หลังจากวันนั้นผ่านไป พริมก็ยังถูกรามตามวุ่นวายอยู่เรื่อยๆ ต้องเจอหน้ากันที่บ้านทุกวัน หลีกเลี่ยงก็ไม่ได้เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่บางครั้งก็แอบรู้สึกว่ารามนั้นตั้งใจมาดักรอเจอเธอมากกว่า
ฟึ่บ~
"เฮ้ย!!" ฉันตกใจจนแทบจะร้องกรี๊ด กำลังยืนตากผ้าอยู่ดีๆ ก็มีคนโผล่พรวดออกมา หมอนี่มันยังไงกันนะ ถึงได้ชอบโผล่มาเงียบๆ แบบนี้ตลอด
"หวัดดีครับ"
"ราม!"
"ตกใจผมเหรอครับ ขอโทษครับ"
"....." ฉันถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไรกับเขาต่อ ตั้งหน้าตั้งตาตากผ้าเพราะยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ
"เย็นนี้ไปเที่ยวตลาดกันไหมครับ"
"ไม่ว่างต้องทำงาน"
"แป๊บเดียวเองครับ"
"นายอยากไปก็ไปเองสิ จะมาชวนพี่ไปทำไม"
"ก็ผมอยากให้พี่ไปด้วยนี่ครับ"
"พี่ไม่ว่าง งานเยอะ"
"อืม...มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ ผมเก่งนะครับ"
"หึ ขนาดนั้นเชียว"
"ใช่ครับ"
"งานของพี่ พี่จัดการเองดีกว่า ขอบใจที่อยากช่วย แต่ไม่เป็นไร"
ถึงจะถูกปฏิเสธไปแล้ว แต่เขาก็ยังยืนเอามือวางกับเสารั้วเอาคางเกยไปบนหลังมือของตัวเอง และดูอยู่แบบนั้นแหละ ไม่ไปไหน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เล่นเอาพริมถึงกับรู้สึกอึดอัด นี่มันไม่ใช่ตอนเด็กแล้วนะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
"พี่พริมไม่คิดถึงผมบ้างเหรอครับ?"
"คิดถึงทำไม?"
"โห่ ตอบได้ใจร้ายมากครับ"
"ตอนที่เจอกันเรายังเด็กอยู่เลยนะ แถมนายเองก็มาอยู่กับคุณยายแค่ชั่วคราว กลับไปตอนไหนฉันยังไม่รู้เลย แล้วก็หายไปเลย เพิ่งมาเจอกันเนี่ยแหละ"
ฉันพูดตามความจริง ตามสิ่งที่ตัวเองคิด ฉันไม่ได้คิดลบหรือมองอะไรไม่ดี แต่ที่ผ่านมามันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
"ผมขอโทษนะครับที่หายไป"
"จะมาขอโทษทำไม นายก็ต้องกลับไปเรียนสิ"
"ผมคิดถึงพี่นะครับ"
"ตอนนี้เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะมาพูด คิด หรือทำเหมือนเด็กไม่ได้อีกแล้ว"
"ได้สิครับ"
"???"
"ผมชอบพี่พริมนะครับ"
"....." แอบตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป
"ตอนเด็กๆ ผมเคยพูดว่า โตขึ้นผมจะเป็นแฟนพี่ ผมพูดจริงๆ นะครับ"
"ก่อนจะทำอะไร ก่อนจะพูดอะไร คิดให้มันดีก่อน"
"ผมคิดดีแล้วครับ"
"แต่พี่ไม่ได้ชอบนาย พี่เห็นนายเป็นแค่น้องชายคนนึง น้องชายที่เป็นหลานของคุณยายดอกไม้ คุณยายใจดีของพี่"
"ไม่เป็นไรครับ ผมจะชอบพี่ จะจีบพี่ จนกว่าพี่จะชอบผมกลับ"
"......" เด็กนี่นี่มันดื้อดึงจริงๆ เลยนะ ฉันอุตส่าห์ปฏิเสธไปขนาดนี้แล้วนะ
ฉันรักไม่ลงหรอก เพราะเห็นเขาเป็นแค่น้องชายคนนึง เมื่อก่อนคิดยังไง ปัจจุบันกลับมาเจอกันฉันก็ยังคิดเหมือนเดิม
"พี่พริมมีแฟนหรือยังครับ?"
"นี่มันเรื่องส่วนตัวของพี่นะ พี่ไม่จำเป็นต้องตอบนาย"
"ผมอยากรู้ครับ ตอบผมหน่อยนะครับ" ทำหน้าอ้อน
"ทำไม ถ้าพี่บอกว่ามีแฟนแล้ว นายจะไม่จีบ และเลิกยุ่งกับพี่ใช่ไหม"
"เปล่าครับ ผมจะแย่งมาต่างหาก"
"!!!" นี่มันผิดคาดที่ฉันเดาไว้เลยนะ ไม่คิดว่าเขาจะคิดแบบนี้
"ผมรักพี่มาก่อนใครๆ ผมไม่ยอมให้ใครมาแย่งพี่ไปหรอกครับ ถ้าพี่มีแฟนผมก็จะแย่งกลับมา"
"นายโตแล้วนะราม อย่าทำแบบนั้น พี่ไม่ชอบนะ"
"....."
พอโดนฉันดุเขาก็จะชอบทำหน้าหงอย จนฉันแอบรู้สึกผิดว่าดุเขาแรงเกินไปหรือเปล่า ทำไมเด็กนี่มันถึงมีอิทธิพลอะไรกับฉันขนาดนี้นะ ดุก็ไม่ได้ ว่าก็ไม่ได้
"อย่ามีแฟนเลยนะครับ"
"นายห้ามใครแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ เพราะนายไม่ได้เป็นอะไรกับเขา"
"เป็นสิครับ"
"เป็นอะไร?"
"เป็นเจ้าหมาน้อยของพี่ไงครับ"
"ราม.." ฉันถอนหายใจใส่เขา อดไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องหนักใจ หน้าตาก็ดูเหมือนจะไม่ดื้อนะ แต่ทำไมถึงพูดยากขนาดนี้นะ
"เอาดีๆ ครับ พี่มีแฟนหรือเปล่า?"
"การที่พี่ปฏิเสธนาย นั่นก็แปลว่าพี่ไม่มีและพี่ก็ไม่อยากมี พอใจแล้วหรือยัง"
"พอใจครับ พอใจมากๆ เลยครับ"
เขายิ้มออกมา ยิ้มกว้างเลยด้วย ทำตัวเหมือนเด็กจริงๆ ทั้งที่ตอนนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว ทั้งรูปร่าง หน้าตา สัดส่วน โตเกินเด็กไปมากเลย
"กลับบ้านไปได้แล้วไป เผื่อคุณยายเรียกใช้งาน"
"ยายไม่อยู่ครับไปวัด"
"งั้นก็กลับเข้าบ้านสิ จะมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้"
"ยืนมองหน้าพี่คนสวยไงครับ"
"....." ฉันเขิน เอาจริงๆ เวลามีคนมาชมว่าน่ารัก หรือสวย ก็แอบเขินอยู่เหมือนกัน มันเรื่องจริงแหละเนาะ ไม่งั้นคนไม่พูดกันหรอกคิกคิก
"พี่พริมสวยจังเลยครับ ตอนเด็กก็น่ารัก ไปโรงเรียนก็ถักเปียด้วย"
"เลิกชมได้ละ ต่อให้จะชมยังไง พี่ก็ไม่ใจอ่อน" ฉันพูดเสียงแข็ง เขารู้จักวิธีพูดเอาใจผู้หญิงนะเนี่ย พูดเก่งขนาดนี้สาวในสต๊อกคงเยอะไม่น้อยเลย อย่างว่าแหละใครก็ชอบผู้ชายปากหวาน พูดเอาใจผู้หญิงแบบนี้
"ผมจะชม เพราะมันเป็นเรื่องจริง"
"งั้นก็ตามใจ"
"อ่าว พี่พริมครับ จะไปไหน?"
"ตากผ้าเสร็จแล้ว พี่ก็กลับเข้าไปทำงานสิ"
ฉันถือตะกร้าผ้าเดินกลับเข้าไปในบ้าน ไม่ได้สนใจคนที่ยืนเกาะอยู่ที่ขอบรั้วเลย และก็ไม่ได้ออกมาอีก ยอมรับว่าลืมจริงๆ เพราะมีงานล้นมือที่ต้องทำ จนลืมไปเลย
จนกระทั่งตกเย็นวันเดียวกัน
ก๊อกๆๆ
"พริมลูก"
"ค่ะแม่ เข้ามาได้เลยค่ะ พริมไม่ได้ล็อค"
แม่เดินเข้ามาพร้อมกับมีจานขนมมาวางไว้ให้ฉัน มองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ขนมที่แม่ทำ
"ของว่างลูก"
"ขอบคุณค่ะ ว่าแต่ แม่ไปตลาดมาเหรอคะ?"
