คุณหนูบ้านนอกกับลูกกระจ๊อกจอมผื่น
ตอน เรียกลูกน้องมาลงโทษ
เช้านี้สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้งตื่นมาวิ่งออกกำลังกายขณะที่หมาขนทองสองตัวยังนอนอยู่บนโซฟาห้องรับแขกเพราะว่าอากาศหนาวมาก
น้ำฝนมัดผมยาวรวบไว้ที่หน้าบ่าขวาและสวมหมวกแก๊ปสีชมพูดูน่ารักมาก เธอใส่เสื้อกันหนาวสีขาวยาวถึงขาอ่อนโดยไม่ใส่กางเกง ช่วงล่างมีเพียงกางเกงในสีชมพูที่ปิดหุ้มอยู่ ขณะวิ่งฝ่าหมอกขาวก็รู้สึกเย็นว่าบใต้หว่างขา
ปึก! ๆ ๆ รองเท้าสีชมพูย่ำหญ้าเปียกน้ำค้างจนเลอะ เมื่อวิ่งผ่านเนินดินมาถึงต้นกล้วยก็ยืนชูมือบิดขี้เกียจ ใบหน้าสวยหันมองกล้วยหอมหลายเครือที่กำลังจะถูกเก็บเกี่ยวก็ทำให้รู้สึกถึงเม็ดเงินที่กำลังจะเข้ามา ริมฝีปากชมพูฉีกยิ้มอย่างภาคภูมิใจขณะเงยหน้าลูบมือน้อยกับต้นกล้วยแต่ละต้นที่เดินผ่าน
"ช่วงนี้พ่อบ้านทำดีกับเราเป็นพิเศษ โกรธไม่ลงจริงๆ เห้อ!"
"ว่าแต่วันนี้จะทำอะไรอร่อยๆเอาใจเราอีกนะ"
นายหญิงเอ่ยขณะยืนเขย่งเท้าดึงใบกล้วยแห้งออกจากลำต้น
ครื่ด! ๆ จู่ๆเสียงต้นกล้วยไกลๆก็ลั่นก่อนจะหักลงมาดังโครม!
"ตายแล้ว" น้ำฝนตกใจวิ่งหน้าตั้งมาดูต้นกล้วยที่หักโค่นทั้งๆที่ลำต้นมันยังเขียวอยู่เลย พอมองรอบๆก็พบว่ามันมีรูที่โดนเจาะหลายรู รูล่าสุดมีน้ำเชื้อขาวๆแห้งกรังติดอยู่
"ไอ้โรคจิตคนไหนนะ ตอนนั้นดันจำหน้าไม่ได้ด้วยสิ"
"ทำไม๊ทำไมมันถึงเจาะแต่ต้นนี้นะ บ้ารึเปล่า ดูซิรูพรุนจนหักเลย"
กร่อด! ๆ นายหญิงลุกยืนกัดฟันก่อนจะวิ่งกลับบ้านอิฐแดง แบกมีดพร้าเล่มยาววิ่งกลับมาฟันต้นกล้วย เอาตรงกลางลำที่มีรูเจาะกลับมากองไว้หน้าบ้านแล้วเข้ามานั่งรอทานมื้อเช้า
"คุณหนูครับ วันนี้มีสเต็กพอร์คชอป กับสลัดทูน่าครับ" พ่อบ้านเอ่ยขณะถือถาดอาหารที่หอมกรุ่นมาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ เมื่อไอขาวลอยฟุ้งเข้าจมูกก็ทำให้นายหญิงค่อยใจเย็นขึ้น
"ลุง เดี๋ยวออกไปเรียกลูกน้องที่ดูแลสวนกล้วยทุกคนมาประชุมก่อนจะเริ่มงานนะ"
"ครับ คุณหนู"
พ่อบ้านโค้งคำนับแล้ววิ่งออกหน้าบ้านไปคร่อมจักรยาน รีบปั่นหน้าตั้งออกไปทางเรือนไม้ของคนงานโดยพลันใด เขาทำตัวราวกับว่าเชื่อฟังเด็กรุ่นลูกยิ่งกว่าพ่อแม่ตัวเองเสียอีก ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้คุณหนูโกรธไม่ลง
โฮ่ง! ๆ ๆ หมาโกลเด้นตัวอ้วนได้กลิ่นอาหารก็รีบวิ่งมาเงยหน้าขอส่วนแบ่ง น้ำฝนใช้มีดหันสเต็กโยนลงพื้นแล้วบ่นลูกรักคุณปู่
"เห้ย! แกสองคนนี่อยู่บ้านแท้ๆไม่ได้เรื่องเลย หมูหยอง หมูทอด ปล่อยให้คนหื่นไปเจาะต้นกล้วยได้ยังไง"
ไม่ถึงสิบนาทีคนงานที่ทำหน้าที่ดูแลไร่กล้วยก็เดินมายืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ตรงโต๊ะไม้ที่พิงกับผนังบ้านอิญแดง
"คุณหนู คนงานมาแล้วครับ" ลุงพ่อบ้านตะโกนเรียก
แผล็บ! ๆ น้ำฝนแลบลิ้นเลียปากสีชมพูที่มันแผล็บก่อนจะลุกเดินออกมายืนหน้าบ้าน เธอกวาดสายตามองหนุ่มสามคนที่ยืนเรียงกันในสภาพทำหน้างง มีคนนึงที่รู้จักชื่อแล้ว เป็นหนุ่มเหนือหน้ามนอายุยี่สิบต้นๆที่ชื่อบรรจง เขาหน้าเกลี้ยงผิวขาวเหลือง ดูหล่อแบบคนดอยและใสซื่อ
อีกสองคนรู้หน้าแต่ยังจำชื่อไม่ได้ ทั้งคู่เป็นหนุ่มอีสาน หน้าตาบ้านๆแต่หุ่นก็เเน่นหนับเหมือนนักมวยไทย คนนึงโพกผ้าขาวม้าบนหัว อีกคนใส่หมวกผ้า
"มีอะไรหรือครับ คุณน้ำฝน" หนุ่มดอยเอ่ยทัก อีกสองคนยืดอกเอามือประสานหน้าหว่างขา
ฟุ่บ! น้ำฝนขึ้นมานั่งห้อยขาบนโต๊ะไม้และเอนหลังพิงผนังอิฐก่อนจะเอาสองมือกอดหน้าอก
"พวกนายน่ะ มีใครเป็นโรคจิตไหม" เสียงแหลมห้าวของนายหญิงทำเอาสามหนุ่มตกใจหน้าสั่น พ่อบ้านยังไม่กล้าปริปาก
"เปล่าครับ เปล่านะครับ" หนุ่มอีสานสองคนรีบโบกไม้โบกมืออย่างมีพิรุธ
"งั้นดูโน่น ใครเจาะต้นกล้วยของฉัน ห๊ะ!"
"แหม่ง ข่มขืนต้นกล้วยจนหักตายเลย เดี๋ยวแม่ก็เรียกตำรวจมาลากซะเลยดีไหม"
คุณหนูตวาดลั่น
"เปล่าครับ ผมเปล่าครับ ๆ " สามหนุ่มแย่งกันตอบแถมยังเดินถอยหลังอย่างเกรงกลัว
"งั้นถอดกางเกงออก ทำให้มันแข็ง" คุณหนูน้ำฝนสั่ง
"ไม่ดีหรอกครับ" หนุ่มผ้าขาวม้า
"ผมไม่ได้ทำจริงๆนะครับ" หนุ่มหมวกผ้า
"ผมด้วยครับ" หนุ่มดอย
"ถ้าจะแสดงความบริสุทธิ์ก็ถอดกางเกงออกสิ ทำให้มันแข็งแล้วเอามาทิ่มรูนี้ดู ทีละคน เร็วๆ"
"หรืออยากให้ฉันเรียกตำรวจมาก่อน"
น้ำฝนกระโจนลงจากโต๊ะแล้วอุ้มลำต้นกล้วยขึ้นมาวางไว้แทนที่
ฟุ่บ! ๆ หนุ่มอีสานสองคนไม่ตอบอะไรแต่รีบถอดกางเกงขายาวลงไปกองบยพื้นหญ้า เอามือดึงกางเกงในลงมาถึงหัวเข่าแล้วกำรูดแท่งเอ็นขณะมองสาววัยรุ่นที่ยืนกำหมัด
