แสงแดดยามเช้าไปส่องเข้ามาภายในคอนโดของพริมาที่ตอนนี้หญิงสาวยังคงนอนหลับอยู่ไม่ได้มีการขยับตัวเองตื่น แต่เมื่อมีแสงส่องลงมาที่ดวงตาคู่สวยของพริมา เธอก็ได้ขยับตัวเองตื่น
ร่างบางขยับตัวเองเพื่อบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะได้เดินลุกเดินเข้าไปภายในห้องน้ำ
พริมาใช้เวลาเพียงไม่นานกับการอาบน้ำ เธอไม่เคยแต่งหน้าเรียกว่าปล่อยหน้าสดตลอดเวลาแต่เรื่องสกินแคร์บำรุงไม่ได้ขาดและปิดจบด้วยแป้งเด็กเท่านั้น ใบหน้าใสสวยได้รูปถูกปิดด้วยแว่นหนาตลอดเวลา ซึ่งต่อให้เธอดูสวยแค่ไหนก็ไม่มีใครมองเห็น เพราะทุกคนยังคงมองเธอเป็นสาวเฉิ่มเหมือนเดิม
การสวมเสื้อนักศึกษาตัวใหญ่ และกระโปรงพีชยาวเกือบลากดินทำให้ร่างบางดูไม่น่าค้นหาเข้าไปอีก
พริมาเดินออกมาจากห้องพักเพื่อจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัย และเมื่อหญิงสาวได้เดินออกมาจากห้องได้เพียงไม่กี่ก้าว ห้องข้างๆ เธอได้เปิดประตูเดินออกมาด้วยความบังเอิญ
เมื่อคิมหันต์เห็นแบบนั้น เขาก็ไม่รอช้าจะเดินตามร่างบางไป แต่เขาเลือกเข้าลิฟต์คนละตัวกับหญิงสาวอย่างกับว่าไม่ต้องการให้พริมาเห็นตัวเอง
คิมหันต์เดินตามพริมาออกมาจนตัวคอนโด เมื่อเขาได้เห็นว่าเธอได้เรียกรถมารับ คิมหันต์ก็ได้เดินกลับเข้าไปที่เคาน์เตอร์คอนโดอีกครั้ง
“สวัสดีครับพี่คนสวย” ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาพนักงานของคอนโดพร้อมเอ่ยเรียกหญิงสาวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ค่ะ” พนักงานของคอนโดอดจะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อถูกเรียกด้วยคำแบบนั้น เพราะคนที่เรียกเธอเขามีใบหน้าที่เรียกว่าทั้งหล่อเหล่า ทั้งดูดีจนเธออดคิดไปไกลไม่ได้
“พอดีผมมีเรื่องสงสัยหน่อยครับ” คิมหันต์เอ่ยออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนเดิม
“เรื่องอะไรค่ะ”
“ห้อง 2453 เจ้าของห้องชื่ออะไรครับ” คิมหันต์เอ่ยถามออกมาอย่างต้องการรู้ เขาอยากรู้ว่าเจ้าของห้องนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะเขาเห็นว่าห้องนั้นมีเพียงแค่ผู้หญิง ที่เป็นสาวแวนเฉิ่ม ๆ เดินเข้าออกคนเดียว เขายังไม่เห็นจะมีผู้ชายเดินเข้าออกเลย
“ของคุณพริมาค่ะ”
“แล้วมีพัสดุมาส่งในนามของพริมาเยอะไหมครับ” คิมหันต์ยังคงเอ่ยถามออกมาอย่างอยากรู้
“ไม่ค่อยมีอะไรคะ คุณผู้หญิงห้องนั้นไม่ค่อยมีพัสดุมาส่งในนามของเธอเลยค่ะ มีแต่ชื่อแปลกๆ” พนักงานสาวเอ่ยตอบออกมาแต่พอเธอนึกถึงเรื่องของพริมาก็ทำให้เธออดสงสัยในเรื่องของพัสดุไม่ได้
“ชื่อแปลกๆ เหรอครับ” คิ้วเรียวหนาขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคนถาม
“ใช่ค่ะ มีพัสดุมาส่งในชื่อของขุนศึก อะไรสักอย่างเนี่ยแหละค่ะ”
“อ๋อครับ ขอบคุณมากนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมยิ้มให้กับพนักงานสาวเล็กน้อย ก่อนเดินกลับไปที่ห้อง
จนช่วงเย็นเขาก็ได้ลงมารอดูว่าพริมาจะเข้ามาภายในคอนโดคนเดียวหรือมาพร้อมกลับคนอื่น แต่พอเห็นว่าเธอเดินเข้ามาเพียงลำพัง พร้อมเดินเข้าไปรับของที่มาส่งให้ ก่อนเดินตรงไปที่ลิฟต์
คิมหันต์ก็ได้รู้ว่านามปากกาขุนศึกซู่ซ่าเป็นพริมาจริงๆ ชายหนุ่มก็ได้เดินขึ้นห้องไปทันที
“ยัยเฉิ่มเป็นขุนศึกซู่ซ่าจริงๆ เหรอเนี่ยไม่อยากจะเชื่อเลย” คิมหันต์เอ่ยออกมาทันทีเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพักของตัวเองแล้ว
คิมหันต์ไม่อยากจะเชื่อว่าที่เขารู้ในวันนี้เป็นความจริง และเขาจะไม่ยอมหยุดสืบแค่นี้แน่นอน
ทางด้านของพริมา
หลังเลิกเรียนพริมาก็แวะซื้อของกินก่อนมารับพัสดุ และกลับเข้ามาภายในห้อง โดยเธอเลือกจะไม่แกะของขวัญที่เธอคิดว่าก็คงเป็นของใช้สำหรับผู้ชายและกล่องของขวัญถูกตรวจสอบความปลอดภัยจากสำนักพิมพ์มาก่อนแล้ว
พริมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเดินไปนั่งประจำที่คือหน้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นที่ประจำของเธอ และพริมานั่งอยู่หน้าจอได้นานหลายชั่วโมง เธอจะนั่งเขียนงานจนกว่าไอเดียในหัวของเธอจะหมดจึงจะพัก
“จะเริ่มยังไงดีเนี่ย” พริมาเอ่ยออกมาอย่างพยายามหาทางออก เธอต้องลงงานตอนใหม่เร็วๆ นี้และเธอไม่รู้ว่าจะเปิดเรื่องตอนนี้ยังไงดี ปกติการลงงานของเธอจะเป็นจนจบเรื่องก่อนแต่ไม่รู้เพราะอะไรเรื่องนี้ที่เปิดมาเธอกลับเลือกเขียนไป
ลงงานไป ความอยากลองอยากรู้ว่าตัวเองจะทำได้ไหมกลับกลายเป็นสร้างความกดดันให้กับตัวเองเพราะมีนักอ่านที่เฝ้าคอยการลงตอนต่อไปด้วย
เพราะเธอเขียนไปจนหมดแล้ว ท่าใหม่ๆ ที่เธอจะนำมาใช้ในนิยายก็ไม่มี ทำให้งานเขียนของเธอเริ่มล่าช้าลง ด้วยความไร้ประสบการณ์ของพริมา มันส่งให้งานที่เธอเขียนมีท่าทางอีโรติกจำกัด
“หรือจะลองไปหาประสบการณ์ดี” คำพูดลอยได้เกิดขึ้น พร้อมสายตาที่มองตรงไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์
“อย่าบ้า.... หยุดความคิดเลยยัยพริมาเอ๋ย”
พริมาพยายามคิดว่าเธอควรจัดการเรื่องนี้ยังไงดี เพราะถ้าให้ไปหาประสบการณ์ เธอจะต้องไปที่ไหน และคนที่จะมอบประสบการณ์ให้เธอจะเป็นยังไง
“ชั่งเถอะเขียนงานต่อก่อนดีกว่า” พริมาเอ่ยพร้อมเริ่มลงมือพิมพ์งานเขียนของเธอต่อ
‘ร่างระหงของหญิงสาวในวัย 20 ปี ถูกรุ่นพี่ในคณะของเธอ ดันให้ตัวแนบชิดไปกับกำแพงของห้องพัก หลังจากที่เธอพยายามเอ่ยบอกให้อีกฝ่ายได้หยุดการกระทำของเขา
“ทำไม มองหน้าฉันแบบนี้เธออยากให้ฉันทำอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาด้วยความจริงจัง แต่ใบเตยทำได้เพียงแค่หลบสายตาของอีกฝ่าย
ยังไม่ทันที่ใบเตยจะได้เอ่ยอะไรออกมา เมฆได้ก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง การจูบที่เร่าร้อนและรุนแรงของชายหนุ่ม ทำให้คนตัวเล็กได้ตอบสนองกับทันที
การพยายามหยอกเอิญและเกี่ยวรัดที่ลิ้นร้อนของ