"เปล่าจ้ะ หลานชายคุณยายข้างบ้านน่ะ เขาเอามาฝาก เห็นว่าไปตลาดมา"
"อ๋อ.."
"หลานชายคุณยายข้างบ้าน เขาชื่ออะไรนะ แม่ลืม"
"รามค่ะ"
"ได้เจอกันแล้วเหรอ?"
"ค่ะ เจอกันเมื่อหลายวันก่อน ที่แม่ให้เอาขนมไปให้คุณยาย พริมเจอกับเขาน่ะค่ะ"
"อ๋อ"
"ทำไมเหรอคะ?"
"เปล่าๆ ไม่มีอะไรลูก เหมือนแม่จะจำได้ ว่าตอนเด็กๆ เขามาเล่นที่บ้านบ่อย หายไปซะนาน กลับมาเจอกันอีกทีโตเป็นหนุ่มซะแล้ว"
"....." ฉันได้แต่ยิ้มรับ
"เห็นว่าจะย้ายมาอยู่กับคุณยายถาวรนะ"
"แม่รู้ได้ยังไงคะ?"
"ก็แม่คุยกับเขามา บอกว่าอยากดูแลคุณยายน่ะ"
"....." เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้หรอกเพราะไม่ได้ถาม แต่คิดว่ามาอยู่แค่ชั่วคราวเหมือนกับตอนนั้น ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่ถาวร เพราะถ้าอย่างนั้นแม่ของเขาอยู่กับใครล่ะ
"ดูเขาเป็นเด็กนิสัยดีนะ ไปตลาดก็ยังอุตส่าห์รู้จักซื้อของฝากมาให้"
"คงติดนิสัยชอบแบ่งปันจากคุณยายมามั้งคะ"
"แต่ก็น่ารักดีนะ หาได้น้อยนะ ผู้ชายที่ไปตลาดเองแล้วหาซื้อขนมมาให้เนี่ย"
"ก็ไม่เห็นยากนี่คะ พ่อก็เป็น คนที่มหาวิทยาลัยพริมก็เป็น เขาไปไหนเขาก็ซื้อมาฝากกันตลอด"
"เรานี่นะ!"
"....."
"อะๆ ทำงานไปเถอะ แม่ไม่กวนแล้ว"
"ค่ะ ขอบคุณสำหรับขนมนะคะ"
"จ้ะ"
หายากเหรอผู้ชายที่ของฝากมาให้ผู้หญิงเนี่ย ฉันว่ามันก็หาไม่ยากนะ เพราะฉันก็เจอบ่อยที่มหาลัย แต่ก็ไม่รู้ไงว่าเขาซื้อของมาฝากแล้วต้องการอะไร บางคนไม่ได้อยากให้เราเฉยๆ แค่ต้องการอะไรตอบแทนกลับเท่านั้น
และรามฉันก็ยังไม่ไว้ใจหรอก ผู้ชายที่คุยดี เฟรนลี่กับทุกคน ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงเนี่ยเสือผู้หญิงชัดๆ เลย
"เหอะ!" คิดเรื่องเด็กนั่นแล้ว ฉันชอบเสียสมาธิทุกครั้งเลย ไม่รู้ว่ามีอะไรให้คิดนักหนา
ก่อนที่สายตาจะมองไปที่จานขนม และนึกอะไรบางอย่างออก
'ขนมอันนี้น่ะ ของโปรดพี่เลยนะหมาน้อย'
คิดถึงประโยคที่ตัวเองเคยพูดจู่ๆ ก็ร้อนหน้าขึ้นมา นี่เขายังจำได้อีกเหรอว่าฉันชอบกินอะไร ขนมอันนี้เป็นของโปรดของฉันตอนที่ยังเด็ก แต่โตขึ้นก็ไม่ได้ชอบอีก และมันก็หาซื้อยากด้วย ฉันเลยเลิกชอบไป
เขาตั้งใจซื้อมาให้เพราะเคยเป็นของโปรดฉันเหรอ?
ถามว่าจริงๆ ตอนนี้ยังชอบไหม ก็ชอบนะ ดีใจมากเลยที่ได้กินอีก จะร้องไห้เลยอ่ะ =_=