด้วย เธอแค่ห้าขวบ! วัยนั้นมันควรเป็นวัยที่เธอสดใส ร่าเริง เธอเด็กมาก มากจนไม่ควรมาเจอเรื่องโหดร้ายแบบนี้ เธอผ่านมันมาได้ยังไงกัน ต้องเข้มแข็งขนาดไหนถึงใช้ชีวิตต่อได้..... “คุณไม่ต้องคิดมากกับสิ่งที่ฉันเล่าก็ได้นะคะ มันก็แค่อดีต....” ลดาพูดออกมาเมื่อสังเกตเห็นว่าเขาดูโมโหจนปิดไม่มิด ทว่าสิ่งที่เขาตอบกลับมาทำให้เธอแทบน้ำตาร่วง “ผิดแล้วครับ จะตอนไหนมันก็คือแผลเป็น คุณอาจจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปมันอาจร้ายแรงกว่าที่คุณคิด” ลดาถึงกับเงียบไป เธอรู้ดีว่าต่อให้แสร้งเป็นไม่สนใจยังไง แต่มันก็ยังคงมีผลกับเธอจนถึงตอนนี้ไม่มากก็น้อย “อย่าปล่อยมันไปเพียงเพราะคิดว่ามันไม่เป็นอะไรสิครับ คุณแค่ไม่รู้ว่าตัวเองบาดเจ็บ แค่นั้นเอง” เธอก้มหน้างุดดูมือคู่สวยที่จับกันไว้แน่นจนเกิดรอยแดง ซ่อนใบหน้าจากคุณหมอหนุ่มที่นั่งอยู่เพราะกลัวตัวเองจะร้องไห้ออกมา “บางที ถ้าได้ระบายมันอาจจะดีกับคุณนะครับ” “ขะ ขอบคุณนะคะ คุณหมอ” “เอาเถอะครับ เรายังต้องเจอกันอีกยาว วันนี้คุณทำได้ดีมาก ผมจะพาคุณไปเลี้ยงข้าวแล้วกัน” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ค่อยหิว...” จ๊อกกก~ ลดาหน้าแดงซ่าน เพิ่งจะบอกว่าไม่หิวแต่ท้องเจ้ากรรมดันร้องขึ้นมาซะงั้น “งั้นผมขอเลี้ยงข้าวพยาธิในท้องคุณแล้วกัน คงหิวน่าดู” เขากลับมาเป็นคนกวนประสาทเหมือนเดิมอีกแล้ว ปากคอเราะร้ายจริง ๆ ทั้งคู่ไปทานอาหารที่ร้านใกล้กับโรงพยาบาล พอไม่ได้อยู่ในหน้าที่ เธอก็ได้เห็นเขาในอีกมุมหนึ่งเป็นมุมที่กวนประสาทอย่างมาก เช่นตอนนี้.... “คุณกินแต่ของไม่มีประโยชน์นะ มิน่าละ ถึงได้ผอมเป็นไม้เสียบผีแบบนี้” เขาบ่นเมื่อเห็นเธอสั่งไก่ทอดมากิน แทนที่จะสั่งอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านี้ บอกเลยว่าสกิลปากเขาไม่แพ้ใครแน่นอน ลดาข่มใจไม่ให้ด่าเขากลับก่อนจะสวนคืนแบบนิ่ม ๆ “ฉันไม่ใช่ควายนี่คะ ที่จะกินแต่ผักแต่หญ้าเหมือนคุณ” เธอเองก็ใช่ย่อยซะที่ไหน เพราะอีกฝ่ายสั่งสลัดผักมากินเธอเลยเปรียบเทียบเขากับควายซะเลย “นี่คุณด่าผมเหรอ” “อ้าว แล้วคุณเป็นควายเหรอคะ ถึงได้ร้อนตัวน่ะ” “คุณนี่มัน!” “คุณหมอว่าฉันก่อนนะ ถือว่าหายกัน” หมดคำจะเถียงกับคนตรงหน้า ชาญวิทย์ก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเองไปเงียบ ๆ ผู้หญิงอะไรเถียงคำไม่ตกฟากปากจัดซะไม่มีแต่ก็ดีกว่าเห็นเธอนั่งจมทุกข์ล่ะนะ เห็นเธอเถียงเขาได้ฉอด ๆ แบบนี้ก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย “จะไปไหนต่อหรือเปล่า” ชาญวิทย์ถามขึ้นหลังทานกันไปได้สักพัก “ไม่ค่ะ ว่าจะกลับเลย เซชิลน่าจะหิวแล้ว” “เซชิล?” “ชื่อแมวค่ะ ที่เก็บมาเลี้ยงไง” “งั้นเหรอครับ นัดครั้งหน้า ผมอาจจะขอนัดนอกสถานที่นะครับเพื่อที่จะได้ไม่ตึงเครียดจนเกินไป” อยู่ ๆ ก็กลับเข้าโหมดทางการ เล่นเอาเธอตามไม่ทันเลย “ได้ค่ะ” “ขอไลน์” “คะ?” “ไลน์คุณน่ะ ไว้นัดคุยกันน่าจะง่ายกว่า” “อ้อ ได้ค่ะ” ลดาให้ไลน์ตัวเองไปแบบงง ๆ จริง ๆ เขามีเบอร์เธอนะจะอยากได้ไลน์ไปอีกทำไม แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นเตรียมตัวกลับไปทำงานต่อ “ผมต้องขอตัวก่อน ไว้เจอกันครับ” “ค่ะ” “แล้วก็ อย่าลืมทานยาที่ผมสั่งจ่ายให้ก่อนนอนด้วยนะครับ” ก่อนออกไปก็ไม่ลืมหันมากำชับให้เธอทานยาด้วย อุตส่าห์ตั้งใจจะตีเนียนลืมกินซะหน่อย “ผมรู้อาการคุณได้จากการทานยานะครับ ถ้าคุณแอบทิ้งหรือแกล้งไม่กิน ผมจะไปป้อนคุณเอง” เขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในหัวเธอแถมขู่ด้วยทีเล่นทีจริง เล่นเอาเธอทำตัวไม่ถูกเลย ดักกันขนาดนี้คงมีแต่ต้องทำตามเท่านั้น “ได้ค่าาา” เธอจงใจลากเสียงยาวเพื่อกวนประสาทเขา แต่อีกฝ่ายแค่ส่งรอยยิ้มกระตุกใจมาให้ “หวังว่าครั้งหน้า คุณจะไม่โทรมเป็นผีมาเจอกันนะ” “ไอ้หมอปากเสีย” เธอได้แต่ด่าตามหลังเขาไปเพราะอีกฝ่ายออกไปจากร้านอาหารแล้ว ยังไงเขาก็ยังเป็นคนที่กวนประสาทเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย แต่แปลกใจที่เธอสามารถคุยกับเขาได้อย่างสนิทใจ ลดายอมรับว่าเขาเป็นหมอที่เก่งทีเดียว แค่พูดคุยกันไม่กี่ครั้งก็ทำลายเการะที่เธอสร้างมาหลายปีได้แล้ว รอยยิ้มที่หายากปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว การกระทำทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาคน ๆ หนึ่งตลอดเวลาตั้งแต่ที่เข้ามาในร้าน รามที่อีกฟากของร้านอาหารเขาเห็นทุกอย่าง มือหนากำหมัดข่มอารมณ์ไว้แน่น เขาบังเอิญมาทานอาหารที่นี่พอดี ตอนที่เขาเห็นลดาและกำลังจะเข้าไปทักก็พบว่าเธอไม่ได้มาคนเดียว ทว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งมากับเธอด้วย ชาญวิทย์ไม่ได้ใส่ชุดกาวน์มาด้วย ทำให้เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและเขาเองก็ไม่รู้ว่าเธอป่วย รามได้แต่กำหมัดนั่งมองอยู่ไกล ๆ มันเป็นใครถึงกล้ามายุ่งกับผู้หญิงของเขา “ลดาต้องเป็นของรามคนเดียว ใครมันมายุ่งกับลดาผมจะจัดการมัน” รามพึมพำบอกกับตัวเอง เขาหึงจนหน้ามืดไปหมดแล้ว และไม่ว่ายังไงเขาจะไม่ยอมเสียลดาไปอีกครั้งอย่างแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD