ตอนที่ 2
มณีมันตรานักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอเดินทางกลับจากหอพักของเพื่อนสนิท และก่อนเดินทางกลับบ้านเธอได้แวะเข้าไปรับเงินจากเสี่ยกำธรเจ้าของเงินกู้รายใหญ่ประจำหมู่บ้าน ตามคำสั่งของมารดา ซึ่งเธอไม่รู้มาก่อนว่ามารดาของเธอนั้นได้รับเงินส่วนนั้นไปแล้วและนี่ก็เป็นการตกลงขายเธอให้กับเสี่ยกำธร
หญิงสาวในชุดนักศึกษาเดินผ่านความเงียบเข้าไปภายในซอยจนเดินมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง...มือเรียวบางเอื้อมไปกดกริ่งที่หน้าบ้านก่อนจะได้ยินเสียงเจ้าของบ้านข้างในตะโกนออกมา เสียงนั้นอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่เธอยืนอยู่
“เข้ามาสิหนู!!..” เธอเปิดประตูเดินเข้ามาตามเสียงของชายวัยกลางคน เจ้าของบ้านไม่ได้ล็อกประตูรั้วเอาไว้ เธอจึงเปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย พอเข้ามาภายในบ้านหญิงสาวก็เจอกับร่างของหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบที่ยืนรอเธออยู่ เขามีชื่อว่าเสี่ยกำธร เป็นคนปล่อยเงินกู้และผู้ทรงอิทธิพลในหมู่บ้านของเธอ
“สวัสดีค่ะเสี่ย” มณีมันตรารีบยกมือไหว้
“คือแม่หนู ให้แวะมาเอาเงินที่ท่านได้เอาโฉนดที่ดินมาจำนองไว้ค่ะ” มณีมันตราพูดตามที่มารดาได้โทรมาย้ำกับเธออีกรอบเมื่อช่วงเย็น
“อ๋อ!!! งั้นเชิญที่โต๊ะห้องทำงานฉันดีกว่าหนู” เสี่ยกำธรเดินนำเด็กสาวเข้าไปภายในห้องทำงานของเขา มณีมันตรารู้สึกแปลกใจว่าทำไมต้องชวนเธอเข้าไปในห้องด้วย เธอเริ่มใจคอไม่ดี ก่อนจะเข้าไปภายในห้องนั้นที่เธอมองยังไงมันก็เหมือนกับห้องนอน เธอจึงรีบล้วงเข้าไปที่กระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วควานหาขวดสเปย์พริกไทที่สุวิมลให้เธอมาไว้ป้องกันตัว
มณีมันตราอุ่นใจที่เธอพบขวดสเปย์พริกไทในกระเป๋า ก่อนจะเดินตามเสี่ยเข้าไปในห้อง แต่พอเธอเห็นโต๊ะทำงาน ภายในห้องนอนก็เลยโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ก่อนจะเดินตามหนุ่มใหญ่มานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเขา
“ฉันขอตรวจเอกสารหน่อยนะ” เสี่ยกำธรหยิบโฉนดมาตรวจดู..ระหว่างที่รอ เสี่ยหนุ่มก็เดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมายื่นให้เธอหนึ่งขวดพร้อมกับแก้ว หญิงสาวยิ้มแล้วโค้งศีรษะเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขอบคุณ แต่เธอไม่คิดจะเปิดมันดื่ม จนเวลาผ่านไปสักระยะ เสี่ยกำธรจึงคะยั้นคะยอให้เธอดื่ม
“ดื่มน้ำก่อนสิ ฉันขอเตรียมเอกสารเงินกู้สักประเดี๋ยว” เสียงเข้มของเสี่ยทำให้เด็กสาวเกรงใจจึงเอื้อมไปเปิดฝาขวดแล้วรินน้ำใส่แก้ว มณีมันตราดื่มไปเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธี เสี่ยกำธรแกล้งตรวจสอบเอกสารอยู่นานก่อนจะยื่นให้เธอเซ็นต์ หญิงสาวพยายามอ่านแต่ว่าเธอก็เริ่มตาลาย
“แม่เธอจะเอาเงินไปทำอะไรมากขนาดนั้น”
“พ่อต้องการจะเอาเงินไปรักษาตาที่เริ่มมองไม่เห็นค่ะ”
“งั้นก็ได้เวลาที่หนูจะต้องให้ความสุขกับฉันแล้วล่ะ” สิ้นเสียงเสี่ยกำธรก็ลุกจากโต๊ะแล้วเดินอ้อมมาหาเธอ ก่อนจะมือหนาจะโอบไหล่เบา ๆ แล้วดึงร่างเธอเข้าไปกอด มณีมันตราตกใจสุดขีด
“เสี่ยจะทำอะไรคะ” มณีมันตราถามเสียงสั่น ก่อนจะพยายามตั้งสติ และพยายามแกมือที่โอบรัดร่างเธอเอาไว้
“ก็เธอร้อนเงินไม่ใช่เหรอ โฉนดที่ดินนั่น..มันได้เงินไม่พอรักษาดวงตาพ่อของเธอหรอก”
“อย่าค่ะ..” เสี่ยหื่นกามไม่หยุด ก่อนจะลากตัวเธอไปที่เตียง
“อ๊ะ ช่วยด้วย!!!”
“อย่าร้องไปเลย เธอหนีฉันไม่รอดหรอก” เขารั้งร่างเธอเข้าไปกอดและพยายามซุกใบหน้าไปตามเรือนผมในขณะที่มณีมันตรากำลังดิ้นรนต่อสู้และใช้มือปัดป้องพันวัล
หญิงสาวรวบรวมสติและแรงกายทั้งหมด ก่อนจะตัดสินใจกระทุ้งเข่าไปที่กล่องดวงใจของเสี่ยจนตัวงอ จากนั้นเธอก็รีบวิ่งมาคว้ากระเป๋าสะพายที่ตกอยู่ก่อนจะวิ่งออกมาจากบ้านของเสี่ยบ้ากามอย่างรวดเร็ว ดีว่าช่วงนั้นลูกน้องของเสี่ยไปคุมอยู่ที่บ่อนกันหมด แต่เสี่ยก็วิ่งตามเธอมาทันที่รั้วบ้าน
มณีมันตรารีบล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบขวดสเปย์พริกไทขึ้นมา แล้วฉีดไปที่ใบหน้าของเสี่ยบ้ากามทันที จากนั้นเสี่ยกำธรก็กุมหน้าร้องด้วยความเจ็บปวด มณีมันตราได้โอกาสจึงรีบวิ่งหนีออกมา
หญิงสาววิ่งหนีมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาเจอรถหรูคันหนึ่งเปิดไฟสว่างจ้าแล่นเข้ามาในซอย เขาเบรกรถกะทันหันแล้วเดินลงไปหาเธอที่ล้มลงอยู่ตรงพื้น
“ช่วยด้วยค่ะ!!! ช่วยด้วย ฉันถูกคนทำร้ายมา” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยความเหนื่อยหอบ ก่อนจะขอร้องให้เขาช่วย
“เธอโดนทำร้ายมาเหรอ!!!” มณีมันตราพยักหน้ารับก่อนจะซบอกของชายหนุ่ม จากนั้นเธอก็หมดสติไป เขารีบอุ้มร่างเธอเข้ามาไว้ที่รถแล้วก็ขับออกมา