ติดในความรู้สึก(1)

1173 Words
6 ติดในความรู้สึก  หลังมื้ออาหารที่มีจุดประสงค์เป็นการนัดดูตัวจบลง พันแสงก็อาสาไปส่งหญิงสาว และแน่นอนว่าเธอปฏิเสธอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ทว่าพันแสงก็ดึงดันจะไปส่งให้ได้ โดยเอาบิดาของเธอมาอ้างว่าได้ฝากฝังให้ไปส่งเธอถึงบ้าน “บ้านสวยนะครับ” พันแสงเอ่ยเมื่อรถสัญชาติอังกฤษจอดนิ่งหน้าบ้านหลังใหญ่ที่เปิดไฟไล่ความมืดตั้งแต่ริมรั้วไปจนถึงด้านในตัวบ้าน “คุณพ่อเพิ่งรีโนเวตเมื่อต้นปีนี่เองค่ะ พร้อมทั้งตกแต่งสวนใหม่” แก้วมุกดาเบือนกลับไปมองชายหนุ่มที่สายตาจับอยู่ที่ใบหน้าของเธอ หาใช่มองตัวบ้านอย่างที่แก้วมุกดาเข้าใจ “ก็น่ารักดีนะครับ” “คะ?” เสียงเข้มกระแอมแก้เก้อพร้อมถอนสายตาจากดวงหน้าหวานละมุน เกิดมาจะอายุสามสิบอยู่แล้วยังไม่เคยเสียอาการเท่านี้มาก่อน “หมายถึงว่าตกแต่งสวนได้น่ารักดีนะครับ” “ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” แก้วมุกดากำลังจะเปิดประตูออกไป แต่แล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง “คุณพันแสงไม่มีคนรักเหรอคะ” “นึกว่าจะไม่สนใจถามซะแล้ว” เห็นเอาแต่นั่งเงียบ ปั้นหน้านิ่งค่อนไปทางหยิ่งตั้งแต่อยู่ที่ห้องอาหารและลากยาวมาจนถึงที่หมายปลายทาง “ก็เป็นเรื่องที่เราควรรู้ไว้ไม่ใช่เหรอคะ” ในเมื่อจุดประสงค์ของการทำความรู้จักกันครั้งนี้คือสานความสัมพันธ์ “เคยมีแค่ครั้งเดียวครับ แต่ผ่านมาแปดเก้าปีแล้ว จากนั้นมาก็ไม่เคยเดต ไม่คบผู้หญิงคนไหนอีกเลย พี่ทำแต่งานไม่มีเวลาไปวิ่งตามผู้หญิงหรอก” “ฟังดูเหลือเชื่อดีนะคะ” “ทำไมครับ? หน้าตาพี่ดูมีเล่ห์มีเหลี่ยมไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยเหรอ” “ก็เปล่าหรอกค่ะ” ออกจะดูซื่อๆ เสียมากกว่า แม้ค่อนข้างจะสวนทางกับความยียวนกวนโทสะที่แฝงอยู่ในแววตาคู่นั้น “ฉันแค่สงสัยว่าผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่างอย่างคุณพันแสงจะโสดสนิทจนถึงวัยใกล้เลขสามจริงเหรอ” “ผมไม่รีบร้อน และที่ผ่านมาก็สนุกกับการทำงานมากกว่า แล้วเราล่ะเคยมีแฟนบ้างไหม” “คบแบบจริงจังยังไม่เคย แต่ก็มีไปเดตไปเดินห้างฯ ดูหนังกันบ้าง ชีวิตต้องการสีสัน มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมาย ยิ่งช่วงวัยรุ่นยิ่งต้องตักตวง พอแก่ตัวไปจะได้ไม่มัวมาแห้งเหี่ยวเสียดายวันเวลา” พันแสงฟังแล้วแอบคันหัวใจยิบๆ นี่เธอแอบเหน็บแนมเขาอยู่หรือเปล่า “หาสีสันให้ชีวิตบ้างนะคะ อย่ามัวแต่บ้างาน ที่สำคัญออกตามหาคู่ชีวิตด้วยตัวเองน่าจะดีกว่าให้ผู้ใหญ่จัดสรร บ๊ายบายค่ะ” ร่างเล็กพูดจบก็เร้นหายออกไปจากรถหรู พันแสงได้แต่มองตามแผ่นหลังที่กลืนไปกับความมืดแล้ว อึ้งยกที่หนึ่งตรงโดนเด็กที่ห่างกันเจ็ดปีเหน็บแนมแกมสอน แต่ต่อมาก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากแทน “เอาเรื่องเหมือนกันนะแก้วมุกดา” **** แก้วมุกดากลับถึงบ้านในเวลาสองทุ่ม ถือเป็นเวลาที่ไม่ดึกเลย ทว่าบ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์นกลับเงียบเหงาราวกับไร้คนอาศัย แม้แต่เสียงแมลงในสวนยังไม่ขับขานให้ได้ยิน แก้วมุกดาแง้มประตูห้องบนชั้นสองเล็กน้อยพอให้ดวงตาได้แลเห็นความเป็นไปข้างใน ท่ามกลางความมืดที่กลืนกินภายในห้อง