ส่วบ! ๆ ๆ มือสากกร้านของพวกเขากำบีบแท่งเอ็นอ่อนๆที่ห้อยลงจนแข็งตั้งขึ้นมา ปลายลำโค้งงอขึ้นชี้หน้านายสาวที่กำลังก้มมอง
อือ! น้ำฝนอ้าปากค้างเมื่อเห็นแท่งเอ็นลำโตของหนุ่มผ้าขาวม้า ขนาดของขาไม่น่าจะต่ำกว่า54 ส่วนกลางอวบอ้วนเหมือนโดนผึ้งต่อย ความจริงคือแท่งเอ็นที่ฉีดเพิ่มขนาดมาแต่นายหญิงไม่รู้จัก เธอจึงมองตาค้างและปากอ้าไม่หุบ
นายหญิงนั่งยองๆมองแท่งลำที่เกือบจะทิ่มหน้าตัวเอง หมับ! ๆ เธอเอามือจับดูตรงกลางที่อวบบวมเหมือนจะแตกและบีบเฟ้นมันเบาๆ
"โอย! เสียว" หนุ่มผ้าขาวม้ายืนเอวสั่น ฟันขบกันดังกึกๆขณะก้มมองมือน้อยขาวๆที่บีบรีดกลางลำบวมๆของเขาจนแดงช้ำ
อึก! ลุงพ่อบ้านกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ เขาทำหน้าเหมือนจะขาดใจตาย
"มันใหญ่จัง ดูแล้วมันบวมโตจนไม่น่าจะยัดเข้ารูต้นกล้วยได้นะ นายกลับไปได้" น้ำฝนเอ่ย
"แค่นี้เหรอครับ" หนุ่มผ้าขาวม้าทำหน้าเหมือนเสียดายอะไรบางอย่าง
"อือ! ไป ๆ นายสองคนมา เอายัดต้นกล้วย รูนี้" น้ำฝนสั่งสองคนที่เหลือ
"ของผมไม่แข็งครับ"
หนุ่มดอยยกมือขึ้น ทำหน้าตาใสซื่อ คุณหนูน้ำฝนกอดอกเดินวนๆรอบตัวผอมซีดของเขาและก้มมองแท่งลำขาวเหลืองที่ห้อยย้อยปลายชี้พื้นอย่างไร้น้ำยา
"ไม่แข็งแปลว่าไม่ได้เจาะต้นกล้วยงั้นรึ ไม่มั๊ง"
พูดจบนายหญิงก็เอานิ้วดีดเป๊าะๆตรงกลางลำ นั่งยองๆลงแล้วใช้มือกำขยุ้มทั่งแท่งเล่นเหมือนเด็กน้อยฟัดดินน้ำมัน
หมับ! ๆ ๆ อูยย! หนุ่มดอยยืนขาสั่นพั่บๆ แท่งเอ็นพองโตขึ้นในอุ้งมือเล็กๆของนายหญิงจนกำไม่รอบ ลำยาวโง้งดีดผึงขึ้นมาฟาดปลายคางงอนสวยดังป่าบ!
อุ๊ย! นายหญิงหงายหลังล้มตูดจ้ำเบ้าลงไปกองกับพื้น ลุงพ่อบ้านรีบเข้ามาประคองร่างของเธอลุกยืนอย่างเป็นห่วง
แปะ! ๆ ๆ "เอาเลย ยัดเข้ารูเลย ทีละคน นายก่อน นายชื่ออะไรนะ" น้ำฝนปัดฝุ่นที่เลอะมือแล้วชี้หน้าหนุ่มอีสานหมวกผ้า
"เบิ้มครับผม" เขาโค้งคำนับแล้วเดินโทงๆไปยืนหน้าโต๊ะไม้ในสภาพเปลือยท่อนล่าง ใช้มือกำโคนลำก่อนจะโยกเอวแทงปลายแท่งรักยัดเข้ารูต้นกล้วย
ส่วบบบ! แท่งเอ็นสีดำแดงแทงเข้าไปในรูต้นกล้วยอย่างง่ายดายชนิดที่ไร้อาการติดขัด
"เข้าได้ คุณหนู ไอหมดนี่คนร้าย" พ่อบ้านรีบชี้นิ้วและทำหน้าตื่นตากว้างโต
น้ำฝนเดินมาก้มมองแท่งลำยาวที่กดเข้ารูต้นกล้วยได้เกินสามในสี่ของความยาว เธอลองเอานิ้วคีบโคนแท่งแข็งร้อนแล้วบีบขณะใช้อีกมือดันตูดหนุ่มอีสานให้โยกเอวแทงเข้าไปอีก