ชายหนุ่มทำให้หญิงสาวแทบจะทำอะไรไม่ถูก นอกจากการตอบสนองอย่างเงอะ ๆ งะ ๆ
“เธอเนี่ยมันหวานไปทั้งตัวเองรู้ไหม” เมฆเอ่ยกระซิบที่ใบหูของร่างบาง ก่อนเขาจะได้ขบเม้นที่ใบหูของร่างบางอย่างต่อเนื่อง และมือของเขาได้ส่งไปจับที่ทรวงอกของหญิงสาวเอาไว้ และบีบเค้นอย่างเบามือ การกระทำของเมฆทำให้หญิงสาวตกใจไม่น้อย
ใบหน้าคมของชายหนุ่มได้พยายามซุกที่ซอกคอของร่างบางพร้อมการขบเม้ม มือเรียวของชายหนุ่มได้พยายามสอดเข้าไปภายใต้กระโปรงชุดเดรสของหญิงสาว
“อ้ะ ซี้ดส์” ใบเตยมีการสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือของชายหนุ่มได้สัมผัสลงที่ร่องสวาทของเธอ โดยการพยายามลูบสัมผัสผ่านเนื้อผ้าบาง
การลูบสัมผัสไปมาอย่างช้าๆ สลับกับการเร่งความเร็วในการระรัวนิ้วของชายหนุ่มทำให้เนื้อผ้าเริ่มเปียกมากขึ้นเรื่อยๆ จนชายหนุ่มพึงพอใจ ชายหนุ่มได้ย่อตัวเองลงตรงหน้ากลางกายของหญิงสาว
“จะทำอะไรค่ะ” ใบเตยจับจ้องมองการกระทำของชายหนุ่มที่เขาได้ใช้มือในการดึงเดรสของหญิงสาวเอาไว้จนมันไปอยู่ที่เอวคอดของเธอ ก่อนถอดซับในของเธอออกมา สายตาคมมองที่เนื้อเนินซึ่งตอนนี้มีแพรไหมสีดำปกคลุมอยู่ แต่เพียงไม่มากเท่านั้น
เมฆได้จับขาข้างนึงของหญิงสาวพลาดลงที่ไหล่ของเขา ก่อนขยับใบหน้าของเขาเข้าไปหาร่องสวาทของหญิงสาว
ลิ้นร้อนได้เริ่มปัดปายที่เม็ดเสียวของหญิงสาว ก่อนเขาจะได้พยายามดูดดึงที่กลีบรักของใบเตย การกระทำของเมฆทำให้ใบเตยได้แอ่นสะโพกของเธอเข้าหาริมฝีปากของชายหนุ่มมากกว่าเดิม
“อืมม์ เสียวอะ เม้มแบบนั้นเสียวเกินไปแล้ว” เสียงครางหวานดังออกมาทันทีเมื่อเมฆได้พยายามดูดดึงพร้อมใช้ลิ้นร้อนของเขาในเวลาเดียวกัน การกระทำของเขาเรียกน้ำรักจากร่องสวาทของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
จนทำให้เมฆอดที่จะส่งนิ้วร้ายเข้าไปภายในโพรงรักของใบเตยได้ง่ายขึ้น โดยการสอดนิ้วเข้าไปพร้อมกันถึงสองนิ้ว มันทำให้ร่างหนารู้สึกดีไม่น้อยเพราะความคับแน่น
ต่างจากเจ้าของร่องสวาทที่เธอทั้งเสียวทั้งแน่นยิ่งเวลาชายหนุ่ม่ไม่ขยับมือใบเตยเธอยิ่งทรมาน
“ขยับหน่อย อ้ะ ซี้ดส์ ไม่ไหวมันเสียว” ร่างกายเธอเผลอดันสะโพกเข้าหาโพรงปากของชายหนุ่ม
การขยับนิ้วพร้อมการดูดดึงสีร้างความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้กับหญิงสาวจนตอนนี้เธอเริ่มทนไม่ไหวแล้ว
“ซี้ดส์ เร็วหน่อยค่ะ ใบเตยจะไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวไม่เพียงแต่เอ่ยออกมาเท่านั้น เพราะเธอได้กดใบหน้าของชายหนุ่มเข้าหาร่องสวาทของตัวเอง จนปลดปล่อยในที่สุด’
“ไม่ไหวแล้ว” พริมาเอ่ยพร้อมมือเรียวได้ถอดแว่นของเธอออก เมื่อพริมาเขียนงานมาได้สักพัก แต่ตอนนี้พริมาคิดไม่ออกแล้วว่าเธอจะเขียนงานยังไงต่อดี เพราะความคิดของเธอตันไปหมดแล้ว มันเป็นบทแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ มากแล้ว
“สงสัยต้องไปหาประสบการณ์มาเพิ่ม”