เวลาสี่ทุ่มกว่าที่เจินเพิ่งมาร์คหน้าแล้วนวดกัวซาเสร็จ ถึงจะเครียดจนหัวคิ้วขมวดเป็นโบแค่ไหน เธอก็ต้องนวดให้เลือดไหลเวียนบนใบหน้าเพื่อให้ดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ เรื่องของยาหยีทำเธอแก่เพิ่มอีกสองปีเลย ขณะที่เจินกำลังจะเดินไปปิดไฟนอน เสียงเคาะประตูในยามวิกาลก็ดังขึ้นเสียก่อน พอเปิดประตูก็เจอเจ้าของใบหน้าคมคาย ยืนยิ้มหวานเป็นเด็กสามขวบที่ตัวโตเหมือนยักษา ใส่เพียงเสื้อกล้ามกับกางเกงขายาวสีเทา “มาเคาะห้องเจินทำไมคะ” เธอเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แววตาฉายชัดว่ายังน้อยใจเรื่องยาหยีอยู่ “มาง้อไง” “ง้ออะไร” “ก็เธอยังไม่หายงอนเฮีย” พูดจบเขาก็เดินแทรกตัวเข้าไปในห้องเธอหน้าตาเฉย ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงหกฟุต พลางตบบนพื้นที่ว่างเชิงให้อีกฝ่ายลงมานอนข้างตน เจินหรี่ตาแล้วถอนหายใจใส่ มือกดปิดไฟแล้วเดินไปที่เตียง หมับ ทันทีที่เจินกำลังล้มตัวลงนอน เรียวแขนแกร่งก็ดึงตัวเธอเข้าไปกอด จนแผ่นหลังแนบชิ