ปึ่ด! ๆ โอ๊ย! หนุ่มเบิ้มร้องด้วยความเสียวปนเจ็บปวด
"มันเข้าไม่สุดนี่ ออกมาเบิ้ม นายลองซิบรรจง"
"ครับ ครับ" หนุ่มดอยพยักหน้าแล้วเดินเข้ามายืนแทนที่หนุ่มอีสาน ใข้มือบีบกำแท่งลำจนซีดสั่น ค่อยๆโยกเอวกดปลายหัวบานถอกอัดเข้ากับรูต้นกล้วยอย่างเชื่องช้า
หมับ! คุณหนูน้ำฝนเดินมายืนข้างหลังหนุ่มดอยแล้วใช้สองมือดันตูดของเขาขณะที่โยกเอวเอาเนินกระแทกกับหลังมือตัวเอง
ส่วบ! ๆ แท่งเอ็นหนุ่มดอยแทงอัดเข้ารูต้นกล้วยแบบมิดลำพอดีเผง
"ไอ้คนร้าย หนอย ทำมาตีสีหน้าบ้องแบ๊ว" น้ำฝนตวาดและกระโดดมายืนข้าง เขย่งเท้าง้างมือจะหวดหน้าที่ซีดเผือดของหนุ่มดอย
"ขอโทษครับ ๆ ผมขอโทษครับคุณหนู ผมไม่ใช่โรคจิตเลยนะครับ ผมแค่ไม่เคยได้เอาผู้หญิง" หนุ่มดอยลงไปนั่งคุกเข่ายกมือไหว้พนมเหนือหัว
"เกิดมาจะสามสิบผมยังไม่เคยได้ปี้เลยครับ ฮือ! ๆ"
หนุ่มดอยรีดน้ำตาร้องโฮ
ชิ! น้ำฝนลดมือลงแล้วเบือนหน้าหนีในสภาพโกรธปนเวทนา
"แล้วทำไมไม่เอาตังค่าจ้างไปซื้อกินบ้าง สาวขายตัวแถวหลังโรงแรมในเมืองก็มี" ลุงพ่อบ้านท้าวสะเอวก้มหน้าดุต่อ
"ผมต้องส่งตังไปที่บ้านครับ พ่อผมติดหนี้เขาหลายแสน เดือนๆผมเหลือตังใช้พันสองพันเอง อย่าว่าแต่ตีหม้อเลยครับคุณลุง จะซื้อไข่ซื้อหมูกินผมยังต้องคิดแล้วคิดอีกเลย"
"แล้วจะเอาไง ห๊ะ! จะให้เรียกตำรวจมาหรือให้ลงโทษ" คุณหนูน้ำฝนหันกลับมาก้มดุหนุ่มดอย
"ลงโทษครับ ๆ แต่อย่าไล่ผมออกเลยครับ หักเงินผมไปเลย หนึ่งเดือนสองเดือนก็ได้ครับคุณน้ำฝน" หนุ่มดอยเอ่ยและเอามือที่ปิดหน้าออก เห็นน้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มยิ่งทำให้เจ้านายหญิงใจอ่อน
ฟู่วส์!
"งั้นทำงานพิเศษก็ได้ ค่าแรงให้ปกติ แต่หลังเลิกงานทุกวันนายต้องมาทำงานพิเศษให้ฉันแบบฟรีๆสามเดือนนะ โอเคไหมบรรจง"
"ครับคุณหนู คุณหนูใจดีมาก สวยก็สวยเหมือนนางฟ้านางสวรรค์" หนุ่มดอยเอ่ยและยกมือไหว้
"งั้นไปปลูกต้นกล้วยเลยไป รู้นะว่าหน่อกล้าอยู่ไหน นายทำหักหนึ่งต้นงั้นปลูกทดแทนยี่สิบต้น"
คุณหนูสั่ง
"ครับผม" หนุ่มดอยวิ่งเข้าป่ากล้วยในสภาพเปลือยท่อนล่าง กางเกงสามส่วนลายทหารยังกองอยู่บนพื้นหญ้า
"ฮ่่า! ๆ ๆ มันโรคจิตแต่ซื่อจริงๆ" พ่อบ้านหัวเราะลั่น