น้ำเพชรมารดาผู้ป่วยระยะสุดท้ายนอนผ่อนลมหายใจอย่างสม่ำเสมออยู่บนเตียงตามลำพัง ส่วนบิดานั้นแก้วมุกดาทราบว่าเขาไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อน “คุณน้ำเพชรเพิ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ” เสียงแม่บ้านวัยห้าสิบปีกระซิบบอก แก้วมุกดาสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าเธอมายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไร “ตกใจเลยป้าน้อย มาไม่ให้สุ้มให้เสียง” “แฮ่ๆ ขอโทษค่ะคุณหนู ป้าก็กลัวว่าเสียงจะดังไปปลุกคนน้ำเพชร เห็นอย่างนี้คุณผู้หญิงหูดีจะตาย” ป้าน้อยป้องปากกระซิบ แก้วมุกดาจึงก้าวออกห่างจากห้องของมารดาแต่ยังไม่ปิดประตู “คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ” “ก็เหมือนเดิมค่ะ นอนดูทีวีจนหลับไป ก็คงอยากอยู่รอจนคุณหนูกลับมาแต่แพ้ให้ฤทธิ์ยา คุณหนูไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะค่ะ นี่ป้าก็ลงไปอาบน้ำทาแป้งเตรียมมานอนเฝ้าคุณผู้หญิงละ” “งั้นก็รบกวนฝากคุณแม่ด้วยนะคะ” “ด้วยความยินดีค่ะ” แก้วมุกดาชะเง้อแลเข้าไปด้านในก่อนหมุนตัวกลับห้องตนเองที่อยู่ริมสุดทางเดิน ห่างจากห้องของน้ำเพชรไปอีกสองห้อง ป้าน้อยมองตามหลังคุณหนูด้วยความสงสารเห็นใจ เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยเธอจึงรู้ว่าแก้วมุกดาเป็นคนที่ซ่อนความรู้สึกเก่ง เสียใจอย่างไรก็ปกปิดไว้ด้วยความเข้มแข็ง อย่างตอนนี้ที่น้ำเพชรป่วยหนักจนถึงวาระที่ใกล้ลาโลก ทว่าน้อยที่เลี้ยงแก้วมุกดามาตั้งแต่แบเบาะกลับไม่เคยเห็นเธอร้องไห้ แต่น้อยรู้ว่าคุณหนูมีน้ำตาอยู่บ่อยครั้งเพียงแค่ไม่ยอมให้ใครเห็น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่น้อยเดินผ่านห้องคุณหนูตอนกลางคืนแล้วได้ยินเสียงร้องไห้โฮ ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าแก้วมุกดาเสียใจเรื่องอะไร แม่ของเธอกำลังจะจากโลกนี้ไป เธอก็แค่พยายามเข้มแข็งไม่ปล่อยโฮให้ใครเห็น แก้วมุกดาจะมานอนเฝ้าแม่ แต่น้ำเพชรไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อย ยิ่งที่ผ่านมาเป็นช่วงสอบ ยิ่งไม่อยากให้เหนื่อยเพลียกับการดูแลผู้ป่วย น้อยจึงมานอนเฝ้าทุกคืน รับบทคนดูแลคุณผู้หญิงแทนการทำงานบ้าน เธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่ครั้งที่น้ำเพชรเริ่มสร้างครอบครัวกับวิเลิศ ผูกพันกันมาอย่างยาวนานจนน้ำเพชรมองน้อยเป็นเพื่อนสนิทมากกว่าลูกน้องคอยรับใช้ “เก่งมากแล้วค่ะคุณหนูของน้อย” ป้าน้อยพึมพำแล้วย่องเบาเข้าไปนอนเฝ้าคุณผู้หญิง แก้วมุกดาปิดประตูห้องนอน หยิบหนังสือออกมาจากถุงกระดาษแล้ววางบนโต๊ะทำงาน ลูบตัวหนังสือปั๊มนูนบนหน้าปกแล้วอดประหวัดถึงคนให้ไม่ได้ พันแสงมีความเป็นผู้ใหญ่ วางมาดสุขุมเข้ากับลุคนักธุรกิจ โครงหน้าฟ้าประทาน หล่อหมดจดยันรูปร่างสูงใหญ่ แก้วมุกดายอมรับว่าเขาหล่อกว่าดารานายแบบบางคนเสียอีก แววตาลุ่มลึกแกมดุแกมกวน เป็นความนิ่งซ่อนความหยิ่งที่เปี่ยมเสน่ห์ แก้วมุกดารู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมของเขายังติดอยู่ปลายจมูกของเธอ มันติดตรึงได้อย่างไรทั้งที่ไม่ได้ใกล้ชิดเขาเลย หรือมันติดในความรู้สึก? “พันแสง... ชื่อเพราะดีนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD